xs
xsm
sm
md
lg

ล่า "ม้า" แก๊งคอลฯข้ามแดน ใบเสร็จย้ำเขมรเซ็นเตอร์อาชญากรรมไซเบอร์ ที่มี "ฮุนเซน" เป็นแบ็ก! ** เปิด 3 เหตุผล ที่ “ทักษิณ” อยากคุมกระทรวงมหาดไทยนัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ – ฮุนเซน -ทักษิณ ชินวัตร
ข่าวปนคน คนปนข่าว



++ ล่า "ม้า" แก๊งคอลฯข้ามแดน ใบเสร็จย้ำเขมรเซ็นเตอร์อาชญากรรมไซเบอร์ ที่มี "ฮุนเซน" เป็นแบ็ก!

ปรบมือรัวๆ ให้กับสำนักงานตำรวจไซเบอร์ (บช.สอท.) ภายใต้การนำของ “พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ” ผบช.สอท. ที่ระหว่างสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาร้อนระอุ ได้ไล่ล่าขบวนการ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ที่กลัวตายหาทางหลบหนีจากเขมรกลับเข้ามายังไทย โดยเฉพาะกลุ่ม "บัญชีม้า" ตัวการสำคัญในการดูดเงินจากเหยื่อคนไทย ซึ่งจนถึง 17 มิ.ย.68 สามารถจับกุมมาได้แล้ว 10 ราย จากหมายจับทั้งหมด 35 ราย

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ
งานนี้ “พล.ต.ท.ไตรรงค์” จริงจังขั้นสุด! และเหมือนเป็นการ “ตบหน้า” ฮุนเซน แรงๆ แทนคนไทยที่ปากดีบอกว่าเขมรเป็นชาติที่เคารพกฎหมาย ดังนั้นมีปัญหาจึงพึ่งพาศาลโลก

“ฮุนเซน” พูดไม่อายชาวโลก สิ่งที่พิสูจน์จากปฏิบัติการไล่ล่า “ม้าข้ามชาติ” ของตำรวจไซเบอร์นี้ ถือเป็นการเปิดโปง "อาณาจักรอาชญากรรมไซเบอร์" ที่ซุกซ่อนอยู่ภายใต้ร่มเงาของรัฐบาลกัมพูชา !

หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกรวบได้ สารภาพแบบหมดเปลือกว่า ตัวเองเปิดบัญชีม้าแลกเงิน และถูกควบคุมตัว ให้อยู่รวมกันใน “ตึก 25 ชั้น” ที่กัมพูชา โดยมี "บอสชาวจีน" และ "เจ๊ขายชาติคนไทย" คอยบงการอยู่เบื้องหลัง รอเพียงคำสั่งให้ "สแกนใบหน้า โอนเงิน" เมื่อมีคำสั่ง

ฮุนเซน
นี่คงไม่ต้องถามว่าข้อมูลเหล่านี้ “ฮุนเซน” รับรู้หรือไม่ ? แต่ต้องถามว่า “ฮุนเซน” รับผลประโยชน์จากแก๊งเหล่านี้มหาศาลแค่ไหนต่างหาก ?

แก๊งอาชญากรรมเหล่านี้ ทำกันเป็นล่ำเป็นสัน เพราะมีรัฐบาลเขมรเป็นแบ็ก ซึ่งก็คือ “ฮุนเซน” นั่นแหละ!

“ฮุนเซน” ยากจะปฏิเสธเรื่องนี้ นอกจากตำรวจไซเบอร์ไทย จะทำให้เห็นแล้วว่า กัมพูชาวันนี้เป็นศูนย์กลาง "อาชญากรรมไซเบอร์" ระดับโลก จากบทความของ South China Morning Post ที่ชื่อว่า “Cambodia is home to world’s most powerful criminal network” เผยแพร่เมื่อ 25 พฤษภาคม 2025 โดย Jacob Sims ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรมข้ามชาติ ก็เคยตีแผ่ ถึงความเน่าเฟะของกัมพูชา ในฐานะ "ศูนย์กลางอุตสาหกรรมหลอกลวงออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกปี 2025"
เขาแฉไว้เลยว่า เครือข่ายอาชญากรรมที่ทรงพลังในเขมร คือ "สแกม" มีมูลค่ามหาศาลหลายหมื่นล้านดอลลาร์ และกำลังเติบโต หรือใหญ่เกินกว่าจะล้มได้!

แก๊งพวกนี้ ไม่ได้เติบโตแบบลับๆ ล่อๆ แต่ได้รับการสนับสนุนอย่างเปิดเผยจาก "นักการเมืองระดับสูงในพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP)" ซึ่งเชื่อมโยงกับเครือข่ายทุจริตเก่าๆ อย่างการลักลอบตัดไม้ ค้าแรงงานผิดกฎหมาย และธุรกิจการพนัน!

เรียกว่า เขมรนั้นแปรรูปจากอาชญากรรมแบบดั้งเดิม สู่โลกไซเบอร์เต็มรูปแบบ จากเดิมที่เน้นยาเสพติดและกาสิโนเถื่อน ตอนนี้ยกระดับมาสู่การหลอกลวงออนไลน์ ใช้ทั้ง AI, และ Deepfakes เข้ามาช่วยหลอกเหยื่อ แถมยังมีตลาดมืดออนไลน์ อย่าง “Huione” หรือปัจจุบัน คือ Haowang ที่มีผู้ใช้งานกว่า 1 ล้านคน และ ทำธุรกรรมกว่า 24 พันล้านดอลลาร์ ตั้งแต่ปี 2022
คำถามคือ ที่ “ฮุนเซน” บอกว่า พร้อมรับแรงงานเขมรในไทยที่จะกลับบ้านกัมพูชารัฐบาลมีตำแหน่งรองรับถึง 150,000 ตำแหน่ง ไม่รู้ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมพวกนี้มั้ย ?

ฮุน มาเนต
ต้องไม่ลืมว่า หัวใจหลักของอาณาจักรหลอกลวงออนไลน์พวกนี้คือ "แรงงานบังคับ" ที่คาดว่ามีมากกว่า 150,000 คน ในเขมร ที่ถูกหลอกมาทำงานสกปรก บางคนถูกทรมาน โดยเหยื่อมาจากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก !

รายงานยังระบุชื่อบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับขบวนการนี้ ทั้ง “Try Pheap” ที่ถูกสหรัฐฯ แบล็กลิสต์, Ly “Yong Phat” สมาชิกวุฒิสภาและพันธมิตรคนสนิทของ อดีตนายกฯฮุนเซน และ นายกฯฮุน มาเนต, “Kok An” และที่น่าสนใจคือ “Chen Zhi” CEO ของ Prince Group ผู้ใกล้ชิดกับรัฐบาลกัมพูชา และถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวหน้าแก๊งอาชญากรรมจีนตัวจริง!

แม้รัฐบาลกัมพูชาจะออกมาโชว์พาวว่า กำลัง "กวาดล้าง" แต่เป็นแค่ "การละคร" เท่านั้น เพราะแก๊งอาชญากรรมพวกนี้แค่ย้ายฐานในเขมรจากอีกที่ไปพื้นที่ห่างไกลขึ้นเท่านั้นเอง !

พูดง่ายๆ ว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ เว็บพนันออนไลน์ ในกัมพูชาหยั่งรากลึกถึงระดับรัฐบาล และเชื่อมโยงกับ ฮุนเซน ฮุน มาเนต และเครือข่ายแน่นอน

เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ จะไม่ได้จบแค่การจับกุม "บัญชีม้าข้ามชาติ" แต่เป็นจุดเริ่มต้นของเปิดฉากรบกับ "อาชญากรรมข้ามชาติ" ที่มี ฮุนเซน เป็นแบ็ก!

ทักษิณ ชินวัตร
++ เปิด 3 เหตุผล ที่ “ทักษิณ” อยากคุมกระทรวงมหาดไทยนัก

ตั้งแต่ “ทักษิณ ชินวัตร” ประกาศจะยึดคืนกระทรวงมหาดไทย เอามาให้พรรคเพื่อไทยดูแลเอง โดยอ้างว่า 2 ปีที่ผ่านมา พรรคภูมิใจไทย เอาไปทำเสียของ ประโยชน์ไปไม่ถึงประชาชน

การปรับ ครม.ที่ยืดเยื้อมากว่า 2 เดือน ไฮไลต์ก็อยู่ที่กระทรวงมหาดไทยนี่เอง “ทักษิณ” จะเอา แต่ “เนวิน-อนุทิน” ไม่ยอม
รู้ไหมทำไม “ทักษิณ” ถึงอยากได้กระทรวงมหาดไทยนัก

ประการแรก ทักษิณต้องการใช้องคาพยพของมหาดไทยเป็น “เครื่องมือในการเลือกตั้ง”ครั้งหน้า เพราะเห็นกันอยู่ว่า ที่พรรคภูมิใจไทย เติบโตมาได้อย่างทุกวันนี้ ปัจจัยสำคัญคือ ได้คุม ได้ใช้เครือข่ายกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่ ผู้ว่าราชการจังหวัด ไปกระทั่งถึงท้องถิ่น เป็นมือเป็นไม้

เนวิน ชิดชอบ
พรรคเพื่อไทย จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปไม่ได้ ถ้าต้องการชนะเลือกตั้ง เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลครั้งหน้า จึงต้องยึดกระทรวงมหาดไทยกลับมา แล้วจัดวางคน ในการโยกย้ายผู้ว่าฯ และข้าราชการระดับสูง ของมหาดไทย ให้เรียบร้อยก่อนเดือนกันยายน ที่จะถึงนี้ เมื่อทุกอย่างลงตัว ก็จะทำให้มีทางเลือก ไม่ว่าจะอยู่ครบวาระ หรือยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ โดยไม่ฉุกละหุก
ข้อนี้ นักการเมืองรู้ดี และไม่มีใครปฏิเสธว่า การได้คุมมหาดไทย ทำให้ได้เปรียบในการเลือกตั้ง

ประการที่สอง ต้องการคุมกรมที่ดิน เพื่อถอดชนวนระเบิดเรื่อง “ที่ดินอัลไพน์” ที่ “ชาดา ไทยเศรษฐ์” อดีต รมช.มหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทย ได้วางระเบิดเอาไว้ ก่อนพ้นตำแหน่ง 3 วัน

โดย“ชาดา”ทำหนังสือไปถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย ขอให้กระทรวงมหาดไทย พิจารณาเพิกถอน "คำวินิจฉัยอุทธรณ์เดิม" ของ “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ” เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงมหาดไทย รักษาการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย กรณีที่ดิน "อัลไพน์" เป็นเหตุให้ที่ ดินอัลไพน์ ที่ถูกเอาไปปู้ยี่ปู้ยำ มีสถานะกลับมาเป็นที่ธรณีสงฆ์ ตามกฎหมาย

เรื่องนี้หากปล่อยไป นอกจากจะมีความเสี่ยง ในด้านความเสียหายในเชิง “ธุรกิจ” ของตระกูลชินวัตร ที่ต้องชดใช้ราคาที่ดินให้กับลูกบ้าน ผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ และสมาชิกสนามกอล์ฟอัลไพน์ ในหลักหลายพันล้านแล้ว “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี อาจถูกฟ้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ในภายภาคหน้า

“ทักษิณ” จึงต้องการคุมมหาดไทย คุมกรมที่ดิน เพื่อทำที่ธรณีสงฆ์ กลับไปเป็นที่ดินของตระกูลชินวัตร ให้ได้
ประการที่สาม ทักษิณ ต้องทำ “กาสิโนคอมเพล็กซ์” ให้สำเร็จ โดยไม่มีพรรคภูมิใจไทย มาเป็นก้างขวางคอ

ต้องเท้าความไปว่า ตอนแรกที่ทำ ร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวางจร หรือ “เอนนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็ก” สอดไส้กาสิโนนั้น ผู้มีอำนาจเด็ดขาดตาม พ.ร.บ.นี้ คือนายกรัฐมนตรี เพียงผู้เดียว

แต่จากการคัดค้านของ พรรคฝ่ายค้าน ประชาชน และกลุ่มจัดตั้ง ที่มีพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลบางพรรคอยู่เบื้องหลัง จนสำนักงานกฤษฎีกา ต้องปรับปรุงแก้ไข ร่าง พ.ร.บ.ฉบับเดิม โดยเพิ่มให้กระทรวงมหาดไทย เข้าไปเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ และ รมว.มหาดไทย เป็นผู้รักษาการตามกฎหมาย ร่วมกับนายกรัฐมนตรี แถมอำนาจในการแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ ก็ตกไปอยู่ในมือ “มท.1”

การออกประกาศ เพื่อกำหนดเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขของการดำเนินการ การอนุญาตและการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร การควบคุม และมาตรการบังคับ ของคณะกรรมการนโยบาย และของคณะกรรมการบริหาร จะต้องถูกตรวจร่างและกลั่นกรอง โดยพนักงานเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับการแต่งตั้งโดย รมว.มหาดไทย

อนุทิน ชาญวีรกูล
นอกจากนี้ มหาดไทย ยังกำหนดพื้นที่ สถานบันเทิงครบวงจร จะต้องมีพื้นที่เกินกว่า 2,000 ไร่ขึ้นไป แต่บางคน พยายามหาพื้นที่ใน จ.เชียงใหม่ และ จ.ภูเก็ต เพื่อที่จะทำกาสิโน แต่หาได้ไม่ครบ 2,000 ไร่ ตามที่มหาดไทยกำหนด

“ทักษิณ”ต้องการ ให้มีเอนเตอร์เทนเมนต์ฯ ที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ บ้านเกิดของตนเอง แต่หาที่ได้ไม่ครบ 2,000 ไร่ จึงพยายามเสนอแนวคิด S- M- L คือ S คือ 500 ไร่ , M คือ 1,000 ไร่ , L คือ 2,000 ไร่ แต่ก็ถูกขวางอีก

อำนาจในการกำหนดอัตราค่าภาษี ก็จะต้องถูกเสนอผ่านพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือ กระทรวงมหาดไทย ตลอดจนการกำหนด หลักเกณฑ์ลักษณะวิธีการเล่น และรายละเอียด ประเภทการพนัน ที่ปรากฏตามบัญชีแนบท้าย ตามมาตรา 70 ต้องผ่าน พนักงานเจ้าหน้าที่ และกระทรวงมหาดไทยด้วยเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ การพยายามตัดทอน หรือถอด มาตรา 84 ออกจาก ร่าง พ.ร.บ.ในชั้นกรรมาธิการ หรือการแปรญัตติ เพื่อให้การพนันออนไลน์ สามารถเข้าอยู่ใน กาสิโนคอมเพล็กซ์ และถูกต้องตามกฎหมาย ก็ถูกขัดขวางจากกระทรวงมหาดไทย อีกเช่นกัน
เรื่อง “กาสิโน” เป็นเรื่องที่ “ทักษิณ” ฝันเห็นเงินมหาศาล แต่ถูกภูมิใจไทย เตะตัดขา จึงต้องการดึงมหาดไทย กลับมาคุมเองแบบเบ็ดเสร็จ

แล้ว “หนู-เน” ซึ่งเป็นผู้ผูกปมทั้ง 3 ข้อ ที่กล่าวมาข้างต้น ไว้เป็นไม้เด็ดในการต่อรองผลประโยชน์ จะยอมให้ “ทักษิณ” มาแก้ปมนี้ต่อหน้าต่อตาหรือ

ล่าสุด “อนุทิน” ยังประกาศว่า มหาดไทย ต้องอยู่กับพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น ถ้าถูกยึดก็พร้อมจะไปเป็นฝ่ายค้าน

ต้องติดตาม ว่าสุดท้ายฝ่ายไหนจะได้ครอง ได้คุม หรือจะต้องให้มันพังกันไปโดยไม่ต้องมีใครได้!


กำลังโหลดความคิดเห็น