ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ แผ่นดินกูอยู่ตรงนี้! ไม่ไปศาลโลก "ฮุนเซน" ได้ยินมั้ย!? JBC เขมรยังเล่ห์ไม่สิ้น รัฐบาลต้องเลิก MOU43 เท่านั้น!!
ความเคลื่อนไหวล่าสุดคงเห็นกันแล้วว่าฝ่ายกัมพูชาภายใต้การบงการของ "ฮุนเซน" ไม่หยุดยั่วยุไทย
ทั้งยื่นเสนอขอให้ศาลโลกพิจารณา 3 ปราสาท 1 พื้นที่ ที่อยู่ในเขตไทย!
และทั้งที่บนโต๊ะเจรจา JBC ที่กรุงพนมเปญ สองวันก็ออกเลยแสดงธาตุแท้เล่นเล่ห์ ไม่รู้สิ้น
วงในสายความมั่นคงบอกว่า ระหว่างประชุม กัมพูชา แจ้งในที่ประชุมว่า กัมพูชาจะเสนออ้างสิทธิ์ 3 ปราสาท 1 พื้นที่ ต่อศาลโลก แถมจะให้ลงบันทึกการประชุม แต่ฝ่ายไทยค้าน แล้วเขมรก็ต่อรองว่า ให้พูดในการกล่าว Remarks!
งานนี้เขมรคิดขุดหลุมให้ฝ่ายไทยเดินลงไป ถ้ายอม "รับทราบ" ก็จะใช้เป็นหลักฐาน ยื่นต่อศาลโลก
ยังดีที่คณะเจรจาของไทย ยืนยันว่า จะไม่คุยเรื่องนี้ ทำนองว่า อยากยื่นอะไรก็ยื่นไป!
ดังนั้นการประชุมสองวัน14-15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ท่าทีฝ่ายกัมพูชา มีเจตนาแอบแฝงบนโต๊ะเจรจาตลอดเวลา
นี่คือ เล่ห์ของเขมร ที่มีเป้าประสงค์จะให้ประเด็นเรื่องสี่พื้นที่ ที่จะเอาจากไทยปรากฏอยู่ในการประชุม JBC รอบนี้ ไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม
ส่วนฝ่ายไทย ก็ท่องคาถาตามคำสั่งรัฐบาล ขอให้กัมพูชาปฏิบัติตาม "MOU43" ข้อ 5 และ ใช้กรอบทวิภาคีในการแก้ปัญหา
ทั้งๆ ที่หากย้อนดูอดีต เขมรละเมิดข้อตกลง"MOU43" นี้มามากกว่า 600 ครั้งแล้ว !
ขณะที่รัฐบาลไทยทุกรัฐบาลที่ผ่านมา ก็ได้แต่ แบะๆ จนเขมรของ "ฮุนเซ็น" สร้างถนน สร้างหมู่บ้าน สร้างกาสิโน ละเมิดข้อตกลง จนเสร็จมาหลายปีแล้ว
ประเด็นนี้ชัดเจนว่า แบบนี้…รัฐบาลจะยังยึด MoU43 ทำไม ?
ก็ในเมื่อ "ฮุนเซน" และกัมพูชาโนสน โนแคร์
สุดท้าย การประชุมจบแบบ "การทูต" สงบ ราบรื่นดี ภายหลัง "ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย" ประธานฝ่ายไทย และ"ฬำ เจีย " ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุมร่วมกันที่พนมเปญ
ความคืบหน้า คือ ความไม่คืบหน้า ไปว่ากันใหม่ในเดือนกันยายน
เขมรก็ยังยืนกราน การจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร ใช้แผนที่ 1:200,000 ไม่ยอมรับแผนที่ 1:50,000
ฮุนเซน เล่นเกมดึงดันจะไปศาลโลกถ่ายเดียว!
กลับมาที่ท่าที ที่รัฐบาลไทยอ่อนปวกเปียก มิหนำซ้ำโดยสัมพันธ์ส่วนตัวของสองครอบครัว "ชินวัตร-ฮุน เซน" ที่ใกล้ชิดประดุจครอบครัวเดียวกัน ยิ่งทำให้คนไทยรู้สึกถึง "ความไม่ไว้วางใจ" รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร
เห็นว่า ผลโพลวัดกระแสปัญหาชายแดนไทย-เขมร เรตติ้งความไว้วางใจทหาร นำหน้ารัฐบาลอิ๊งค์ ไม่เห็นฝุ่น
นอกจากนี้ คำยืนยันของแม่ทัพภาค 2 "บิ๊กกุ้ง" พลโท บุญสิน พาดกลาง ที่พูดกับทหารรุ่นน้อง รุ่นหลาน ว่า...
"ไม่ไปศาลโลก แผ่นดินกูอยู่ตรงนี้มาตั้งนานแล้ว ถ้าจะมาเอา ก็ต้องดวลกัน"
"บิ๊กกุ้ง" พูดถูกที่ถูกเวลา ภาวะผู้นำเต็มสิบไม่หัก เสียงนี้ดังก้องในหัวใจคนไทย กลายเป็นไวรัลชั่วข้ามคืน ชาวเน็ตกดไลก์ สนั่น
"ฮุนเซน" ได้ยินมั้ย? ดินแดนนี้ไม่ได้มีไว้ให้ใครอยากได้ให้ฟ้องศาลโลก ถ้ากล้ามาแหยม ต้องดวลกันเท่านั้น!
ตอนนี้คนไทยมั่นใจทหารเต็มร้อย
ในเรื่องปกป้องอธิปไตยรักษาดินแดนไทย มากกว่าไว้ใจรัฐบาล และสิ่งที่อยากรู้คำตอบจากรัฐบาล มีเพียงเรื่องเดียวคือ…จะเลิก MOU43 กี่โมง !?
++ เพื่อไทย ท้า ภูมิใจไทย ไปเป็นฝ่ายค้าน จะได้เช็กบิล “เขากระโดง – ฮั้ว สว.” แบบไม่ต้องเกรงใจกัน
เมื่อเรื่อง “ทักษิณ ชั้น 14” มีทีท่าจะยืดเยื้อไปถึงสิ้นเดือนก.ค. เรื่องปรับครม.ก็เลยเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาแทนที่
ยิ่ง “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ตอบคำถามสื่อ เหมือนฝากไปถึงพรรคเพื่อไทยโดยเฉพาะว่า ถ้าถูกริบกระทรวงมหาดไทย ก็พ้อมจะไปเป็นฝ่ายค้าน สอดรับกับ “วิทยา แก้วภราดัย” รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ บอกว่า หากถูกยึดโควตากระทรวงพลังงาน ก็ไม่ต่างอะไรกับเจตนาขับออกจากรัฐบาล ก็พร้อมเป็นฝ่ายค้านทันทีเหมือนกัน
สถานการณ์ในพรรคร่วม จึงดูเหมือนว่าพร้อมจะแตกหักทันที หากเพื่อไทยจะปรับครม.แบบ “เอาแต่ใจตัวเอง”
“วิสุทธิ์ ไชยณรุณ” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และประธานวิปรัฐบาล ออกมา “ลูบหัว แล้วตบหลัง” ในทำนองปรามาส ไม่เชื่อว่าภูมิใจไทยจะออกไปเป็นฝ่ายค้าน เดี๋ยวหัวหน้าพรรคก็เจรจากัน ไม่มีใครอยากไปเป็นฝ่ายค้านหรอก ที่พูดมา ก็แค่สร้างประเด็นต่อรองเท่านั้นเอง
“อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย คนนี้ห้าวขึ้นมาอีกนิด ออกแนวไล่ส่ง ถ้าไม่อยากอยู่ ก็ไป
...หากพรรคร่วมรัฐบาลพรรคนั้น อยู่เป็นรัฐบาลร่วมกันแล้วไม่มีความสุข ไม่สามารถพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง เพื่อยกระดับให้งานของรัฐบาลขับเคลื่อนได้ดีขึ้น ก็สามารถตัดสินใจออกไปเป็นฝ่ายค้านได้ ถือเป็นวิถีของการเมืองในระบอบประชาธิปไตย อยู่ตรงไหนก็สามารถทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนได้อยู่แล้วนี่...
ที่ห้าวจัด ออกแนว “ตัวตึง” ก็คือ “นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย บอกว่า รัฐบาลทำงานมา 2 ปี แต่มีปัญหา ไม่ลงรอยกันมาตลอด เพราะบางพรรคเอาแต่หล่อ เบี้ยวกฎหมาย มีอะไรก็ไม่มาคุยกัน ปากว่าตาขยิบ บรรดาสส.เพื่อไทย หลายคนเห็นตรงกันว่า ควรเอากระทรวงมหาดไทย กลับมาให้พรรคเพื่อไทยดูแลได้แล้ว
“นพ.เชิดชัย” ทิ่มเปรี้ยงไปที่ “อนุทิน” โดยตรงว่า ที่บอกพร้อมเป็นฝ่ายค้านนั้น กลับไปคิดดูใหม่ เอาให้แน่ว่าจะอยู่หรือไป นักการเมืองมีใครพูดจริงบ้าง เปลี่ยนได้ตลอด พรรคภูมิใจไทย เป็นรัฐบาลมาตลอด เคยเป็นฝ่ายค้านไหม หรือ อาจเป็น ก็แค่ช่วงสั้นๆ
...เชื่อว่าภูมิใจไทย ไม่กล้าเป็นฝ่ายค้าน แต่ถ้าไปจริงก็ดี จะได้เช็กบิล เรื่องที่ดินเขากระโดง กับเรื่อง การฮั้วเลือกสว.จริงๆ สักที ไม่ต้องเกรงใจกันแล้ว..เลิกเกรงใจในเรื่องอะไรที่ไม่ถูกต้องซะที...
“นพ.เชิดชัย” ยังอาละวาดฟาดหางไปที่ “มหิดลโพล” ที่สำรวจเรื่องปรับครม. แล้วผลออกมาว่าประชาชนอยากให้ ปรับกระทรวงกลาโหม เป็นอันดับ 1 ตามมาด้วย คลัง-พม.- เกษตรฯ- ท่องเที่ยว ส่วนกระทรวงมหาดไทย มาเป็นอันดับ 12 ว่า เป็นโพลของใคร สอบถามจากไหน ดูแล้วไม่เชื่อ เป็นโพล ยุ หรือโพลเชียร์ หรือ เปล่า
เมื่อคนของ “เพื่อไทย” พุ่งเป้ามาที่ “เสี่ยหนู-อนุทิน” โดยตรง แบบไม่เกรงใจ ไม่ให้เกียรติ ซ้ำดูถูก เหยียดหยาม อย่างสุดๆ ไม่รู้ว่าจะเป็นการออกมาพูดเพื่อเอาใจนาย หรือนายสั่งมาพูด ซึ่งความหมายมันคือ “ไล่ส่ง” กันตรงๆ แบบไม่อ้อมค้อม
แต่เชื่อไหม “เสี่ยหนู- อนุทิน” ทนได้ ไม่รู้สึกอับอาย เสียเกียรติ เสียศักดิ์ศรี ที่ถูกท้าทาย ถูกปรามาสเช่นนี้
ล่าสุด อนุทิน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ แบบยิ้มเหลาะแหละ หัวเราะแหะแหะ ว่า ไม่เคยบอกเลยว่า จะไปเป็นฝ่ายค้าน ย้อนไปดูคำที่ให้สัมภาษณ์ได้เลย
...ผมไม่ได้ประกาศว่าพร้อมเป็นฝ่ายค้าน สื่อฯ มาถามผมว่า หากถูกปรับออกจากกระทรวงมหาดไทย พร้อมเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ ผมก็แต่ตอบสั้นๆ ว่า พร้อม...สื่อถามมาก็ตอบไป ไม่เคยบอกเลยว่าจะไปเป็นฝ่านค้าน!!
นี่แหละคือตัวตนของ “เสี่ยหนู-อนุทิน” ที่พร้อมพลิกไป พลิกมา ตะแบง ตะบวยได้ตลอด
จึงต้องวัดใจ “ทักษิณ” กับ “นายกฯอิงค์” ว่าจะเอาอย่างไร ปรับไปตามผลของ “มหิดลโพล” หรือไม่ ถ้าเอาตามนั้น อาจะแตะไปไม่ถึงมหาดไทย
หรือตอนนี้ “ทักษิณ” กับ “นายกฯอิ๊งค์” ก็กำลังเห็นต่าง โดยทักษิณ อยากยึดกระทรวงมหาดไทยกลับมาก่อนถึงฤดูโยกย้ายผู้ว่าฯในเดือน ก.ย.นี้ เพราะมีทั้งการเลือกตั้ง พนันออนไลน์ กาสิโน รออยู่ข้างหน้า
ขณะที่“นายกฯอิ๊งค์”อาจจะอยากอยู่แบบมีความสัมพันธ์ที่ดีกับภูมิใจไทย จะได้ไม่มีแรงกดดัน จะได้อยู่ในตำแหน่งนายกฯ ต่อไปจนหมดวาระ เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง
ต้องติดตามว่าผลการปรับครม. ออกมา หน้าตาจะเป็นอย่างไร