ศาล รธน.ตีตกอีกคำร้องอุทธรณ์กลุ่ม สว.สำรอง ขอชี้ขาดสถานะ 92 สว. ชี้ ไม่ใช่บุคคลที่มีสิทธิยื่น ซ้ำไร้หลักฐานใหม่
วันนี้ (12 มิ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์สั่งไม่รับคำร้องไว้วินิจฉัยในคดีที่ พลตำรวจโท คำรบ ปัญญาแก้ว และคณะ ผู้ร้อง กล่าวอ้างว่า ตนและคณะเป็นคณะบุคคลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 41 มีสิทธิยื่นคำร้องตามมาตรา 7(5) ของกฎหมายเดียวกันและขอคัดค้านคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ 51/2568 ที่ไม่รับคำร้องขอให้พิจารณาวินิจฉัยให้ สมาชิกภาพของสมาชิกวุฒิสภา ของ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร และคณะ ผู้ถูกร้อง สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 111(7) ประกอบมาตรา 185(1) และขอให้มีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัย โดยศาลเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องต่อเนื่อง และเอกสารประกอบคำร้องปรากฏว่า การที่ผู้ร้องขอให้สมาชิกภาพของสมาชิกวุฒิสภาของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 111(7) และขอให้มีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัย มีลักษณะเป็นการยื่นคำร้องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ที่กำหนดให้เฉพาะสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรหรือสมาชิกวุฒิสภาจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของแต่ละสภาหรือคณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น
นอกจากนั้น คำร้องของผู้ร้องมีลักษณะเป็นการอุทธรณ์คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของ ศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 ไม่มีบทบัญญัติให้บุคคลมีสิทธิอุทธรณ์คำวินิจฉัยหรือคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ร้องไม่อาจอุทธรณ์คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวได้ ประกอบกับไม่ปรากฏสาระสำคัญเพิ่มเติมจากคำร้องเดิมที่ ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำสั่งไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย ส่วนกรณีที่ผู้ร้องโต้แย้งว่าตนและคณะไม่ประสงค์ยื่นคำร้อง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 แต่เป็นการยื่นคำร้องโดยอ้างสถานะความเป็นคณะบุคคลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 41 อันมีสิทธิยื่นคำร้องตามมาตรา 7(5) ของกฎหมายเดียวกัน เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยให้สมาชิกภาพของสมาชิกวุฒิสภาของผู้ถูกร้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 111(7) ประกอบมาตรา 185(2) นั้น เห็นว่า พ.ร.ป.ว่าด้วย วิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 7(5) และมาตรา 41 มิได้เป็นบทบัญญัติให้สิทธิผู้ร้อง ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องด้วย พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 41 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ผู้ที่จะขอให้ศาลพิจารณาวินิจฉัยคดีตามมาตรา 7 จะต้องเป็น บุคคล คณะบุคคล หรือองค์กรตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายอื่น” เมื่อไม่ปรากฏว่ามีบทบัญญัติใดในรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายอื่น ให้สิทธิผู้ร้อง ยื่นคำร้องได้ ดังนั้น ผู้ร้องไม่อาจยื่นคำร้องโดยอาศัยช่องทางดังกล่าว