xs
xsm
sm
md
lg

กสม.เตรียมจัดกิจกรรมสรุปบทเรียนตรวจเยี่ยมสถานที่ควบคุมตัวของรัฐ ผลักดันกลไกป้องกันทรมานระดับชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กสม.เตรียมจัดกิจกรรมสรุปบทเรียนจากการตรวจเยี่ยมสถานที่ควบคุมตัวของรัฐ เพื่อป้องกันการทรมาน ผลักดันให้มีกลไกป้องกันการทรมานระดับชาติ

วันนี้ (12 มิ.ย.) นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เปิดเผยว่า กสม.ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการป้องกันการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย ตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (CAT) และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ. 66 เป็นต้นมา โดยสำนักงาน กสม. ได้จัดตั้งกลุ่มงานตรวจเยี่ยมสถานที่ควบคุมตัวและการป้องกันการทรมานขึ้นตั้งแต่เดือนพ.ย.66 เพื่อขับเคลื่อนงานตรวจเยี่ยมสถานที่ควบคุมตัวที่เสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐ ตลอดจนเตรียมความพร้อมในการทำหน้าที่เป็นกลไกป้องกันการทรมานระดับชาติ (National Preventive Mechanism) หรือ NPM ที่สามารถตรวจสอบและเข้าถึงสถานที่ควบคุมตัวของรัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นอิสระ และสม่ำเสมอ

ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567-2568 สำนักงาน กสม. ได้ดำเนินการตรวจเยี่ยมเชิงป้องกันสถานที่ควบคุมตัวในหลากหลายประเภท ได้แก่ สถานีตำรวจ สถานที่ควบคุมตัวในการกำกับดูแลของหน่วยงานด้านความมั่นคง เรือนจำ สถานฟื้นฟูสมรรรถนะผู้ติดยาเสพติด และศูนย์ฝึกทหารใหม่ โดยมีการประชุมรับฟังและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานซึ่งเน้นการมีส่วนร่วมและสร้างความเข้าใจร่วมเพื่อป้องกันการทรมาน มีการสำรวจและตรวจเยี่ยมสถานที่ควบคุมตัว มีการสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วมและสัมภาษณ์เชิงลึก โดยประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนทั้งด้านโครงสร้างทางกายภาพ ด้านกระบวนการปฏิบัติงาน และด้านนโยบาย เพื่อสนับสนุนให้เกิดแนวปฏิบัติที่ดีในการป้องกันการทรมาน

ผลการตรวจเยี่ยมเบื้องต้นตลอดช่วงปีที่ผ่านมา พบว่า หลายสถานที่ควบคุมตัวมีการริเริ่มแนวทางปฏิบัติที่ดี ซึ่งสอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน และควรใช้เป็นต้นแบบสำหรับการขยายผลต่อไป เช่น การใช้กล้องติดตัว และกล้องในรถเคลื่อนย้ายผู้ต้องขัง การติดตั้งกล้องวงจรปิดในจุดเสี่ยง การใช้มาตรการแยกขังแทนการขังเดี่ยว การปรับใช้อุปกรณ์พันธนาการที่เหมาะสม การดูแลสุขภาพและป้องกันโรคลมร้อน รวมถึงการฝึกทหารใหม่ที่ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ตาม ยังพบข้อท้าทายที่สำคัญ ได้แก่ ข้อจำกัดด้านงบประมาณและอุปกรณ์ ความแออัดในเรือนจำและสถานฟื้นฟู บุคลากรไม่เพียงพอโดยเฉพาะพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่เรือนจำ และบุคลากรทางการแพทย์ ความรู้และทักษะของเจ้าหน้าที่ไม่ทันกับกฎหมายหรือเทคโนโลยีใหม่ และระบบร้องเรียนที่ยังไม่ปลอดภัยและสามารถเข้าถึงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น เพื่อรับฟังและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต่อกลไกการตรวจเยี่ยมของ กสม. และพัฒนาสู่การเป็นกลไกตรวจเยี่ยมระดับชาติ (NPM) ตามภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (OPCAT) ซึ่งอยู่ระหว่างการผลักดันให้ประเทศไทยเข้าเป็นภาคี วันที่ 26 มิ.ย. 68 ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นวันต่อต้านการทรมานสากล (International Day in Support of Victims of Torture) กสม. จึงร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม และองค์กรระหว่างประเทศ จัดกิจกรรมสรุปบทเรียนและขับเคลื่อนข้อเสนอแนะเชิงนโยบายจากการตรวจเยี่ยมเชิงป้องกัน เพื่อขับเคลื่อนกลไกการตรวจเยี่ยมเชิงป้องกันในบริบทของสังคมไทยให้มีประสิทธิภาพและสอดคล้องตามมาตรฐานสากลมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ เพื่อแสดงพลังสนับสนุนเหยื่อที่เคยถูกกระทำทรมาน เสริมสร้างการรับรู้ต่อสาธารณะ และรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนในสังคมตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันการทรมานอย่างเป็นรูปธรรมต่อไปด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น