เปิดบิลค่าน้ำ-ไฟ รัฐสภา แพงลิ่ว ขนาดอยู่ช่วงสภาปิด ครึ่งแรกปีงบ 68 ค่าน้ำพุ่งแล้วกว่า 5 ล. ก.พ. 28 วัน แต่ค่าน้ำ 1 ล.แพงสุด สส.ปชน.ชี้ งบค่าน้ำ-ไฟ สภา ตกปีละ 174 ล. เปิดแอร์หนาวเหมือนอยู่ขั้วโลก ปรับอุณหภูมิไม่ได้ ขณะชาวบ้านต้องสู้ค่าไฟแพง
วันนี้ (12 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภา ถึงข้อมูลสถิติการใช้น้ำประปา ของสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปีงบประมาณ 2568
โดยรัฐสภาทั้งในส่วนของสำนักเลขาธิการสภา และ สำนักเลขาธิการวุฒิสภา มียอดใบแจ้งหนี้น้ำประปาตั้งแต่เดือน ต.ค. 67-เม.ย. 68 รวม 330,395 หน่วย เป็นเงินทั้งสิ้น 5,646,358.97 บาท แบ่งเป็น เดือน ต.ค. 67 มียอดใช้น้ำตามใบแจ้งหนี้ 39,348 หน่วย เป็นเงิน 672,544.73 หน่วย เดือน พ.ย. 67 ยอดใช้น้ำ 35,215 หน่วย เป็นเงิน 601,964.67 บาท เดือน ธ.ค. 67 ยอดใช้น้ำ 44,493 หน่วย เป็นเงิน 760,406.93 บาท เดือน ม.ค. 68 ยอดใช้น้ำ 51,208 หน่วย เป็นเงิน 1,033,300.58 บาท เดือน ก.พ. 68 ยอดใช้น้ำ 60,473 หน่วย เป็นเงิน 1,033,300.58 บาท เดือน มี.ค. 68 ยอดใช้น้ำ 46,817 หน่วย เป็นเงิน 800,094.34 บาท และเดือน เม.ย. 68 ยอดใช้น้ำ 52,841 หน่วย เป็นเงิน 902,967.39 บาท อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า เดือน ก.พ.มี 28 วัน แต่ค่าน้ำประปาของรัฐสภากลับพุ่งสูงถึง 1 ล้านกว่าบาท
โดยในส่วนสำนักงานเลขาธิการสภา ที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายร้อยละ 70 นั้น มียอดการใช้น้ำรวม 231,276.50 หน่วย เป็นเงิน 3,952,451.28 บาท ขณะที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ที่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายร้อยละ 30 มียอดใช้น้ำรวม 99,118.50 หน่วย เป็นเงิน 1,693,907.69 บาท
ก่อนหน้านี้ นายธัญธร ธนินวัฒนากร สส.กทม.พรรคประชาชน ได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขค่าไฟของรัฐสภา ซึ่งตกเดือนละ 12-14 ล้านบาท โดยระบุว่า การใช้ไฟฟ้าของรัฐสภามีปัญหา ตั้งแต่เรื่องแอร์เย็นจัด ปรับไม่ค่อยได้ ในขณะที่คนไทยต้องประหยัดไฟ ปรับแอร์ขึ้นสัก 1 องศา หรือลดเวลาเปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า เพราะค่าไฟในแต่ละเดือนไม่ต่างจากภาระผูกพันหนักอึ้ง แต่ที่รัฐสภาค่าไฟฟ้ายังคงสูงลิ่ว แม้ในช่วงปิดสมัยประชุม ที่น่าจะเป็นช่วงเวลาที่การใช้พลังงานลดลง อย่างน้อยควรลดลงจากห้องประชุมและห้องทำงานส่วนตัวสส.และสว.กว่า 700 ห้องไม่ได้เปิดใช้งานเต็มที่ แต่ตัวเลขกลับแทบไม่ขยับลงอย่างที่ควรจะเป็นหลายห้องภายในอาคารแอร์หนาวจัดเหมือนอยู่ขั้วโลก ระบบปรับอุณหภูมิใช้งานได้ไม่เต็มที่ หลายจุดควบคุมอุณหภูมิไม่ได้ หรือถูกล็อกไว้ ค่าไฟยังสูง แม้ไม่มีการประชุมหรือกิจกรรมหลักในบางช่วง
นายธัญธร ยังตั้งคำถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับระบบการบริหารจัดการพลังงานในอาคารรัฐสภาใหม่ ที่มีงบประมาณก่อสร้างกว่า 12,000 ล้านบาท เหตุใดระบบควบคุมอุณหภูมิถึงไม่มีความยืดหยุ่นตามการใช้งานจริง ใครรับผิดชอบเรื่องนี้ และมีการตรวจสอบความคุ้มค่าของการใช้ไฟหรือไม่ การใช้พลังงานในหน่วยงานของรัฐ ควรเป็นต้นแบบของความประหยัด มีประสิทธิภาพ และยึดโยงกับความรับผิดชอบต่อสาธารณะ อาจถึงเวลาแล้วที่ประชาชนควรขอใบเสร็จค่าไฟ พร้อมคำอธิบายสักหน่อยว่า ความเย็นนี้คุ้มกับเงินแค่ไหน
นายธัญธร ยังได้เปิดเผยบิลค่าไฟรัฐสภา โดยรอบบิลเดือน ธ.ค. 67 เป็นเงิน 12,303,509 บาท เทียบกับปีก่อนหน้า 12,135,868.20 ล้านบาท เดือน ม.ค. 68 จำนวน 12,712,231.30 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนหน้า 14,421,496.40 บาท เดือน ก.พ. 68 อยู่ที่ 12,241,878.69 บาท เทียบกับปีก่อนหน้า 14,338,749,51 บาท เดือน มี.ค. 68 14,248,939.14 บาท เทียบกับปีก่อนหน้า 15,859,131,82 บาท และเดือน เม.ย. 68 เป็นเงิน 13,052,279.55 บาท เทียบกับปีก่อนหน้า 14,688,068.97 บาท ทั้งนี้ สภาปิดสมัยประชุมเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีการจดมิเตอร์ในช่วงปลายเดือนคือวันที่ 30 เม.ย.
ส่วน นายภัณฑิล น่วมเจิม สส.กทม.พรรคประชาชน ระบุว่า ภาพรวมงบประมาณค่าไฟของรัฐสภาอยู่ที่ 160 ล้านบาทต่อปี และในส่วนของค่าน้ำประปาอยู่ที่ปีละประมาณ 14 ล้านบาท หรือเฉลี่ยเดือนละ 1 ล้านกว่าบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาคารรัฐสภามีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 424,000 ตารางเมตร ซึ่งรองรับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ สส. สว. และผู้มาติดต่อราชการได้จำนวน 5,000 คน