ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ เรื่องทักษิณป่วยทิพย์...ติดคุกทิพย์ ลืม “ลุงตู่ กับ วิษณุ” ได้ไง !! ตอนที่ 1 ... ”สามวันอันตราย”
สัปดาห์นี้ มีประเด็นร้อนทางการเมืองที่ต้องจับตา อยู่ 3 เรื่อง เป็น 3 วันอันตราย ที่ล้วนเกี่ยวพัน มีผลกับ “ทักษิณ ชินวัตร” และรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร
พฤหัสฯที่ 12 มิ.ย. แพทยสภา นัดลงมติยืนยันมติเดิมที่ลงโทษแพทย์ 3 คน ที่ให้ความช่วยเหลือ”ทักษิณ ชินวัตร” ไปเป็นคนไข้ “ป่วยทิพย์” ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ
ศุกร์ที่ 13 มิ.ย. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพร้อมผู้เกี่ยวข้องรวมทั้ง “ทักษิณ” ไปไต่สวน เรื่อง “ติดคุกทิพย์” ที่ชั้น14 ร.พ.ตำรวจ
เสาร์ที่14 มิ.ย. จะมีการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย-กัมพูชา หรือ “เจบีซี” ที่กรุงพนมเปญ เพื่อคลี่คลายปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ผลการเจรจาจะเป็นตัวบอกว่าทำเพื่อชาติ หรือเพื่อผลประโยชน์ของใครกันแน่
เบื้องต้น เรื่องที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 มิ.ย.และ 13 มิ.ย. มีความเกี่ยวเนื่อง และจะมีผลอย่างมีนัยสำคัญต่อตัว “ทักษิณ” โดยตรง
เป็นที่รับรู้กันว่า ข้อกังขาของสังคม ที่ว่า “ทักษิณ” ได้ไปพักอยู่ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ เป็นเพราะป่วยวิกฤตจริง หรือได้การช่วยเหลือจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้ไปอยู่สบาย ไม่ต้องติดคุก
ซึ่งแพทยสภา โดย “นพ.อมร ลีลารัศมี” ประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจ ก็มีคำตอบให้แล้ว ด้วยการลงโทษพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ของแพทย์ 2 คน ที่รายงานอาการเจ็บป่วยไม่ตรงกับความเป็นจริง และ ลงโทษว่ากล่าวตักเตือนอีก 1 คน ฐานประกอบวิชาชีพเวชกรรมไม่เป็นไปตามมาตรฐาน
แต่ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแพทยสภา ได้มีความเห็นยับยั้ง (วีโต้) การลงโทษของมติแพทยสภา ดังกล่าว
“สมศักดิ์” ใช้วิธีตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง พิจารณาเรื่องนี้ เพื่อจะบอกว่า ที่วีโต้ไปนั้น เป็นไปตามมติของคณะกรรมการฯ ไม่ใช่ตัวเองเป็นคนตัดสินใจเอง
วันที่ 12 มิ.ย.นี้ จึงมีการประชุมแพทยสภา เพื่อยืนยันการลงโทษแพทย์ 3 คน ตามมติเดิม ซึ่งต้องใช้เสียง 2 ใน 3 ของกรรมการแพทยสภา คือ ต้องมีเสียงสนับสนุนไม่น้อยกว่า 47 เสียง จากจำนวนกรรมการทั้งหมด 70 คน
มีรายงานว่า ในช่วงที่ผ่านมา มีการลอบบี้กรรมการแพทยสภา ในสายที่เป็นข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข และเครือข่าย ให้งดการเข้าร่วมประชุม หรือถ้ามาประชุม ก็ให้ใช้วิธี “งดออกเสียง” เพื่อไม่ให้มีเสียงสนับสนุนถึง 47เสียง
ที่สำคัญ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” บอกออกมาแล้วว่าจะเข้าไป “กำกับ” ในที่ประชุมครั้งนี้ด้วยตัวเอง โดยอ้างว่าจะไปตอบคำถามกรรมการแพทยสภา หากมีข้อข้องใจ สงสัย ว่าทำไมถึงวีโต้
เรียกว่าเอากันให้สุดๆไปเลย เพราะตอนที่ “สมศักดิ์” เป็นรมว.ยุติธรรม ใน“รัฐบาลลุงตู่” ก็เป็นคนออกระเบียบเรื่องขังนอกคุก ตอนนี้ก็มาเป็น รมว.สาธารณสุข ก็วีโต้ มติแพทยสภา
จึงต้องจับตาว่า ระหว่าง “การเมือง” กับ “ศักดิ์ศรี” ของแพทยสภา ใครจะเป็นฝ่ายชนะ!!
และผลมติของแพทยสภาครั้งที่ 2 นี้ ก็จะมีผลต่อการใช้เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ว่า “ทักษิณ” ได้ติดคุกตามคำพิพากษาของศาลแล้วหรือยัง
อย่างไรก็ตาม มีนักกฎหมายหลายคนให้ความเห็นว่า มติของแพทยสภา ในครั้งแรกนั้น ก็ชี้ให้เห็นแล้วว่า แพทย์ รพ.ราชทัณฑ์ ที่เป็นคนทำเรื่องส่งตัวทักษิณ ไปรักษาที่รพ.ตำรวจนั้น ขาดมาตรฐานในการใช้วิจารณญาณ ส่วน อีก 2 คนที่ รายงานอาการเจ็บป่วย ไม่ตรงกับความเป็นจริง นั้นก็คือ ทักษิณไม่ได้ป่วยวิกฤต ก็แจ้งว่าป่วยวิกฤต
ดังนั้น การวีโต้เรื่องลงโทษแพทย์ทั้ง 3 คน ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ก็ไม่เกี่ยวกับ “ข้อเท็จจริง” ที่เกิดขึ้นตามความเห็นของแพทยสภา
ที่ต้องติดตามในวันที่ 13 มิ.ย. คือ เมื่อศาลฎีกาฯ ไต่สวนแล้ว จะมีคำตัดสินออกมาในวันนั้นเลยหรือไม่ และ “ทักษิณ” จะไปศาลฯ หรือไม่
ส่วน “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ กับ “วิษณุ เครืองาม” อดีตรองนายกฯ เกี่ยวข้องอย่างไร กับ เรื่องของ ทักษิณ ชั้น 14 โปรดติดตาม ตอนที่ 2 ในวันพรุ่งนี้
++ ฟาดกันบ้านพัง “เสี่ยเฮ้ง” เซ็งลี้เตรียมย้ายรังไปหาโอกาสใหม่กับใครคนเดิม!?
พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่ตั้งชื่อให้ดูมุ่งมั่นจะ “สร้างชาติ” บัดนี้กลับกลายเป็นรวมไทย “สร้างเรื่อง” เปิดศึกภายในกันดุเดือด
ล่าสุด เอกสารหลุดรายชื่อ 21 ส.ส.แก๊งเสี่ยเฮ้ง “สุชาติ ชมกลิ่น” รมช.พาณิชย์ ที่เรียกร้องให้ปรับครม.ในส่วนโควต้าพรรค รทสช. เมื่อวันวานได้ลุกลามให้อีกฝ่ายตั้งหลักสาวไส้ฟาดกลับ!
เริ่มจาก "ขิง" เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม และเลขาธิการพรรค โต้กลับผ่านสื่อแบบไม่ไว้หน้าบอกว่า “ไม่ชัวร์ว่าเอกสารจริง หรือมั่ว” และยังสงสัยว่า ลายเซ็นส.ส.หลายราย อาจจะเป็น “ก็อปเกรดต่ำ” ไม่ตรงกับเอกสารราชการ
และมี ส.ส. บางราย เช่น “ทีมชุมพร” ออกมาปฏิเสธเสียงแข็ง ไม่รู้ไม่เห็นกับหนังสือดังกล่าว
นอกจากนั้น ยังมีประเด็นชวน “ขมวดคิ้ว” คือในหนังสือระบุข้อความว่า “รัฐมนตรีของ รทสช. ขาดความรู้ ความสามารถ และจริยธรรม”
แต่ชื่อผู้ลงท้าย กลับเป็น "สุชาติ ชมกลิ่น" ซึ่งก็เป็นรัฐมนตรีในพรรคเช่นกัน !
นี่ทำให้ต้องตั้งคำถามแรงๆ ว่า ถ้าเซ็นจริง แปลว่า นี่คือการ “ด่าตัวเอง” หรือไม่ !?
ไม่เพียงเท่านี้ วงในพรรคฝั่ง “เอกนัฏ” ยังออกมาตั้งคำถามเรื่องสถานที่ หรือโรงแรม "ก๊วนเสี่ยเฮ้ง" ไปนัดพบปะหารือกับนั้น มันคุ้นๆ ว่าบังเอิญอยู่ในเซฟโซนของนายทุน ที่เคยให้น้ำเลี้ยงพรรคมาก่อนหรือไม่ !?
ทันทีที่เอกนัฏ เปิดฉาก"เผา" ฝั่งเสี่ยเฮ้ง อยู่นั้น ลูกหาบท่านหัวหน้าอย่าง “น.ส.อรพินทร์ เพชรทัต” เลขานุการรมว.พลังงาน ก็ออกมาโพสต์เดือดในเฟซบุ๊ก ชนิดที่ไฟแทบลุกหน้าจอ ระบุว่า "ท่านหัวหน้าพรรคพีระพันธุ์ ทำงานจนเส้นเลือดในตาแตก ยังต้องมาทนกับนักการเมืองที่ไม่คิดถึงบ้านเมือง มัวห่วงตำแหน่งตัวเอง"
พร้อมซัดตรงๆ ไปที่ รมช.สุชาติ ว่า “ถ้าไม่ช่วย ก็อย่าถ่วง! ถ้ารู้ตัวว่าไม่มีประโยชน์ ก็กลับไปเลี้ยงหลานเถอะ!”
เรียกว่า “มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ”... แรงพอมั้ยล่ะ!
ว่ากันว่า เอกสารหลุดที่เป็นชนวนต้นเหตุนี้ มีความไม่พอใจและมีจุดหมายตรงไปที่การ “ขับ” ผู้นำพรรคทั้งคู่ คือ "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" หัวหน้าพรรคและรมว.พลังงาน , “เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” เลขาฯพรรค และรมว.อุตสาหกรรม
แต่เบื้องลึกแท้จริงแล้ว หัวใจของเรื่องนี้คือ ตำแหน่ง รมว.พลังงาน ของ “พีระพันธุ์” ที่ทำงานไม่เข้าตาสปอนเซอร์!!! เป็นไม้เบื่อไม้เมา ทำเอาพี่เลี้ยงผู้มากประสบการณ์ในวงการนี้ ดีกรีรัฐมนตรีเก่าที่เคยประกบต้องส่ายหัว ถอนตัวออกจากพรรคไปก่อนหน้านี้
ฟาก “เสี่ยเฮ้ง” ที่มีคนพร้อมเซ็งลี้อ้างว่าทั้งสองคน ขาดภาวะผู้นำ โดยเฉพาะ “พีระพันธุ์” ปล่อยให้กลุ่มใกล้ชิดครอบงำพรรค แถมตั้งพวกตัวเองในตำแหน่งต่างๆ โดยไม่มีผลงานจับต้องได้
แถม "ทีมงานรอบข้าง" บางคนของหัวหน้าพรรคยังมีเสียงเล่าลือกันว่า บางรายเคยถูกถอดยศ บางรายมีฉายาว่า "ตั้งโต๊ะ" เพราะพฤติกรรมกินรวบ โครงการภาครัฐ
ผลงานในกระทรวงอุตสาหกรรมของ"เอกนัฏ" ก็ถูกวิจารณ์ว่า มุ่งสร้างกระแสมากกว่าฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรม ซึ่งสภาพัฒน์ ก็ยืนยันว่าเศรษฐกิจภาคการผลิตยังถดถอย
นี่ยังไม่นับปมร้อน 2 ลูกใหญ่ รอระเบิด! กรณีถุงยังชีพปตท. ที่เอาไปติดชื่อ "พีระพันธุ์" แจกโดยไม่ชี้แจง
และ ข้อกล่าวหาเรื่องถือครองหุ้นต้องห้าม ซึ่งป.ป.ช. มีหมายเรียก แต่เจ้าตัวเงียบสนิท
เรียกว่า "ก๊วนเสี่ยเฮ้ง" ที่มีข่าวจะชิ่งไปหา "โอกาสใหม่" กับใครคนเดิม เอารถแบกโฮ มาทุบพรรคตัวเองให้พังพาบราบเป็นหน้ากลอ งก่อนจากลา เพราะใช้แรมโบ้รบพิเศษ มาสร้างกระแสปฏิวัติพรรคไม่สำเร็จติดแหง็ก อยู่ที่ภูเขาหิมาลัย รึเปล่า?
สุดท้าย นาทีนี้จึงไม่มีอะไรดีสำหรับ รสทช. มรดกตกทอดยุค คสช. ของลุงตู่ มาถึงตรงนี้ มีแต่พัง กับพัง เละกว่านี้มีมั้ย
ภายในร้าวลึกแตกเป็นเสี่ยง อาการหนัก ถ้าเปรียบเป็นร่างกาย พรรคนี้ก็คือ...กำลังติดเชื้อในกระแสเลือด!
