เมืองไทย 360 องศา
กระแสความเคลื่อนไหวในการปรับคณะรัฐมนตรีที่ก่อนหน้านี้จุดพลุเพื่อสร้างแรงกดดันจาก นายทักษิณ ชินวัตร ที่บกว่าจะรวบเอากระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาอยู่ในความดูแลของพรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคเพื่อไทย พร้อมกับท่าทีในการปรับคณะรัฐมนตรีหลายกระทรวง หรือเรียกว่า “ปรับชุดใหญ่”
อย่างไรก็ดี ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวดังกล่าวกลับ “หยุดกระทันหัน” ซึ่งสาเหตุอาจเป็นเพราะหลายอย่างไม่เป็นใจ ไม่ว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กำลังทำให้รัฐบาลโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร กำลังเสียเครดิตอย่างหนัก มีภาพที่เป็นลบเพิ่มขึ้นกว่าเดิม
ขณะเดียวกันเมื่อเวลาใกล้ถึงวันที่ 13 มิถุนายน ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนคดีที่เชื่อมโยงกับ “ชั้น 14” โรงพยาบาลตำรวจ และกำลังมีความเสี่ยงที่ผลออกมาเป็นลบ และเสี่ยงที่จะกลับมาติดคุกมากขึ้นเรื่อยๆ จะด้วยสาเหตุอย่างหลังหรือเปล่า ที่ทำให้ต้องหยุดเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี เอาไว้ชั่วคราว ไว้รอเคลื่อนไหวอีกครั้งหลังจากวันที่ 13 มิถุนายน ผ่านไปแล้ว
แน่นอนว่าหากมีการโฟกัสกันในเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี ที่ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ยอมรับทำนองว่า “ถึงเวลาต้องปรับแล้ว” และต้องรอหารือกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลก่อน
ขณะเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันมีรายงานความเคลื่อนไหวว่าจะมีการปรับหลายกระทรวง โดยเฉพาะในพรรคเพื่อไทย ที่ได้เวลาต้องหมุนเวียน ปรับเปลี่ยน เนื่องจากสำหรับพรรคนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ อีกทั้งมีหลายกระทรวงที่บรรดารัฐมนตรีมีฝีมือและผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน
อีกทั้งมีความเคลื่อนไหวจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยเฉพาะภูมิใจไทย ที่เมื่อราวสามสี่วันที่ผ่านมามีข่าวได้เสนอให้ปรับใหญ่ไปเลย โดยเป็นการเกลี่ยกระทรวงกันใหม่ หากต้องการแลกกระทรวงมหาดไทย โดยมีการยื่นข้อเสนอทั้งกระทรวงคมนาคม ศึกษาธิการ สาธารณสุข และ กระทรวงท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งข่าวแบบนี้ย่อมมองออกว่า “เป็นไปไม่ได้” แน่นอน เพราะพรรคเพื่อไทย คงไม่ยอมแลก โดยเฉพาะกระทรวงคมนาคม ดังนั้น จึงเสนอแบบป่วนมากกว่า เป็นไปได้
อย่างไรก็ดี ข่าวดังกล่าวก็ถูกปฏิเสธออกมาจากพรรคภูมิใจไทย โดยย้ำว่า ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรีให้เป็นอำนาจการตัดสินใจของหัวหน้าพรรคคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล และ นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค เท่านั้น
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการปรับคณะรัฐมนตรี ว่าขณะนี้นายกรัฐมนตรียังไม่มีการประสานมา
“ขอให้สื่อเลิกถามได้แล้วเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี เพราะนายกฯบอกว่า หากจะปรับเมื่อไหร่จะเรียกหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลหารือ ตอนนี้ก็ยังไม่เรียก แสดงว่ายังไม่มีการปรับ”
เมื่อถามว่าหากมีเงื่อนไขนี้มา ทางภูมิใจไทยจะว่าอย่างไร รมว.มหาดไทย ตอบว่า พูดไปหมดแล้ว และว่า ขอให้ผู้สื่อข่าวฟังท่านนายกฯ คนเดียว วันที่ 4 มิ.ย. นายกฯบอกแล้ว ณ ขณะนี้ยังไม่มีความคิดที่จะปรับ หากจะปรับเมื่อไหร่จะหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล ท่านพูดชัดเจนแล้ว จะไปถามคนอื่นได้อย่างไร และในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ยังไม่ได้คิดอะไรเรื่องนี้ คิดแต่เรื่องจะทำงาน โดยเฉพาะสถานการณ์ข้อพิพาทชายแดนไทยกัมพูชา เมื่อทหารทำหน้าที่แล้ว เราจะดูแลประชาชนอย่างไร เมื่อถามอีกว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้ไม่มีอะไรน่ากังวลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนคิดว่าขณะนี้ทำงานกันเต็มที่อยู่และไม่มีประเด็นอะไรน่ากังวล
ก่อนหน้านั้น นายอนุทิน กล่าว ยืนยันว่า ยังไม่มีการพูดคุยใดๆ ซึ่งเรื่องการปรับครม. หากมีการถามมายังพรรคภูมิใจไทย พรรคก็ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร เพราะได้คุยในเบื้องต้นภายในพรรคแล้วว่า รัฐมนตรีทุกคนยังทำงานได้อย่างเต็มที่ กระทรวงที่กำกับดูแลในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร
ถามว่ากระแสข่าวการเขย่าเก้าอี้แบบนี้ แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการกระทรวงมหาดไทยคืน ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่มองว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร มันเขย่าไม่ได้ นี่เป็นรัฐบาลผสม และเป็นข้อตกลงที่เราหารือกันตั้งแต่เราตั้งรัฐบาล นายกฯเศรษฐา ทวีสิน 2 ปีแล้ว และมายังรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รูปแบบนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ตรงนี้ไม่ใช่ว่าเป็นของใคร แต่เป็นข้อตกลง และเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่ ที่มีข่าวบอกว่าคนนี้ทำงานดีหรือไม่ดี เบื้องต้น ทางหัวหน้าพรรคจะประเมิน เพื่อเรียนต่อนายกฯ แต่สุดท้ายคนที่ประเมินจริงๆ คือพี่น้องประชาชน
“พรรคภูมิใจไทยอยู่ดีๆไม่ได้เดินไปขอร่วมรัฐบาล อย่าลืมว่า เรามาตามคำเชิญของพรรคเพื่อไทย จำได้หรือไม่ วันที่ไปกินช็อคมิ้นต์เราก็ไป พรรคเพื่อไทยเชิญมาเกือบจะออกจากตึกไม่ได้ด้วยซ้ำเพราะถูกปิดล้อม จากผู้ชุมนุม กดดันน่าดูเหมือนกันกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ เราก็ผ่านร้อนผ่านหนาวต่อสู้ทำงานตอบสนองนายกฯมาแล้ว 2 คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนายกฯท่านปัจจุบัน พรรคภูมิใจไทยมีความเต็มใจ ยินดี อยากจะสนับสนุนให้ท่านประสบความสำเร็จในความเป็นนายกฯในสมัยนี้ให้สุด การทำงานความสัมพันธ์ ความผูกพันกับท่านนายกฯแพทองธาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผมก็เป็นความสัมพันธ์ที่เคารพนับถือให้เกียรติกัน ไม่เคยมีปัญหาใดๆในการทำงาน เรื่องของผลงานต่างๆของกระทรวงมหาดไทยก็มีให้เห็นหลายเรื่อง หลายๆอย่างเป็นไปในทางที่ดีขึ้น”นายอนุทิน กล่าว
นั่นเป็นท่าทีล่าสุดของ นายอนุทิน และพรรคภูมิใจไทยที่ย้ำว่า “ไม่ปล่อย” มหาดไทย ออกไปแน่ และจะไม่มีการปรับรัฐมนตรีของพรรคอย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันเวลานี้หากสำรวจถึงบรรยากาศภายในรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลอื่น เช่น รวมไทยสร้างชาติ ที่เวลานี้มีปัญหาความขัดแย้งขั้นรุนแรงไม่เบาเหมือนกัน ระหว่างกลุ่มของนายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรค และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กับกลุ่มผู้บริหารพรรคชุดปัจจุบัน ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่ากลุ่ม นายสุชาติ เอาเข้าจริงแล้วจะมีกำลังมากตามที่อ้างหรือไม่ เพราะหลังจากมีหนังสือที่อ้างลายเซ็นของ ส.ส.และสมาชิกพรรค จำนวน 21 คน ส่งถึงนายกฯ เรียกร้องให้ปรับรัฐมนตรีในพรรค แต่ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เลขาธิการพรรค อ้างว่าเป็นหนังสือปลอม เพราะมี ส.ส.หลายคนปฏิเสธ
แต่เอาเป็นว่า ภาพรวมของรัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย เวลานี้ดูไม่ดีนัก ทั้งในด้านภาพลักษณ์ และฝีมือ ผลงานของนายกรัฐมนตรี ที่ไม่น่าประทับใจเอาเสียเลย และมีแนวโน้มแย่ลงเรื่อยๆ และยิ่งหากรับรู้กันว่า ทั้งตัวนายกฯ และพรรคเพื่อไทย ยังพึ่งพานายทักษิณ ชินวัตร ทุกอย่างด้วยแล้ว หากวันที่ 13 มิถุนายน ที่ศาลฎีกาฯหวยออกมาเป็นลบ มันก็ยิ่งไปกันใหญ่ ดังนั้น นาทีนี้อย่าได้แปลกใจที่ทุกอย่างต้องหยุดอยู่กับที่ไว้ก่อน เพราะทุกอย่างต้องการชี้ชะตาในวันดังกล่าวเสียก่อน
แต่หากผลออกมาเป็นลบ หรือนายทักษิณ อาจต้องกลับมาเข้าคุก รับรองว่าทุกอย่างจบเห่ เร็วขึ้นกว่าเดิม เพราะเวลานี้มองไปทางไหนไม่มีผลบวกเลย ไม่ว่าจะเป็นชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เรตติ้งรัฐบาลและผู้นำ “ร่วงกราว” ก็ว่าได้ !!