xs
xsm
sm
md
lg

ครม.ผ่านร่างพ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก กำหนดสิทธิขั้นพื้นฐานให้ชัดเจน เพิ่มบทบัญญัติเกี่ยวกับการคุ้มครอง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รองโฆษกรัฐบาล เผย ครม. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. …. เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ที่อปท.มีอำนาจหน้าที่ดูแล กำหนดสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็กให้มีความชัดเจน เพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการคุ้มครองเด็ก

วันนี้ (วันอังคารที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2568) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ทั้งฉบับที่ใช้บังคับมาเป็นเวลานานและปรับปรุงเป็นฉบับใหม่ เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมทั้งรับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอ

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวเพิ่มเติมว่า ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. .... ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ เป็นการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และสอดคล้องกับหลักการของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่กำหนดบทบาทให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีหน้าที่และอำนาจในการดูแลและจัดทำบริการสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะ เพื่อประโยชน์ของประชาชนและการคุ้มครองเด็กในชุมชนรวมทั้งอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก

โดยมีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 และแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติขึ้นใหม่ โดยกำหนดสิทธิขั้นพื้นฐานของเด็กให้มีความชัดเจน เช่น การมีชีวิตอยู่รอด การได้รับความคุ้มครองจากการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ (เดิมมิได้กำหนดไว้) กำหนดหน้าที่ของผู้ปกครองและหน่วยงานของรัฐ โดยผู้ปกครองมีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน และพัฒนาเด็ก ปกป้องคุ้มครองเด็กมิให้ตกในภาวะอันเกิดอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ รวมทั้งต้องให้เด็กมีพฤติกรรมที่ดี (เพิ่มเติมจากเดิมเพื่อกำหนดให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น) และหน่วยงานของรัฐมีหน้าที่สนับสนุนหน้าที่ของผู้ปกครอง (เดิมมิได้กำหนดไว้) กำหนดให้มีคณะกรรมการแบ่งเป็น 3 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ คณะกรรมการคุ้มครองเด็กกรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด ซึ่งคณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติทำหน้าที่ในการเสนอนโยบายและมาตรการในการคุ้มครองเด็ก (ปรับปรุงหน้าที่ให้เป็นเชิงบริหารมากยิ่งขึ้น) และคณะกรรมการคุ้มครองเด็กกรุงเทพมหานครและคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัดทำหน้าที่ในการกำกับดูแลให้ อปท. และหน่วยงานของรัฐในเขตจังหวัด (ปรับปรุงหน้าที่ในการกำกับดูแลการคุ้มครองเด็กให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น)

นอกจากนี้ ได้มีการเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการคุ้มครองเด็ก โดยกำหนดให้มีสมัชชาคุ้มครองเด็กระดับจังหวัดและกรุงเทพฯ เพื่อเสนอความคิดเห็นเชิงนโยบาย และเพิ่มบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดทำแผน งบประมาณ และฐานข้อมูลเด็ก รวมถึงแต่งตั้งพนักงานคุ้มครองเด็กเพื่อให้ความช่วยเหลือ พร้อมกำหนดกระบวนการช่วยเหลือเด็กในภาวะเสี่ยง การพิจารณาคดีเด็กโดยศาลที่ไม่ต้องเผชิญหน้า และเพิ่มมาตรการคุ้มครองเด็กในกลุ่มเสี่ยง รวมถึงเด็กที่เกิดจากเทคโนโลยีเจริญพันธุ์ โดยให้มีการบำบัดฟื้นฟูและดูแลด้านสุขภาพจิตและร่างกาย พร้อมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์การจัดตั้งสถานรองรับเด็กใหม่ให้สอดคล้องกับอำนาจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกำหนดหน้าที่ของโรงเรียนและนักเรียนในการคัดกรองและคุ้มครองเด็กอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น รวมถึงกำหนดให้มี “กองทุนส่งเสริมการคุ้มครองเด็ก” ในกรมกิจการเด็กและเยาวชน เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับใช้จ่ายในการส่งเสริมการคุ้มครองเด็ก รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือผู้ที่อยู่ในกระบวนการคุ้มครองเด็ก


กำลังโหลดความคิดเห็น