xs
xsm
sm
md
lg

"สนธิ-ปานเทพ" ยื่นนายกฯ แก้ปมไทย-กัมพูชาเป็นรูปธรรม ยกเลิก MOU-ไม่ยอมรับแผนที่ฝรั่งเศสเอื้อเขมรเคลม-คุมเข้มชายแดนต่อเนื่อง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"สนธิ-ปานเทพ" พร้อมภาคประชาชนยื่นหนังสือถึงนายกฯ ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบฯ เรียกร้องปกป้องอธิปไตยอย่างเป็นรูปธรรม ย้ำต้องไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ประท้วงกลับกัมพูชาปม 3 ปราสาท ยกเลิกแผนที่ 1 ต่อ 2 แสนที่ฝรั่งเศทำขึ้นแบบหยาบๆ เอื้อเขมรเคลม ยกเลิก MOU44 ที่เขมรโมเมอ้างสิทธิทางทะเลทับซ้อน คุมเข้มด่านชายแดนต่อเนื่องปราบอาชญากรรมข้ามแดนทั้งคอลเซนเตอร์-พนันออนไลน์-ยาเสพติด-ค้าอวุธ หากสถานการณ์ยังเลวร้ายลงเพราะผู้น้ำทั้งสองประเทศสมยอมเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ให้กองทัพประกาศกฎอัยการศึก



เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 ที่ศูนย์ร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายสนธิ ลิ้มทองกุล สื่อมวลชนอาวุโส อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน พร้อมด้วยกลุ่มเเนวร่วมที่สนับสนุน ทยอยกันเดินทางมารวมตัวเพื่อ แสดงจุดยืนปกป้องอธิปไตยกรณีความขัดแย้งตามแนวชายแดนกับกัมพูชา โดยจะยื่นหนังสือผ่านศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ถึง น.ส.แพทองธาร นายกรัฐมนตรี เพื่อให้รัฐบาลดำเนินการปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างเป็นรูปธรรม โดยบรรยากาศตั้งเเต่ช่วงสายที่ผ่านมา บรรดาผู้สนับสนุนต่างเดินทางมาร่วม อาทิ กลุ่มเเนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมกับป้ายข้อความเเสดงจุดยืนต่างๆ อาทิ การยกเลิก MOU43 เเละ MOU44 ที่ไม่จำเป็นต้องมี รวมถึงการเพิกถอน JC 2544

ทั้งนี้ มีนักวิชาการและประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดินจำนวนมาก เช่น นายจตุพร พรหมพันธุ์, หม่อมหลวงวัลย์วิภา จรูญโรจน์, นายวีระ สมความคิด, นายนิติธร ล้ำเหลือ, นายพิชิต ไชยมงคล, เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์, นายใจเพชร กล้าจน, นายคมสัน โพธิ์คง, นายประพันธ์ คูณมี ฯลฯ ได้เข้ามาร่วมยื่นหนังสือด้วย โดยมีนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี และ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มารับเรื่อง


ภายหลังการยื่นหนังสือเรียบร้อยแล้ว นายพานเทพ พัวพงศ์พันธุ์ ได้แถลงว่า วันนี้ได้ยื่นหนังสือให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ทําหน้าที่ปกป้องรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของชาติในความขัดแย้งระหว่างไทยกันไทยและกัมพูชา

บันทึกไว้ว่าวันนี้วันที่ 10 มิถุนายน ปี 2568 เวลา 10:00 มูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน โดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ พร้อมด้วยนักวิชาการประชาชนนิสิต นักศึกษาผู้รักชาติรักแผ่นดิน เช่น นายจตุพร พรหมพันธุ์ หม่อมหลวง วัลย์วิภา จรูญโรจน์ นายวีระ สมความคิด นายนิติธร ล้ำเหลือ นายพิชิต ไชยมงคล นายประพันธ์ คูณมี เรือตรี แซมดิน เลิศบุศย์ นายใจเพชร กล้าจน นายคม สันโพธิ์คง และรวมถึง คปท. สันติอโศก ได้เข้ามาร่วมยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี เพื่อให้ทําหน้าที่ปกป้องรักษาอธิปไตยความมั่นคงของชาติ

โดยการยื่นหนังสือครั้งนี้มีความหนาพอสมควร แต่จะขอกล่าวโดยสรุปดังต่อไปนี้ จากกรณีที่ทหารและพลเรือนกัมพูชาได้รุกล้ำราชอาณาจักรไทยหลายพื้นที่ ขุดคูเรด เข้ามาในราชอาณาจักรไทย 200 เมตรของศาลาตรีมุขซึ่งสร้างโดยแผ่นดินไทย บริเวณช่องบกจังหวัดอุบลราชธานี แล้วยังใส่ร้ายประเทศไทยว่าได้ยึดครองปราสาทตาเมือนทม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และสามเหลี่ยมมรกตว่า เป็นของกัมพูชา ทั้งๆ ที่พื้นที่เหล่านี้อยู่ในแผ่นดินไทยทั้งสิ้น โดยกัมพูชาประกาศว่าจะนําเรื่องพื้นที่เหล่านี้ขึ้นสู่การตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ อันเป็นการแสดงเจตนารุกล้ำอธิปไตย เป็นอริราชศัตรูของราชอาณาจักรไทยอย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 สภาความมั่นคงแห่งชาติได้มอบอํานาจให้กองทัพบกเป็นผู้ตัดสินใจในการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนไทย-กัมพูชา และได้ปรับลดเวลาเปิดแดนเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในแหล่งกาสิโนที่สร้างรายได้อันมหาศาลจากนักพนันฝั่งไทยอันเป็นผลทําให้กัมพูชาประกาศยอมถอยกําลังทหาร กลบคูเรดบริเวณช่องบก และเป็นฝ่ายเรียกร้องขอเจรจาในเวทีคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทยกัมพูชา หรือเจบีซีอีกครั้ง


อย่างไรก็ตาม การถอยด้วยการประกาศและการขอเจรจาจากฝั่งกัมพูชานั้นเป็นเพียงกุศโลบายและถอยทางยุทธวิธีเท่านั้น และยังไม่สามารถไว้วางใจได้เพราะยังเป็นปัญหาภัยคุกคามต่อความมั่นคงของราชอาณาจักรไทยดังต่อไปนี้

1.กัมพูชายังคงประกาศว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นของกัมพูชาทั้งหมด และจะนําเรื่องเข้าสู่การตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ

2.กัมพูชายังคงยึดถือแผนที่มาตราส่วนหนึ่งต่อ 200,000 ด้านล่างนี้เป็นแถบสีแดงเป็นปื้น ที่จัดทําขึ้นโดยฝรั่งเศสแต่เพียงฝ่ายเดียว ปรากฏในเอ็มโอยู 2543 ข้อ 1 ค. ซึ่งเป็นแผนที่ไม่ยึดถือแนวสันปันน้ำตามธรรมชาติที่แท้จริง มีความคลาดเคลื่อนได้ถึง 200 เมตร และใช้เป็นข้ออ้างสําคัญในการรุกล้ำฝ่ายไทยของกัมพูชา ปรากฏตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา โดยปรากฏหลักฐานปี 2547 จนถึงปัจจุบัน ฝ่ายไทยได้มีการประท้วงด้วยวาจาและหนังสือการละเมิดข้อตกลงและการรุกล้ำของกัมพูชามากถึง 470 ครั้ง นั่นแสดงว่าเอ็มโอยู 2543 ที่แนบแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 นั้นได้สร้างความขัดแย้งระหว่างไทยกัมพูชามาตลอด 25 ปี

3.กัมพูชายังคงยึดเส้นไหล่ทวีปทางทะเลของกัมพูชา เส้นสีแดงโดยลากจาก หลักเขตที่ 73 มาประชิดเกาะกูด และรุกล้ำเกินเข้ามาในอ่าวไทย ซึ่งปรากฏการยอมรับการอ้างสิทธิ์ของกัมพูชาในเอ็มโอยู 2544 ซึ่งถือเป็นการรุกล้ำทะเลภายใน และทะเลอาณาเขตรอบเกาะกูดของราชอาณาจักรไทย และรุกล้ำเกินเส้นไหล่ทวีปที่ อาศัยเส้นมัธยตามกฎหมายทะเลสากล ซึ่งได้มีการประกาศเป็นพระบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม 2516

นอกจากนี้กัมพูชายังมีการสร้างสิ่งปลูกสร้างเพิ่มเติมยื่นเข้ามาในอ่าวไทยอีกด้วย ดังนั้นเอ็มโอยู 2544 ได้สร้างความขัดแย้งและไม่มีความคืบหน้าระหว่างไทยและกัมพูชามาตลอด 24 ปี

กัมพูชาได้อนุญาตให้มีการตั้งบ่อนคาสิโนตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชาปล่อยปละละเลยรู้เห็นเป็นใจให้แก๊งอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นฐานในการประกอบอาชญากรรมทําร้ายไม่เพียงประชาชนและประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังทําร้ายประชาชนในประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศ ทั้งนี้ยังมีการตัดไม้ทําลายป่าค้าสัตว์ป่าเป็นจํานวนมากในพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติและรักษาพันธุ์สัตว์ป่าของราชอาณาจักรไทย ซึ่งเป็นการทําลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมของราชอาณาจักรไทย


จากเหตุผลดังกล่าวประชาชนผู้รักชาติรักแผ่นดิน ได้ยื่นหนังสือเพื่อเรียกร้องให้ถึงนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ดําเนินการตามมาตรการดังต่อไปนี้

มาตรการที่ 1 รัฐบาลไทยต้องประกา ย้ำไม่ยอมรับอํานาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ และต้องประกาศให้ชัดเจนว่าประเทศไทยไม่ยอมรับการที่กัมพูชาจะนําเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ไม่ว่ากรณีใดๆ รวมทั้งจะไม่ยอมรับอํานาจจากองค์กรอื่นหรือประเทศอื่นใดในการเข้ามาเข้ามาตัดสินการรุกล้ำแผ่นดินไทยของกัมพูชาทั้งสิ้นในทุกกรณี และจะใช้กลไกการเจรจาเรื่องเขตแดนรูปแบบของทวิภาคี โดยใช้กลไกของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทยกัมพูชา หรือเจบีซีเท่านั้น

มาตรการที่ 2 รัฐบาลไทยต้องประท้วงอย่างเป็นทางการทั้งต่อกัมพูชาและสากลว่าปราสาทตามเมือนทม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และสามเหลี่ยมมรกต ศาลาตรีมุข เป็นดินแดนและทรัพย์สมบัติของอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย ซึ่งเป็นไปตามผลงานของคณะกรรมการปักปันที่ได้แบ่งเขตแดนเสร็จสิ้นตามสนธิสัญญาสยามฝรั่งเศส เมื่อ 117 ปีที่แล้ว และต้องย้ำให้แก้ไขคําพูดของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวหาว่า การรุกล้ำของกัมพูชานั้นเป็นโนแมนส์แลนด์ ซึ่งจะต้องแก้ไขคํานี้ว่า แผ่นดินนั้นไม่ใช่โนแมนส์แลนด์ แต่เป็นแผ่นดินไทยเท่านั้น

มาตรการที่ 3 ขอให้สั่งการและมีมติให้กระทรวงการต่างประเทศเพื่อยกเลิกแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่จัดทําขึ้นโดยฝรั่งเศสแต่เพียงฝ่ายเดียว เป็นมาตราส่วนที่มีความหยาบและคลาดเคลื่อนได้ถึง 200 เมตร และทําให้เกิดความขัดแย้งมาตลอด 25 ปี โดยให้ใช้กลไกของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทยกัมพูชา เพื่อกําหนดจัดทําหลักเขตที่สูญหายตามสันปันน้ำและขอบหน้าผาตามธรรมชาติ โดยใช้เทคโนโลยีที่เป็นวิทยาศาสตร์ในการตัดสิน อันเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก เช่น การใช้แผนที่ดาวเทียมที่สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง แทนการใช้แผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่จัดทําขึ้นโดยฝรั่งเศสแต่เพียงฝ่ายเดียว

มาตรการที่ 4 สั่งการและมีมติให้กระทรวงการต่างประเทศยกเลิกเอ็มโอยู 2544 เพื่อยกเลิกเส้นไหล่ทวีปที่รุกล้ำอธิปไตยน่านน้ำไทย และละเมิดต่อพระบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ของราชอาณาจักรไทย และให้ใช้กลไกของคณะกรรมาธิการทางเทคนิคทางทะเลไทย-กัมพูชา หรือ JTCTC กําหนดใช้เส้นมัธยตามกฎหมายทะเลสากลที่เป็นธรรม และเป็นวิทยาศาสตร์ในการตัดสินเท่านั้น แทนการใช้แผนที่อ้างติดตามเอ็มโอยู 2544

มาตรการที่ 5 สั่งการและมีมติเพิ่มเติมเพิ่มอํานาจต่อรองให้กับราชอาณาจักรไทย ก่อนการเจรจาคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทยกัมพูชาในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 และเนื่องจากเมื่อสักครู่เราเพิ่งทราบว่า รัฐบาลตั้งคุณประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย เป็นประธานเจบีซีฝ่ายไทย ซึ่งเป็นอดีตทูตไทยกัมพูชา ในยุคที่คุณวีระ สมความคิดถูกจับและถูกบังคับให้ยอมรับว่าแผ่นดินไทยเป็นของกัมพูชา จึงเรียกร้องเพิ่มเติมให้ขอเปลี่ยนตัวประธานเจบีซีคนนี้โดยทันที

และขอให้โครงการลดเวลาการเปิดด่านไทยกัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ่อนคาสิโนโดยไม่เพียงเป็นมาตรการเรียกร้องโดยมีอํานาจต่อรองให้ได้บรรลุวัตถุประสงค์ และบรรลุผลตามมาตรการที่ 1 ถึง 4 เท่านั้น แต่จะต้องต่อรองให้หยุดการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีและธุรกิจในกัมพูชาที่ทําร้ายประเทศไทยทั้งหมดด้วย ซึ่งรวมถึงการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พนันออนไลน์ ค้าอาวุธสงคราม ยาเสพติด ตัดไม้ทําลาบป่า ล่าสัตว์ในเขตอุทยานแห่งชาติและรักษาพันธุ์สัตว์ป่า การฟอกเงินและอื่นๆ

หากการกดดันและการเจรจาดังกล่าวไม่เป็นผลให้ยกระดับการยกเลิกการส่งออกสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานให้กับกัมพูชา ตัดไฟฟ้า ตัดสัญญาณมือถือ กัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ไม่ส่งออกน้ำมันจนกว่าการเจรจาจะบรรลุผลเท่านั้น

มาตรการที่ 6 หากสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชาเลวร้ายลงอันเนื่องมาจาก มาตรการไม่เพียงพอ หรือการเจรจาไม่ได้ผลจนไม่อาจบรรลุข้อตกลงดังกล่าวได้ ให้ กองทัพไทยประกาศกฎอัยการศึก เพื่อป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนอันมาจากความเกี่ยวพันทางเครือญาติที่ใกล้ชิดของผู้นําทางการเมืองของ 2 ประเทศ ซึ่งสมยอมผลประโยชน์ส่วนตนซึ่งกันและกันโดยไม่คํานึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติ

ด้วยจิตคารวะมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน
10 มิถุนายน 2568
ณ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทําเนียบรัฐบาล








































































กำลังโหลดความคิดเห็น