กต.แถลง ไทยยังใช้มาตรการควบคุมชายแดนกับกัมพูชา แม้ลดความตึงเครียดแต่ยังเปราะบาง ศอ.ปชด.เตรียมเสนอ สมช.ยกระดับป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามแดน ตัดกระแสไฟฟ้าระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ส่งเข้าพื้นที่บ่อนการพนัน และสแกมเมอร์ ส่วนวีซ่าไทยลดวันเขมรอยู่ได้เหลือ 7 วันแล้วเช่นกันแล้ว
วันนี้ (9 มิ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 14.50 น. นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศได้แถลงข่าวพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งล่าสุดเมื่อวานตอนเย็น ฝ่ายไทยได้รับรายงานว่า กองกําลังของฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้ออกสํารวจแนวพื้นที่และแนวคูเรด (ที่ช่องบก) ร่วมกัน ได้มีการกลบฝังพื้นที่ตามข้อตกลงร่วมกัน พร้อมกับให้มีการปรับกําลังของทั้ง 2 ฝ่ายให้ไปอยู่ในแนวพื้นที่ที่ได้ตกลงกันไว้ในช่วงสถานการณ์ปกติเมื่อปี 2567
ฝ่ายไทยเห็นว่า พัฒนาการทางบวกล่าสุดนี้ ส่งสัญญาณที่ดีและสะท้อนถึงความจริงใจของฝ่ายกัมพูชาในการลดความตึงเครียดของสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และเป็นผลจากการเจรจาในทุกระดับของทั้ง 2 ฝ่ายซึ่งหวังว่าจะนําไปสู่การหาทางออกอย่างสันติในระยะยาว เคารพซึ่งกันและกัน และด้วยความจริงใจต่อกัน โดยเฉพาะการใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ อีกทั้งเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดีที่เราจะนําไปสู่การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยเขตแดนไทย-กัมพูชา หรือ JBC ที่จะเกิดขึ้นใน 5 วันจากนี้
สําหรับกลไก JBC ที่ได้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2543 เป็นกลไกทางเทคนิคเพื่อหารือเรื่องการสํารวจและการจัดทําหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยและกัมพูชา ที่ผ่านมามีการประชุมร่วมจํานวนทั้งสิ้น 10 ครั้ง เป็นสมัยสามัญ 5 ครั้ง สมัยวิสามัญ 5 ครั้ง โดยการประชุมครั้งล่าสุดจัดขึ้นเมื่อปี 2555 ที่กรุงเทพฯ
การทํางานของ JBC ในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา มีความคืบหน้าในหลายๆ พื้นที่ดังเช่น ในกรณีสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านน้องเอี่ยน-สตึงบท รวมถึงการก่อสร้างสะพานข้ามพรมแดนแห่งใหม่ ณ จุดผ่านแดนบ้านผักกาด จังหวัดจันทบุรี ตามที่เคยแจ้งให้ทราบก่อนหน้านี้
ฝ่ายไทยจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประชุมเจบีซีครั้งต่อไปที่ฝ่ายจะเป็นกัมพูชาเจ้าภาพในวัน 14 มิถุนายน ที่จะถึง ที่กรุงพนมเปญ จะสามารถช่วยลดความตึงเครียด ของสถานการณ์ในภาพรวมที่ยังคงมีความเปราะบางอยู่ในขณะนี้ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่และความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝั่งชายแดนและนําไปสู่การหาทางออกที่ยั่งยืนในท้ายที่สุด
พร้อมกันนี้ ยืนยันความพร้อมของฝ่ายไทยที่จะเข้าร่วมการประชุมเจบีซีด้วยความสุจริตใจ และพร้อมจะได้เห็นความร่วมมือและความตั้งใจจริงของทั้ง 2 ฝ่าย ในการทําให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีของเราดียิ่งขึ้น
รัฐบาลไทยขอยืนยันความเชื่อมั่นว่า การใช้กลไกที่ไทยและกัมพูชามีอยู่ระหว่างกัน เช่น JBC ควบคู่ไปกับกลไกคณะกรรมการชายแดนไทยกัมพูชา หรือ GBC กลไกคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค หรือ RBC การเจรจาทวิภาคีในทุกระดับ ทั้งในส่วนของทหาร และในส่วนของพลเรือน รวมไปถึงการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ จะเป็นหนทางที่มีประสิทธิภาพ และมีประสิทธิผลในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งต่างๆ เพื่อให้ประเทศของเราทั้ง 2 ในฐานะครอบครัวอาเซียนอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข
นายนิกรเดช กล่าวย้ำความเข้าใจในเรื่องมาตรการควบคุมจุดผ่านแดนต่างๆ ว่า ยังคงมีการดําเนินมาตรการต่อไป ตามการประเมินของฝ่ายความมั่นคง ทั้งนี้เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่และความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝั่งชายแดน
นอกจากนี้ ศูนย์อํานวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือ ศอ.ปชด. ได้มีประกาศที่จะยกระดับมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เช่น การตัดกระแสไฟฟ้า การระงับสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ส่งเข้าไปในพื้นที่ที่เป็นบ่อนการพนัน และสแกมเมอร์ การควบคุมสินค้าและยุทโธปกรณ์ที่อาจจะนําไปใช้ในการก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีและอาชญากรรมข้ามชาติอื่นๆ อีกด้วยโดยจะได้นําเสนอมาตรการดังกล่าวต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติต่อไป
สุดท้ายนี้ระทรวงการต่างประเทศขอความร่วมมือพี่น้องสื่อมวลชนเช่นเดิมและประชาชนระมัดระวังการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ ยืนยันและหลีกเลี่ยงการขยายข่าวที่อาจจะเป็นการปลุกระดม หรือการกล่าวหาอีกฝ่ายหนึ่ง โดยไม่มีข้อมูลหรือข้อเท็จจริงที่ชัดเจนเพื่อป้องกันการสร้างความเข้าใจผิด และความเสี่ยงที่จะทําให้เกิดประเด็นขัดแย้งเพิ่มเติม
สำหรับกรณีที่ทางกัมพูชาลดจำนวนวันที่คนไทยสามารถอยู่ในประเทศได้ลงจาก 60 วัน เหลือ 7 วันนั้น นายนิกรเดช กล่าวว่า ได้รับทราบมาเหมือนกันว่ากัมพูชาลด จํานวนวันสําหรับการเดินทางเข้ากัมพูชาเหลือ 7 วัน ส่วนฝ่ายไทยก็ได้ปรับลดแล้วเช่นกัน 7 วันเหมือนกัน ส่วนจะเป็นแบบนี้อีกนานแค่ไหนนั้น ในชั้นนี้ยังบอกไม่ได้ ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้กำหนดว่าจะไปถึงเมื่อไหร่ คิดว่าคงรอให้สถานการณ์ดีขึ้นแล้วมาหารือกันแต่คงไม่ใช่เรื่องที่มีลำดับความสำคัญแรกๆ ในตอนนี้
ส่วนการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.ยืนยันว่า ยังมีเหมือนเดิม ทั้ง 2 ฝ่ายออกมาพูดแล้วว่าตอนนี้เรากําลังมุ่งหน้าไปสู่การประชุม JBC สิ่งที่พัฒนาการในทางบวกที่เกิดขึ้นก็จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีขึ้นในการประชุมที่จะเกิดขึ้นในอีก 5 วัน
ส่วนวาระการประชุม JBC ที่ทางกัมพูชายังยืนยันไม่เอาเรื่อง 4 พื้นที่เข้าเจรจา ไทยจะเกลี้ยนกล่อมให้กัมพูชายอมเอาเข้าวาระประชุมได้หรือไม่นั้นนายนิกรเดช กล่าวว่า ทางกัมพูชาบอกว่าจะไม่มีการนําไปพูดคุยเจรจาใน JBC แต่ตอนนี้ ทั้งสองฝ่ายกําลังเริ่มคุยกันเรื่องวาระการประชุม คิดว่าคงเร็วเกินไปที่จะบอกว่าจะมีการคุยหรือจะไม่มีการคุย ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายมีสิทธิ์สงวนในสิ่งที่ตนพร้อมคุยและไม่พร้อมคุย ก็รอเวลาอีกนิดนึงเพื่อความชัดเจน คิดว่าตอนนี้วาระกําลังมีการพยายามตกลงหาข้อสรุปร่วมกันอยู่
ส่วนกรณีที่ชาวบ้านบริเวณชายแดนมีความตื่นกลัวว่าอาจจะเกิดความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง มีการสร้างบังเกอร์ ทางกระทรวงการต่างประเทศจะยืนยันว่าสถานการณ์ยังมี ความปลอดภัยได้หรือไม่นั้น นายนิกรเดช กล่าวว่า ตอนนี้ความตึงเครียดน้อยลง เพราะว่าเมื่อวานนี้ได้มีการปรับกําลังกลับไปอยู่จุดเดิมของปี 2567 มีการกลบคูเรด แต่ก็ยังคิดว่าสถานการณ์ยังอยู่ในสภาวะที่เปราะบาง แต่ถ้าถามว่าต้องกังวลอะไรหรือไม่ คิดว่าคงไม่ถึงจุดนั้น ส่วนสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนเดิม ก็คงค่อยเป็นค่อยไป แต่สัญญาณที่ออกมาตอนนี้เป็นสัญญาณที่ดีมากจากทั้ง 2 ฝ่าย แต่ก็ยังมีความเปราะบาง
