xs
xsm
sm
md
lg

“วิโรจน์” หนุนไทยใช้มาตรการบีบกัมพูชาสู่โต๊ะเจรจา แนะใช้งบกลางเยียวยาผู้ประกอบการ-ชาวไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สส.พรรคส้ม หนุน “ไทย” ใช้มาตรการกดดัน “กัมพูชา” ให้เข้าสู่โต๊ะเจรจา แนะ “นายกฯ” อนุมัติงบกลาง เยียวยาผู้ประกอบการ-ชาวไทย ที่ได้รับผลกระทบแนวชายแดน

วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีที่วุฒิสภาเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญเพื่อให้รัฐบาลชี้แจงและรับฟังความเห็นต่อประเด็นข้อพิพาทดินแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ว่า ยินดี เพราะถือเป็นความร่วมมือระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหาร

เมื่อถามถึงกรณีที่กัมพูชาส่งหนังสือถึงไทยเพื่อนำข้อพิพาทขึ้นศาลโลก นายวิโรจน์ กล่าวว่า กัมพูชาไม่มีความชอบธรรมที่จะทำเรื่องดังกล่าว เนื่องจากประเทศไทยไม่ใช่ฝ่ายที่ละเมิดเอ็มโอยู 43 ซึ่งเป็นกรอบความร่วมมือที่ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาลงนามร่วมกันโดยสมัครใจ ดังนั้น รัฐบาลไทยต้องมองสถานการณ์ให้ออก นอกจากนั้นแล้ว ตนสนับสนุนมาตรการที่ชัดเจนของรัฐบาลไทยต่อการสร้างแรงจูงใจให้กัมพูชาเข้าสู่โต๊ะเจรจา โดยต้องยืนระยะในยาวให้ได้ ทั้งนี้ ตนมองว่า รัฐบาลไทยควรพิจารณาและอนุมัติกรอบวงเงิน ในงบกลางเพื่อเยียวยาผู้ประกอบการคนไทยและประชาชนแนวชายแดนที่ได้รับผลกระทบ เพราะตนเชื่อว่าต้องยืนระยะกดดัน และต้องพร้อมทำตลอดไป หากรัฐบาลกัมพูชาไม่เจรจา

“ผมยืนยันรัฐบาลกัมพูชา ละเมิดเอ็มโอยู 43 และเป็นการดำเนินการที่ไม่ชอบธรรม ดังนั้น รัฐบาลไทยต้องดำรงความชอบธรรมด้วยสันติวิธี คลี่คลายสถานการณ์ รวมถึงทำมาตรการอื่นๆ เพื่อจูงใจให้รัฐบาลกัมพูชาเข้าใจสถานการณ์และเข้าร่วมโต๊ะเจรจาอย่างสมเหตุสมผลที่เป็นจริงได้ โดยประเทศไทยไม่มีข้อเรียกร้องใหม่ หรือข้อเสนอที่กัมพูชารับไม่ได้ และขอให้กลับมาที่เอ็มโอยู 43 ยืนยันความชอบธรรม โดยไม่ใช้กำลัง ปะทะ โดยไม่จำเป็น เพราะจะกลายเป็นข้ออ้างที่กัมพูชาจะใช้บั่นทอนความชอบธรรม” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวด้วยว่า การเดินเกมระยะยาว โดยไม่ใช้กฎอัยการศึก เพราะกองทัพมีอำนาจเฉพาะเรื่องความมั่นคงและพื้นที่ แต่รายละเอียดยังมีมาตรการทางการทูต การคลัง ซึ่งกฎอัยการศึกไม่ได้ให้อำนาจกองทัพไว้ ดังนั้น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ต้องเร่งอนุมัติงบกลางเพื่อเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น