สวนดุสิตโพล มองการอบรมให้ความรู้พ่อแม่เป็นปัจจัยให้ลูกต้องการศึกษาพิเศษ เด็กควรมีทักษะการช่วยเหลือตัวเอง สถาบันศึกษาควรจัดอบรม แนะรัฐบาลคัดกรองช่วยเหลือตั้งแต่เริ่ม
วันนี้ (8 มิ.ย.) “สถาบันศิโรจน์ผลพันธิน” ร่วมกับ “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชน ทั่วประเทศเรื่อง “การศึกษาพิเศษในสายตาคนไทย” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,619 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 23 พฤษภาคม – 4 มิถุนายน 2568 สรุปผลได้ ดังนี้
1. ประชาชนคิดว่าปัจจัยใดบ้างที่จะช่วยให้เด็กที่มีความต้องการพิเศษได้รับการศึกษาที่ดีขึ้น
อันดับ 1 การอบรมให้ความรู้แก่พ่อแม่ในการดูแลลูกที่ถูกต้อง 68.25%
อันดับ 2 การพัฒนาสื่อและเทคโนโลยีช่วยสอนเด็กที่มีความต้องการพิเศษ 67.14%
อันดับ 3 การรณรงค์ให้สังคมเข้าใจและยอมรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษมากขึ้น 64.73%
อันดับ 4 มีครูที่เชี่ยวชาญเรื่องเด็กที่มีความต้องการพิเศษประจำอยู่ทุกโรงเรียน 62.20%
อันดับ 5 รัฐต้องให้ความสำคัญและสนับสนุนงบประมาณเพิ่มขึ้น 56.83%
2. ประชาชนคิดว่าเด็กที่มีความต้องการพิเศษควรได้รับการเตรียมความพร้อมด้านใดมากที่สุด
อันดับ 1 ทักษะการช่วยเหลือตัวเองในชีวิตประจำวัน 83.88%
อันดับ 2 ทักษะการแก้ปัญหาและการตัดสินใจ 59.42%
อันดับ 3.ทักษะสังคมและการสื่อสาร.59.36%
อันดับ 4 ทักษะอาชีพและการทำงาน 58.31%
อันดับ 5 ทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต 53.68%
3. ประชาชนคิดว่ามหาวิทยาลัย/สถาบันการศึกษา ควรมีบทบาทอย่างไรในการพัฒนาการศึกษาพิเศษ
อันดับ 1 จัดอบรมให้ความรู้แก่ครูและผู้ปกครอง 76.47%
อันดับ 2 ผลิตครูและบุคลากรด้านการศึกษาพิเศษให้มากขึ้น 66.28%
อันดับ 3 เปิดหลักสูตรเฉพาะทางสำหรับนักศึกษาที่มีความต้องการพิเศษ 63.19%
อันดับ 4 เป็นศูนย์ให้คำปรึกษาและบริการชุมชน 51.95%
อันดับ 5 พัฒนาแอปพลิเคชันและเทคโนโลยีที่ช่วยเหลือเด็กพิเศษโดยเฉพาะ 45.77%
4. ประชาชนคิดว่าเรื่องใดที่รัฐบาลควรให้ความสำคัญมากที่สุดเพื่อพัฒนาการศึกษาพิเศษในประเทศไทย
อันดับ 1 พัฒนาระบบคัดกรองและช่วยเหลือเด็กพิเศษตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม 64.05%
อันดับ 2 พัฒนาหลักสูตรผลิตครู เน้นความเชี่ยวชาญด้านการศึกษาพิเศษ 60.78%
อันดับ 3 พัฒนาระบบเทคโนโลยีที่ช่วยให้เด็กพิเศษเข้าถึงการศึกษา 56.39%
อันดับ 4 ส่งเสริมการมีงานทำหลังจบการศึกษา 54.79%
อันดับ 5 จัดตั้งศูนย์การศึกษาพิเศษในทุกอำเภอ 53.61%