นายกฯ ขอบคุณสภา เห็นชอบร่างงบประมาณ 69 วาระแรก ยันรัฐบาลจัดลำดับความสำคัญงบฯ ตามสถานการณ์ เชื่อ งบประมาณที่ได้เสนอไปจะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยทุกคน-ตั้งใจใช้เป็นเครื่องมือที่สำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจ บอก ปชช. ไม่ได้ส่งมาทำเรื่องง่าย ขอฝ่ายค้านร่วมกัน ให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤต ด้าน “ปกรณ์วุฒิ” ติงนายกฯ ควรกล่าวหลังกระบวนการสภาเสร็จสิ้น หรือใช้สิทธิตอนสรุปก่อนลงมติ
วันนี้ (31 พ.ค.) ภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 วาระแรก ด้วยคะแนนเห็นด้วย 322 เสียง ไม่เห็นด้วย 158 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นกล่าวขอบคุณ ว่า ขอขอบคุณประธานและสมาชิกผู้ทรงเกียรติทุกท่านที่ได้ร่วมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ที่รัฐบาลนำเสนอด้วยความตั้งใจ รัฐบาลตระหนักดีว่าการจัดทำงบประมาณในครั้งนี้ดำเนินการภายใต้ข้อจำกัดของวงเงินงบประมาณรายจ่าย ,มาตรการกีดกันทางการค้า ของประเทศเศรษฐกิจหลัก ,ความขัดแย้ง ทางภูมิศาสตร์, การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจโลก ที่มีปัจจัยรอบด้านในการส่งผลกระทบ
ความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่มีผลกระทบมากมาย เราจะสามารถขับเคลื่อนประเทศให้ไปต่อได้ด้วยนโยบายต่างๆ ที่ได้เสนอต่อสภา
โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่างบประมาณที่ได้เสนอไปจะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยทุกคน รัฐบาลมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะใช้งบประมาณเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามที่ได้แถลงนโยบายไว้ต่อรัฐสภา โดยคำนึงถึงการจัดลำดับความสำคัญของงบประมาณ เพื่อจะรองรับปัญหาเร่งด่วนซ้ำซาก เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของทุนมนุษย์ และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนขับเคลื่อนการพัฒนาแนวทางตามยุทธศาสตร์ชาติ อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การจัดทำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 มุ่งเน้นการสนับสนุนเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำ ในทุกมิติ และสร้างโอกาสให้กับประชาชนทุกกลุ่ม ให้เข้าถึงทรัพยากรที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม รวมถึงการมุ่งเน้นการรักษาวินัย การเงินการคลังของประเทศให้เป็นไปตามกรอบที่กฎหมายกำหนด
สำหรับข้อคิดเห็น ข้อสังเกต รวมถึงข้อเสนอแนะต่างๆ ที่สมาชิกได้อภิปรายไว้ขอฝากคณะกรรมาธิการวิสามัญที่จัดตั้งขึ้นโดยสภาแห่งนี้ นำไปประกอบการพิจารณาอย่างละเอียดและครบถ้วนต่อไป
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไม่เพียงแต่ประเทศไทย แต่กระทบกับทั่วโลก ตนเองเดินทางไปต่างประเทศได้คุยกับผู้นำแต่ละประเทศมากมาย มีเรื่องของผลกระทบที่เจอหลายด้านแตกต่างกัน ตนมั่นใจอย่างยิ่งว่า ทุกๆประเทศจะร่วมมือกัน ช่วยกันได้ก็จะช่วยกัน
ขณะที่การเปลี่ยนแปลงทุกวันนี้อาจจะเป็นเรื่องที่ท้าทาย ในการที่จะกำหนดทิศทางหรือหาข้อสรุปอย่างใดอย่างหนึ่งให้เป็นคำตอบที่ชัดเจนได้ในวันนี้เลย แต่สิ่งที่ตนมั่นใจ คือ รัฐบาลชุดนี้จะทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำนโยบาย ในทุกๆ นโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เป็นรูปธรรม เราจะลดรายจ่ายของประชาชน เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส รวมถึงจะใช้เม็ดเงินจากพระราชบัญญัติงบประมาณฉบับนี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวอีกว่า ตนทราบดีตามที่ทุกคน บอกว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และทราบดีว่าประชาชนไม่ได้ส่งเรามาเพื่อทำเรื่องง่ายๆ รัฐบาลทำหน้าที่ในการบริหาร และฝ่ายค้านเป็นผู้ตรวจสอบ ถ้าเราทั้งสองมุ่งเน้นผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก เป็นใจความสำคัญ ตนมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะสามารถ ทำให้ประเทศผ่านวิกฤตไปได้ และสามารถทำให้เห็นผลสำเร็จร่วมกันได้แน่นอน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวจบ นายวัชรพล ขาวขำ สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นเสนอจำนวนคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 จำนวน 73 คน โดยมีผู้รับรองถูกต้อง
ด้าน นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ในฐานะปรธานวิปฝ่ายค้าน ได้ลุกขึ้นหารือว่า เมื่อสักครู่นี้ที่ สส.ฝ่ายรัฐบาลได้เสนอจำนวนคณะกรรมาธิการ 73 คน แต่ที่ผ่านมาที่ตนเป็น สส.มาทุกปี หรือว่าตามข้อตกลงของวิปร่วมก็แจ้งว่าเป็น 72 มาตลอด ไม่รู้ว่ามีสาเหตุใดจึงเพิ่มเป็น 73 ซึ่งตนก็เพิ่งได้รับแจ้งเมื่อเช้า โดยโควตาคนที่ 73 นั้น เป็นคนของพรรคเพื่อไทย ซึ่งคราวหน้าไม่ควรจะทำอะไรแบบนี้อีกเพราะไม่ตรงกับข้อตกลงเท่าไหร่ ครั้งนี้ตนไม่ค้าน แต่ว่าครั้งหน้าควรจะทำตามที่ตกลงกันจะดีที่สุด
นอกจากนี้ นายปกรณ์วุฒิ ยังได้ท้วงติงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร กล่าวขอบคุณสภา ว่า ตามปกตินายกฯ จะกล่าวขอบคุณเมื่อทำกระบวนการของสภาเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว หรือนายกฯ สามารถใช้สิทธิตอนที่สรุปก่อนที่จะลงมติ ต้องขออภัยที่พูดเรื่องนี้ แต่ว่าเราควรจะทำตามธรรมเนียมปฏิบัติ แนวปฏิบัติและข้อบังคับของสภาจะดีที่สุด