“พล.อ.ณัฐพล” แจงสภาฯ กองทัพเดินหน้าลดอัตรากำลังพล เปิดโครงการสมัครใจเป็นทหาร เพิ่มแรงจูงใจ วอนทุกภาคส่วนสร้างบรรยากาศที่ดี ให้คนไม่กลัวการเป็นทหาร ส่วนความรุนแรงในกองทัพยอมรับว่าอาจมีบ้าง แต่มีระบบตรวจสอบที่แข็งแรง
วันนี้ ( 29 พ.ค.) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พล.อ.ณัฐพล พาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงกรณีที่นายเชตวัน เตือประโคน สส.พรรคประชาชน อภิปรายถึงการเปลี่ยนระบบการเกณฑ์ทหาร เป็นระบบการสมัครใจ ยืนยันว่ากองทัพไม่ปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงและจะเปลี่ยนผ่านอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ได้ลดการพึ่งพาระบบการเกณท์และส่งเสริมการสมัครใจอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อปี 2567 ที่ผ่านมามีทหารสมัครใจเกณฑ์ทหารทั้งแบบออนไลน์และแบบออฟไลน์ ในอัตราส่วน 100 ต่อ 47 และในปี 2568 มีอัตราส่วน 100 ต่อ 58
ขณะเดียวกันกระทรวงกลาโหม พยายามเร่งรัดและสร้างแรงจูงใจให้ชายไทยมาเป็นทหารเพิ่มมากขึ้น และจากการที่ได้สอบถามกับผู้ที่สมัครใจเข้ามาเป็นทหารเกณฑ์ ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับเส้นทางชีวิตหรือการเติบโตในอาชีพทหาร ขณะเดียวกันกระทรวงกลาโหมมีแผนพัฒนากำลังพลตั้งแต่ระดับพลทหาร ได้รับการเพิ่มพูลทักษาอาชีพ คุณวุฒิ ส่งเสริมด้านการศึกษาทุกระดับ
นอกจากนั้นยังได้มีการเพิ่มโควตาให้สามารถสอบเข้าโรงเรียนนายสิบหรือโรงเรียนจ่าทหารด้วย ยอมรับว่ามีอีกหลายคน สนับสนุนให้เปิดรับ นักเรียนทั้งทั้งสองส่วนทั้ง 100% แต่ก็ยังมีเสียงทักท้วงว่าควรเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้ามารับราชการทหารด้วย จึงยังกำหนดให้เป็นบุคคลภายนอก 80% และพลทหาร 20% แต่ขอให้ทุกภาคส่วนสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยให้กับชายไทยได้สมัครใจเข้ามาเป็นทหาร หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกองทัพถูกโจมตี แต่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าสังคมให้ความสนใจ แต่เมื่อโจมตีมากเกินไปก็เลยทำให้บรรยากาศในการเข้ามาเป็นทหารเสียไป หลายคนเป็นกังวล แต่ยืนยันได้ว่ากองทัพได้มีการปรับระบบการฝึกและความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
ส่วนการปรับเงินเดือนขึ้นเป็น 15,000 บาทในระดับพลทหาร หากนำไปรวมกับค่าประกอบเลี้ยงแล้ว จะทำให้พลทหารหนึ่งคนมีเงินเดือนอยู่ประมาณ 18,000 บาท แต่จะส่งผลกระทบทำให้มากกว่า ทหารยศนายสิบ อาจเกิดความไม่เท่าเทียมได้
การลดอัตรากำลังพลการเกณฑ์ทหารลง พล.อ.ณัฐพล ย้ำว่าก่อนหน้านี้มีความต้องการพลทหาร 120,000 คน หลังจากที่รัฐบาลมีนโยบายจริงจังในการลดจำนวนอัตราลง โดยปี 2567 เหลือ 85,000 คนและในปี2568 จะเหลือ 83,000 คน โดยเป้าหมายในอนาคตจะเหลือประมาณ 73,000 คน แต่การเปลี่ยนผ่านต้องใช้เวลา สิ่งที่สมาชิกเสนอตรงกับแนวคิดของกองทัพ
ส่วนกรณีที่เกิดความรุนแรงขึ้นในค่ายทหารกองทัพไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ แต่จะรับเรื่องนี้ไปปรับปรุงแก้ไขให้รัดกุมมากขึ้น แต่ยืนยันว่ามีระบบป้องกันและตรวจสอบได้จริง หลายเหตุการณ์สามารถตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ ทั้งยังยืนยันได้ว่าในระดับนโยบายจะไม่มีการปิดบังข้อมูล พร้อมที่จะเปิดเผยเหตุการณ์ให้ทุกฝ่ายรับทราบอย่างละเอียด ยินดีรับฟังและพร้อมให้มีการตรวจสอบ