วันนี้( 29 พ.ค.)น.ส.กาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวอภิปรายสนับสนุน ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2569 โดยเฉพาะในส่วนของ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งในปีนี้ได้รับการจัดสรรงบประมาณทั้งสิ้น 133,177 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2568 จำนวน 7,819 ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 6.2 ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ เขตเลือกตั้งที่ 4 ซึ่งตนรับผิดชอบอยู่นั้น ความทุกข์ที่ฝังลึกของพี่น้องประชาชนจำนวนมาก คือการไม่มีที่ดินเป็นของตนเอง แม้แต่ผืนเล็ก ๆ สำหรับทำกินหรืออยู่อาศัย โดยประชาชนจำนวนมากใช้ที่ดินของรัฐอย่างไม่มั่นคง ทั้งในพื้นที่ป่าสงวน พื้นที่ ส.ป.ก. หรือพื้นที่รกร้าง ส่วนที่มีสิทธิครอบครองที่ดิน แต่ก็ไม่สามารถใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุน ส่งผลให้ประชาชน หลุดจากระบบเศรษฐกิจอย่างเป็นธรรม ไม่สามารถพัฒนาชีวิต หรือส่งต่อมรดกให้ลูกหลานได้
“ดิฉันขอขอบคุณกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ได้จัดสรรงบประมาณปี 2569 เพื่อปรับปรุงเอกสารสิทธิในที่ดิน โดยเฉพาะในพื้นที่ ส.ป.ก.ให้มีความชัดเจนและรองรับการใช้เป็นหลักประกันทางการเงิน เพราะการออกโฉนดบนที่ดิน ส.ป.ก. จะช่วยให้เกษตรกรสามารถใช้เป็นสินทรัพย์เข้าถึงสินเชื่อธนาคารได้จริง รวมถึงการต่อยอดนโยบายโฉนดต้นไม้ ที่จะทำให้ทรัพย์บนดิน เช่น ยางพารา หรือไม้เศรษฐกิจ สามารถประเมินมูลค่าและใช้ร่วมเป็นหลักทรัพย์ได้ นโยบายเหล่านี้ไม่เพียงปลดล็อก สิทธิในการถือครอง แต่ยังปลดล็อกโอกาสในการเข้าถึงทุน ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาเศรษฐกิจครัวเรือน”น.ส.กาญจนา กล่าว
น.ส.กาญจนา กล่าวต่อว่า ตนขอขอบคุณ 2 รัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ที่ให้ความสำคัญกับนโยบายให้ที่ดินเป็นสินทรัพย์ ช่วยคนจน แต่ขอเสนอเพิ่มเติมว่า ควรมีงบสนับสนุนระบบบริหารจัดการข้อมูล ที่สามารถบูรณาการข้อมูลที่ดิน,สินเชื่อ ,ผลผลิต และตลาด เข้าด้วยกัน และควรสนับสนุนงบพัฒนาพื้นที่ ส.ป.ก. ที่ได้รับการจัดสรรใหม่ เช่น การสร้างแหล่งน้ำขนาดเล็ก,การจัดการดินให้เหมาะสมต่อการเพาะปลูก และการเชื่อมโยงระบบคมนาคมเพื่อส่งผลผลิตถึงตลาด นอกจากนี้ ควรมีงบสำหรับ อบรมเกษตรกร ในพื้นที่ที่ได้รับสิทธิในที่ดิน เพื่อเสริมความรู้ทางการเงิน และการบริหารทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
น.ส.กาญจนา กล่าวทิ้งท้ายว่า ประชาชนไม่ได้ขออะไรมาก เขาแค่ต้องการที่ยืนอย่างมั่นคงบนผืนแผ่นดินที่เขาเฝ้าเพาะปลูกมาตลอดชีวิต หากรัฐให้ที่ดิน แต่ไม่ให้งบพัฒนา หากรัฐให้สิทธิ์ แต่ไม่ให้โอกาสเข้าถึงทุน ก็คงยังไม่เพียงพอ ตนขอยืนยันสนับสนุนร่าง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2569 นี้ และขอให้กระทรวงเกษตรฯ ใช้งบอย่างกล้าทำและจริงใจ เพื่อเปลี่ยนที่ดินให้เป็นทุนชีวิตของเกษตรกรไทยทุกคน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอภิปรายครั้งนี้ น.ส.กาญจนา ได้นั่งอยู่ในพื้นที่ของพรรคกล้าธรรม และได้ใช้เวลาในการอภิปรายในสัดส่วนฝ่ายรัฐบาลของพรรคกล้าธรรมด้วย