นายกฯ มั่นใจสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จะคลี่คลายลง เผย ระดับผู้นำคุยกันเรียบร้อย ก่อนส่ง ผบ.ทบ สองประเทศคุยบ่ายนี้ ให้เป็นทางการ มอง “ฮุนเซน-ฮุนมาแนต” โพสต์ พร้อมเสริมกำลังเข้าชายแดน เป็นหลักการปกป้องอธิปไตยประเทศตัวเอง แต่สุดท้ายก็ไม่อยากให้มีการปะทะ
หลังจากเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา ที่ชายแดนบริเวณช่องบก จ.อุบลราชธานี เมื่อเช้าวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย และต่อมาสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความประณามผู้รุกราก พร้อมบอกว่า เป็นการรุกรานซ้ำ หลังจากเกิดที่บนริเวณปราสาทพระวิหาร ในช่วงปี 2551-2554 พร้อมสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อการเสริมกำลังพลและอาวุธหนักเข้าประชิดชายแดนไทย นั้น
ล่าสุด เช้าวันนี้ (29 พ.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา โพสต์ข้อความต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า หากอ่านโพสต์ของ สมเด็จฮุนเซนแล้วก็จะเห็นว่า สุดท้ายท่านก็ไม่อยากให้มีการปะทะเกิดขึ้น แน่นอนว่า ผู้นำของแต่ละประเทศก็ต้องแสดงจุดยืนของประเทศตัวเอง เพื่อปกป้องประเทศ แต่จากการพูดคุยกัน ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองฝ่ายก็จะไปพูดคุยกันในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อให้เกิดความชัดเจน และเป็นทางการเพิ่มมากขึ้น ซึ่งตั้งแต่เมื่อคืนก็ไม่ได้มีเหตุการณ์รุนแรงอะไรเกิดขึ้น เพราะสามารถตกลงกันได้ว่าทั้งสองฝ่ายต้องการให้เกิดความสงบ จึงมีการถอยกำลังทั้งคู่ ซึ่งก็มีการพูดคุยกันมาตั้งแต่เมื่อวาน และทั้งสองประเทศเห็นตรงกันว่าไม่อยากให้เกิดความรุนแรงในพื้นที่ที่มีปัญหากัน และวันนี้ ผบ.ทั้งสองฝ่ายก็จะเคลียร์กันให้เรียบร้อย
เมื่อถามว่า มั่นใจใช่หรือไม่ว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มั่นใจ และระดับผู้นำพูดคุยกันเรียบร้อยไม่มีปัญหาอะไร แต่เพื่อให้เป็นทางการจึงได้ส่งผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองประเทศไปพูดคุยกัน เพื่อดูในรายละเอียดว่ามีอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ที่ต่างฝ่ายจะสามารถสนับสนุนซึ่งกันและกันได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่จะต้องคุยกันต่อ ต้องรอรายละเอียดหลังการพูดคุยกัน
เมื่อถามว่า ปัญหาความเข้าใจผิดในเบื้องต้นเกิดจากปัญหาพื้นที่อ้างสิทธิใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้รอรายละเอียดจากการพูดคุยกันระหว่าง ผบ.ทบ.ทั้งสองฝ่ายในช่วงบ่ายวันนี้ก่อน เพราะหากพูดอะไรก่อนอ่านเป็นปัญหาตามมา เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน แต่ย้ำว่าในระดับผู้นำไม่มีปัญหาอะไร อะไรที่สามารถสนับสนุนได้ก็ยินดี เพราะไม่อยากให้มีปัญหากัน นี่คือความตั้งใจ
เมื่อถามว่า มึรายงานว่า กัมพูชาเสริมกำลังประชิดแนวชายแดน นายกรัฐมนตรี ถึงกับอุทาน อุ้ย ความจริงเป็นหลักเกณฑ์ตามปกติของแต่ละประเทศอยู่แล้ว หากมีการพูดคุยในประเด็นที่หนักขึ้นหรือเกิดการต่อสู้ขึ้น ก็ต้องมีการเสริมกำลังอยู่แล้ว ไม่มีใครปล่อยให้เกิดเรื่อง รวมถึงประเทศไทยด้วยหากเกิดเรื่องที่รุนแรงก็ต้องเสริมกำลัง แต่หากไม่มีเราก็พร้อมจบเพื่อให้เกิดความสงบ และปกป้องคนของเราด้วย
เมื่อถามว่า อยากจะบอกหรือส่งกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ตามแนวชายแดนอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราไม่อยากให้เกิดปัญหาระหว่างชายแดน ไม่ว่าจะเป็นที่ใดก็ตาม จึงขอส่งกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกก็จะลงพื้นที่ไปอยู่แล้ว เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายและเกิดความเข้าใจเพิ่มมากขึ้นทั้งสองฝ่าย และทั้งสองฝ่ายที่อยู่ในพื้นที่ก็ขอให้ใจเย็นลงสักนิด แล้วมาพูดคุยกันว่าอะไรที่ตกลงกันได้ ก็มาพูดคุยกันดีกว่าด้วยสันติภาพ
ส่วนจะสามารถสร้างความมั่นใจให้ประชาชนตามแนวชายแดนได้อย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร และพยายามสื่อสารให้คนในพื้นที่รู้ว่าขณะนี้เกิดอะไรในพื้นที่บ้าง ขณะเดียวกันก็ขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยกันสื่อสาร เพื่อให้ประชาชนได้ทราบถึงสถานการณ์ ซึ่งจากการพูดคุยกันทั้งสองฝ่ายขณะนี้ไม่มีปัญหาอะไร