“ภูมิธรรม” เผย ส่วนตัวคุยที่ปรึกษาฮุนเซนแล้ว ไม่อยากให้มีการเผชิญหน้า ยังไม่ต้องคุยกันเรื่องเขตแดน ขณะนายกฯ ได้คุยกับฮุนมาเนตแล้วเช่นกัน วันนี้นัดหมาย ผบ.ทั้งสองฝ่ายคุยกันบ่าย 3 โมง พร้อมสั่งให้ถอยจากจุดเผชิญหน้าฝ่ายละ 200 เมตร และให้ลงไปดูพื้นที่จริง พร้อมสั่งแม่ทัพภาค 2 อย่าทำอะไร ให้อยู่ในที่ตั้ง
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (29 พ.ค.) ที่ บช.ปส.นายภูมิธรรมเวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทางกัมพูชามีการโพสต์ Facebook ภาพการขนอาวุธหนักประชิดชายแดน ว่า เรื่องนี้ เป็นเรื่องที่มีความเข้าใจผิดของทุกฝ่าย ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีการพูดถึง จุดที่แต่ละฝ่ายมีการรุกล้ำดินแดนเข้ามา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยเมื่อวานได้คุยกับที่ปรึกษาจอมพล สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน และได้คุยกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหมของกัมพูชา โดยหลักการที่พูดคุย คือ ไม่อยากให้มีการเผชิญหน้า และยังไม่อยากให้มีการพูดคุยเรื่องดินแดนในเวลานี้ ทั้งนี้ ตนได้คุยกับ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ขณะที่ พลเอก สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ก็ได้คุยกับนายกรัฐมนตรีของเรา แล้ว และวันนี้ได้นัดนัดหมายให้ผบ.ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันเวลาประมาณ 15.00 น. และได้สั่งให้ถอยจากจุดที่เผชิญหน้ากันฝ่ายละ 200 เมตร แล้ววันนี้จะคุยกันโดยให้ผู้บัญชาการทหารบกเข้าไปดูสถานที่จริง ถ้าต่างฝ่ายต่างพูดเรื่องแผนที่จะลำบาก เพราะเป็นสถานการณ์ที่มีเรื่องความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้องเนื่องจากฝ่ายเขาเสียชีวิต
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ได้ดูข้อเรียกร้องของสมาคมนักข่าวทั้ง 2 ประเทศ ที่ขออย่าให้เกิดเหตุบานปลาย เนื่องจากทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันแล้ว และจะเริ่มต้นจากการให้เกิดสันติภาพ ไม่อยากให้เกิดความรุนแรง หากต่างฝ่ายต่างพูดก็จะเป็นการอ้างอิงของทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 รับรู้แล้ว และได้สั่งการในหลักการไปทั้งหมดแล้ว ว่าอย่าทำอะไรและให้อยู่ในที่ตั้ง เพราะสถานการณ์คุกรุ่นทั้งสองฝ่าย ไม่เช่นนั้น จะไม่สามารถยุติเรื่องได้ ให้พูดคุยกันชัดเจนแล้วค่อยมาแก้ปัญหา ซึ่งทั้งสองฝ่ายรับทราบตรงกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีข้อตกลงร่วมกันแล้ว และถ้าแต่ละฝ่ายไม่ทำตามข้อตกลงจะมีมาตรการอย่างไรต่อไป นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องไปดูก่อนว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไรและมีปัญหาตรงไหน จึงได้มอบนโยบายให้ ผบ.ทบ.ไปชัดเจนแล้ว โดยกำชับอย่าเผชิญหน้าอย่าให้เกิดความรุนแรงขึ้น ซึ่งระดับนโยบายของทั้งสองฝ่ายเห็นตรงกันเพื่อจะหาทางออกร่วมกันให้ได้ อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขอสื่ออย่านำเสนอข่าวให้เกิดความบานปลาย