แจ้งจังหวัดรับลูก "บอร์ดนมโรงเรียน" ผุดแนวทางการจัดสรรสิทธิ หลังแบ่งพื้นที่การบริหารจัดการระดับกลุ่มพื้นที่ใหม่ เหตุทำ "นมโรเรียน" ปีการศึกษา68 ถึงมือเด็กล่าช้า เชื่อผลการจัดสรรสิทธิ 7 กลุ่ม ทำเด็ก 6.3 ล้านคน 11,349 โรงเรียน มีโอกาสดื่มนม จากปริมาณนม 938.545 ตัน/วัน มีผู้ประกอบการร่วมโครงการฯ 81 แห่ง
วันนี้ (28 พ.ค.2568) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการจัดสรรสิทธิและพื้นที่จำหน่ายของโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ประจำปีการศึกษา 2568 ของทั้ง 7 กลุ่มพื้นที่ ในพื้นที่องค์กรปกครองสว่นท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ
ภายหลัง กรมส่งเสริมสหกรณ์ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน ได้ประกาศผลการจัดสรรสิทธิและพื้นที่ เมื่อกลางเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา
โดยเฉพะาการเพิ่มวัตถุประสงค์ในการสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์โคนม รัฐวิสาหกิจ และสถาบันการศึกษา ในการดำเนินกิจการผลิตนมในลำดับแรก
"มีการแบ่งพื้นที่การบริหารจัดการ ระดับกลุ่มพื้นที่ใหม่ จากเดิม 5 กลุ่ม เป็น 7 กลุ่ม"
และปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินงานโครงการ เกี่ยวกับการจัดสรรสิทธิและพื้นที่จำหน่ายนมโรงเรียน
จากการปรับเปลี่ยนหน่วยงานรับผิดชอบโครงการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 มีผลต่อกระบวนการดำเนินโครงการ
ซึ่งโดยปกติกระบวนการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินโครงการจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนของทุกปี
"เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงหน่วยงานรับผิดชอบ วัตถุประสงค์ โครงสร้างและ แนวทางการบริหารจัดการโครงการ ตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวจึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กระบวนการดำเนินงานโครงการล่าช้ากว่าทุกปี"
ล่าสุด มหาดไทย แจ้งเวียนแนวทางการจัดสรรสิทธิให้กับผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นม ให้ผู้ว่าราชากรจังหวัดทั่วประเทศ รับทราบ นอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในประกาศ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568
เฉพาะ "ประวัติการเข้าร่วมโครงการ" กรณีผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมรายใหม่ ซึ่งยังไม่มีประวัติ การดำเนินงานหรือประวัติความรับผิดชอบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม
"ในการพิจารณาจัดสรรสิทธิในกลุ่มพื้นที่ สามารถพิจารณาตามมติคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน ระดับกลุ่มพื้นที่ที่เห็นว่าเหมาะสม"
ทั้งนี้ ให้นําข้อมูลปริมาณน้ำนมโค ที่ยื่นเข้าร่วมโครงการและการได้รับการจัดสรรสิทธิ นมโรงเรียนย้อนหลัง 5 ปี จากข้อมูลของฝ่ายเลขานุการ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน ระดับกลุ่มพื้นที่
หรือฝ่ายเลขานุการ คณะอนุกรรมการบริหารกลางโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน มาประกอบการพิจารณา
"หากปีการศึกษา 2568 ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมรายใด นําปริมาณน้ำนมโคมายื่นสูงกว่าปกติ ให้ตรวจสอบแหล่งที่มาของน้ำนมดิบ"
และพิจารณาให้เป็นไปตามแนวทางการบริหารจัดการโครงการด้วยระบบโลจิสติกส์ โดยเน้นการผลิตและการจัดส่งนมภายในกลุ่มพื้นที่ตนเองเป็นอันดับแรก
กรณีผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมรายใหม่ที่ไม่มีศูนย์รวบรวมน้ํานมดิบเป็นของตนเอง
ซึ่งยังไม่มีประวัติการดําเนินงานหรือประวัติความรับผิดชอบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ในการพิจารณาจัดสรรสิทธิในกลุ่มพื้นที่
สามารถพิจารณาตามมติคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน ระดับกลุ่มพื้นที่ ที่เห็นว่าเหมาะสม
ชณะที่ ความรับผิดชอบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม โดยพิจารณาจากระยะเวลาความรับผิดชอบ หรือการช่วยเหลือรับซื้อน้ํานมดิบกับศูนย์รวบรวมน้ํานมดิบที่ประสบปัญหาไม่สามารถจําหน่ายน้ํานมดิบได้ ในการพิจารณาจัดสรรสิทธิในกลุ่มพื้นที่สามารถพิจารณาตามมติคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการอาหารนม เพื่อเด็กและเยาวชน ระดับกลุ่มพื้นที่ ที่เห็นว่าเหมาะสม
ทั้งนี้การจัดสรรสิทธิโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ประจําปีการศึกษา 2568 ให้พิจารณาการจัดสรรสิทธิ์ โดยให้ความสําคัญตามลําดับ ดังนี้
(1) ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นม ที่ยื่นปริมาณน้ำนมโคของศูนย์รวบรวมน้ำนมโคภายในกลุ่มพื้นที่ตนเอง ให้ใช้ประมาณน้ำนมโคเพื่อจัดสรรสิทธิเต็มจํานวนตามสัดส่วน
(2) ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นม ที่ทําสัญญาซื้อขายนมนอกกลุ่มพื้นที่ ซึ่งมีข้อมูล การซื้อขายน้ำนมโค เพื่อเข้าร่วมโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ให้ใช้ประมาณน้ำนมโคเพื่อจัดสรรสิทธิเพิ่มจํานวนตามสัดส่วน
กรณี ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมภาคสหกรณ์ในกลุ่มพื้นที่ ที่ได้ยื่นปริมาณน้ำนมโค เพื่อจัดสรรสิทธิเต็มสัดส่วนของพื้นที่ของตนเองแล้ว ไม่สามารถนําปริมาณน้ำนมโคที่มีการซื้อขายนอกกลุ่มพื้นที่ มายื่นขอรับการจัดสรรสิทธิเพิ่มเติมได้อีก
กรณี ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นม (1) และ (2) ใช้ปริมาณน้ำนมโคที่มีข้อมูลการซื้อขายน้ำนมโคเพื่อจัดสรรสิทธิทั้งจํานวนแล้วแต่ไม่เต็มสัดส่วนในกลุ่มพื้นที่ตนเอง ไม่สามารถนําปริมาณน้ำนมโคอื่นมายื่น
เว้นแต่มีประวัติการซื้อขายหรือข้อมูลการซื้อขายน้ำนมโคที่แสดงระยะเวลาความรับผิดชอบ ต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม
มีรายงานว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นม พร้อมเริ่มจัดส่งนมให้แก่โรงเรียนเป้าหมายในแต่ละกลุ่มพื้นที่โดยพร้อมเพรียงกัน ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 ผู้บริหารและผู้แทนคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการอาหารนมเพื่อเด็กระดับกลุ่มพื้นที่ ได้เข้าร่วมกิจกรรมส่งนมถึงน้องๆ ใน 7 กลุ่มพื้นที่ ได้แก่
กลุ่มพื้นที่ 1 สระบุรี ณ โรงเรียนชลประทานวิทยา จ.นนทบุรี กลุ่มพื้นที่ 2 สระแก้ว ณ โรงเรียนอนุบาลวัดสระแก้ว จ.สระแก้ว กลุ่มพื้นที่ 3 ขอนแก่น ณ โรงเรียนบ้านหินลาดวังตอ จ.ขอนแก่น กลุ่มพื้นที่ 4 สกลนคร ณ โรงเรียนอนุบาลภวิกา จ.สกลนคร
กลุ่มพื้นที่ 5 เชียงใหม่ ณ โรงเรียนอนุบาลบ้านท่อเมืองลัง จ.เชียงใหม่ กลุ่มพื้นที่ 6 ราชบุรี ณ โรงเรียนวัดบึงลาดสวาย จ.นครปฐม และกลุ่มพื้นที่ 7 พัทลุง ณ โรงเรียนเรวดีอาเซียน จ.พัทลุง
ทั้งนี้ ในปีการศึกษา 2568 ผลการจัดสรรสิทธิและพื้นที่จำหน่ายของกลุ่มพื้นที่ 1-7 สรุปปริมาณนม จำนวน 938.545 ตัน/วัน ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 81 แห่ง
จะสามารถจัดส่งนมให้โรงเรียนจำนวน 11,349 โรงเรียน รวมจำนวนเด็กนักเรียนที่จะได้ดื่มนมคุณภาพดีไม่น้อยกว่า 6.3 ล้านคน และยังคงมีบางพื้นที่ที่จะต้องดำเนินการจัดสรรสิทธิและพื้นที่จำหน่ายเพิ่มเติม.
