xs
xsm
sm
md
lg

“โรม” หัวเราะไม่หวั่น “อุปกิต” รอคดีจบก่อน เย้ยฟ้องหมิ่นมาก็ชนะ ประชดชี้ช่องขายยาฟอกเงินไม่เสียภาษี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“โรม” หัวเราะ! ดับมั่น “สว.อุปกิต” รอให้คดีจบก่อนดีไหม อย่าเพิ่งมั่นใจไป ไม่กังวลถูกฟ้องกลับ เย้ยก็ฟ้องหมิ่นมาแล้วสุดท้ายชนะ ชี้ช่องขายยาง่ายมากแค่ฟอกเงินไม่ต้องเสียภาษี แล้วบอกทุกอย่างบริสุทธิ์หมดจด ประชด ถ้ายกกันแบบนี้ อนาคตจะปราบปรามยาเสพติดได้ยากแน่


วันนี้ (28 พ.ค.) ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลอาญามีมติยกฟ้องทุกข้อหาของ นายอุปกิต ปาจรียางกูร อดีต สว. ว่า กรณีนี้เราอาจจะแยกออกมาเป็น 2 คดี คดีแรกคือคดีนายทุน มินหลัด และพวก ส่วนอีกคดีเป็นคดีของนายอุปกิต ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้ ควรจะเป็นคดีเดียวกัน ถ้าไม่มีกระบวนการต่างๆ ถ้าเราไปดูคดีนายทุน มินหลัด ศาลก็ยกฟ้อง ไม่เชื่อการดำเนินคดีของฝั่งตำรวจและอัยการ แต่ปัจจุบันเท่าที่ตนทราบ อัยการสูงสุดได้ยื่นอุทธรณ์คดีดังกล่าว ดังนั้น ในคดีของนายอุปกิตก็อยู่ที่อัยการสูงสุดจะอุทธรณ์หรือไม่ เพราะตนก็ยืนยันว่าหากมาตรฐานเรื่องคดียาเสพติดเป็นแบบนี้ ตนคิดว่าจะส่งผลร้ายแรงต่อการปราบปรามคดียาเสพติดทั้งระบบอย่างแน่นอน ตนอยากให้เข้าใจว่าการจับตัวการใหญ่ในคดียาเสพติดไม่มีทางที่คุณจะไปจับเขา โดยที่เขาพกยาเสพติดมาด้วย เขาจะมีการเก็บยาเสพติดไว้ในบ้าน เป็นกิโล ตันๆ เป็นไปไม่ได้ เพราะขบวนการแบบนี้ทำกันเป็นระบบ เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ จึงทำให้การทลายยาเสพติดไม่ง่าย แน่นอนที่สุดตนน้อมรับในสิ่งที่ศาลฯตัดสิน แต่ในวันนี้คดีของนายอุปกิตยังไม่สิ้นสุด ต้องให้ศาลสูงได้ยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าแนวปฏิบัติคดียาเสพติดสุดท้ายเป็นอย่างไร

“ถ้ายกกันแบบนี้ แม้ว่าเส้นเงินยาเสพติดจะมีการพัวพันก็ตาม ในอนาคตจะปราบปรามยาเสพติดได้ยากมาก และผลกระทบจะตกที่ประชาชนอย่างแน่นอน” นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่เพราะนายอุปกิตเตรียมจะฟ้องกลับ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า นายอุปกิต ได้ฟ้องตนแล้ว 3 คดี ในข้อหาหมิ่นประมาท 2 คดีแรกศาลชั้นต้นยกฟ้อง ตนยืนยันว่า ไม่ได้รู้จักหรือมีความแค้นกับนายอุปกิตเป็นการส่วนตัว ทั้งหมดที่อภิปราย เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ ไม่ได้ใส่สีเติมแต่งข้อมูลทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นไปตามสำนวนที่หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ได้ดำเนินการ ดังนั้น ถ้าจะมาฟ้องตนก็เป็นสิทธิ์ แต่ตนก็จะสู้คดีอย่างเต็มที่ ไม่ได้หนักใจหรือกังวลอะไร วันนี้สิ่งที่อยากเห็นจากประเทศเราคือตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม ลองคิดว่าเราจะจับตัวการใหญ่ได้อย่างไร ถ้ามาตรฐานยังเป็นแบบนี้

“ต่อไปนี้ใครอยากทำยาเสพติด โดยเฉพาะนำเข้ายาเสพติดมาจากฝั่งเมียนมา วิธีการง่ายคือถ้าอยากจะฟอกเงิน ก็ไปใช้โต๊ะเงินถ้าการโอนเงินระหว่างประเทศทำไม่สะดวก แต่คุณก็รู้กันกับโต๊ะเงิน เจ้าของโต๊ะก็ถูกออกหมายจับ แล้วคุณก็บอกว่าทุกอย่างบริสุทธิ์หมดจด เป็นการกระทำที่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่ต้องยื่นภาษี ถ้าเราอยู่กันแบบนี้ประเทศไทยของเราจะมีปัญหามากผมคาดหวังว่ากระบวนการยุติธรรมจะทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่และดีที่สุด” นายรังสิมันต์ กล่าว

ส่วนตำแหน่งและฉายาทรงเอที่นายอุปกิตฝากคืน นายรังสิมันต์ หัวเราะก่อนกล่าวว่า รอให้คดีสิ้นสุดก่อนดีหรือไม่ ถ้าสุดท้ายคดีนี้จบลงที่ไม่มีการอุทธรณ์ต่อ เป็นไปได้ 2 ทาง ทางแรกคือต้องไปพิจารณาว่าขัดต่อแนวปฏิบัติหรือไม่ เท่าที่ตนทราบคดีลักษณะแบบนี้ อัยการจะอุทธรณ์และถ้าอุทธรณ์ไปแล้ว และไม่สามารถเอาผิดได้ ก็เป็นไปตามนั้น ดังนั้น อย่าเพิ่งรีบมั่นใจเกินไปในตอนนี้ ตนก็ได้แต่เตือนผู้มีอำนาจบรรดาคนที่เกี่ยวข้องทั้งหลายว่าคิดให้ดีในเรื่องการสร้างบรรทัดฐานในคดียาเสพติด เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นช่องว่างให้อาชญากรอื่นเอาเป็นเยี่ยงอย่าง


กำลังโหลดความคิดเห็น