xs
xsm
sm
md
lg

ไทย-อินโด-มาเลย์ถกพัฒนาเขตศก.สามประเทศ นายกฯเสนอ 3 แนวทางสู่อนาคตยั่งยืนเชื่อมโยง 370 ล.คน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สามประสาน “ไทย-อินโด-มาเลย์” จับเข่าคุย IMT-GT ครั้งที่ 16 ร่วมพัฒนาเขตศก.สามประเทศ นายกฯ ย้ำไทยเสนอ 3 แนวทางหลักจับมือกันพัฒนาภาคเกษตร นวัตกรรมและการวิจัยฯ รวมทั้งโครงสร้างพื้นฐานและดิจิทัลแบบไร้รอยต่อ ก้าวสู่อนาคตยั่งยืนเชื่อมโยงปชช.ทั้งสามประเทศกว่า 370 ล.คน

วันนี้ (27 พฤษภาคม 2568) เวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งตรงกับเวลา 16.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย ณ ห้อง Conference Hall 1 ชั้น 3 ศูนย์ประชุม Kuala Lumpur Convention Center (KLCC) ประเทศมาเลเซีย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมแผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย - มาเลเซีย – ไทย (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle: IMT-GT) ครั้งที่ 16 ร่วมกับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม (Dato’ Seri Anwar Ibrahim) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB)

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญของถ้อยแถลง ที่นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อที่ประชุมฯ ดังนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวขอบคุณรัฐบาลมาเลเซียในฐานะเจ้าภาพ และขอบคุณเลขาธิการอาเซียน และธนาคารพัฒนาเอเชีย ที่ให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง และเน้นย้ำว่า การประชุมในครั้งนี้เป็นโอกาสอันเหมาะสมในการยืนยันเจตนารมณ์ร่วมกันของทั้งสามประเทศต่อ “IMT-GT Vision 2036” ที่มุ่งสร้างอนุภูมิภาค ที่มีการบูรณาการ นวัตกรรม ที่ครอบคลุมอย่างยั่งยืน โดยความร่วมมือที่ดำเนินมากว่า 30 ปี นั้นได้ก่อให้เกิดพัฒนาการที่สำคัญด้านความเชื่อมโยง การบูรณาการทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนุภูมิภาค

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความยินดีต่อการลงนามกรอบความร่วมมือด้านศุลกากร ตรวจคนเข้าเมือง และการกักกันโรค ซึ่งนับเป็นหมุดหมายสำคัญของการพัฒนาความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นของทั้งสามประเทศ และแม้เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวหลังจากวิกฤตโรคระบาด แต่ภูมิภาคยังคงเผชิญกับความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ ภูมิอากาศ และการชะลอตัวของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือภายใต้กรอบ IMT-GT ที่ต้องแข็งแกร่งและเป็นหนึ่งเดียวมากยิ่งขึ้นโดยประเทศไทย ได้เสนอแนวทางความร่วมมือ 3 ประการ

ประการแรก ความร่วมมือในภาคเกษตร โดยเฉพาะสินค้าที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ต่อทั้งสามประเทศ ได้แก่ ยางพาราและปาล์มน้ำมัน ซึ่งไม่เพียงเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของ 3 ประเทศ แต่ยังเกี่ยวโยงในห่วงโซ่ทางเศรษฐกิจของทั้งภูมิภาค และระดับโลก ทั้งนี้ขอเสนอให้ประเทศสมาชิกเร่งยกระดับการแปรรูปสินค้าเกษตร ใช้มาตรฐานความยั่งยืนสากลและการผลิตอย่างมีความรับผิดชอบ นำไปสู่การเสริมสร้างภาพลักษณ์ของ IMT-GT ในฐานะผู้นำด้านเกษตรกรรมที่ยั่งยืน และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในชนบทของแต่ละประเทศ

ประการที่สอง การส่งเสริมนวัตกรรมและการวิจัยพัฒนา (R&D) ประเทศไทยเห็นว่า “นวัตกรรม” จะเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนและแข่งขันได้ในอนาคต ซึ่งต้องเร่งปรับตัวต่อความเสี่ยงจากสภาพภูมิอากาศของโลกที่รุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ควรลงทุนในเทคโนโลยีที่รับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยเฉพาะในภาคเกษตร ที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความมั่นคงด้านอาหารและสร้างภูมิคุ้มกันทางเศรษฐกิจระยะยาวให้กับอนุภูมิภาคได้

ประการที่สาม การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพและดิจิทัลไร้รอยต่อ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงทั้งทางบก ทางทะเล ทางอากาศ และเครือข่ายดิจิทัลนั้น นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการเติบโต ดึงดูดการลงทุน และบูรณาการความร่วมมือในอนุภูมิภาคให้มากยิ่งขึ้น โดยโครงการภายใต้ IMT-GT ควรสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ 2036 ที่เน้นความครอบคลุม ความยืดหยุ่น และความยั่งยืน

ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า จุดแข็งของ IMT-GT อยู่ที่ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในเป้าหมายร่วมกัน ของทั้งสามประเทศ ความร่วมมือนี้ไม่เพียงแต่เป็นกรอบความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นเวทีเพื่อ “สันติภาพ ความมั่งคั่ง และความเป็นหุ้นส่วน” และขอเชิญชวนให้ทุกประเทศเดินหน้าร่วมกันเพื่ออนาคตที่เชื่อมโยงบูรณาการระหว่างกัน มีนวัตกรรม ครอบคลุม และมีความยั่งยืนของประชาชนในอนุภูมิภาค IMT-GT สามประเทศ

นายจิรายุ กล่าวต่อไป อีกว่า ในที่ประชุมฯ สามประเทศ ยังได้รับรองแถลงการณ์ร่วมการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 16 แผนงาน IMT-GT (Joint Statement of the 16th IMT-GT Summit) ซึ่งยืนยันในความมุ่งมั่นต่อวิสัยทัศน์ IMT-GT พ.ศ. 2579 (IMT-GT Vision 2036) พร้อมส่งเสริมเศรษฐกิจยั่งยืนผ่านแนวทางเศรษฐกิจ สีเขียว สีน้ำเงิน( เศรษฐกิจที่ใช้ทรัพยากรทางทะเลฯ) และเศรษฐกิจหมุนเวียน รวมทั้งการขับเคลื่อนการเติบโตด้วยนวัตกรรมดิจิทัล และการรับมือความท้าทายระดับโลก

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้ร่วมยินดี ต่อการลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านศุลกากร การตรวจคนเข้าเมือง และการกักกันโรคระหว่างกัน อีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น