"ทักษิณ" ชี้ช่อง "ยิ่งลักษณ์" สู้คดีจำนำข้าว อาจไม่ต้องจ่ายถึงหมื่นล้าน เพราะกระทรวงคลังได้รับชดเชยมาจากส่วนอื่นแล้ว ต้องไปคำนวณใหม่ อาจโดนปรับไม่ถึงหมื่นล้าน ซึ่งขอใช้สิทธิตั้งคดีใหม่ได้ภายใน 90 วันตามกระบวนการ ยอมรับคุยกันบ้าง ส่วนจะกลับบ้านเมื่อไหร่รอพายุสงบก่อนเพราะมีคนปั่นเยอะ ส่วนลุงป้อมล้ม ”น่าสงสาร“
วันนี้ (27พ.ค.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงคดีโครงการรับจำนำข้าวว่าศาลปกครองสูงสุดอธิบายชัดเจนว่านางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นโจทก์ยื่นฟ้องกระทรวงการคลังว่าออกคำสั่งทางปกครองโดยไม่ถูกต้อง ที่ต้องให้ชดใช้เงินค่าเสียหายถึง 35,000 ล้านบาท โดยเห็นควรให้ชดใช้เฉพาะบางส่วน เป็นเงินเพียง10,028 ล้านบาท ก็ถือว่าเป็นไปตามกระบวนการโดยนางสาวยิ่งลักษณ์ยังสามารถใช้สิทธิ์ในการเสนอขอตั้งคดีใหม่ภายใน 90 วันได้ และต้องต่อสู้กันไปตามกระบวนการและช่องทางของกฎหมาย
"ศาลได้อธิบายอีกครั้งหนึ่ง ว่าเรื่องนี้คุณยิ่งลักษณ์เป็นโจทย์ เค้าไม่ได้เป็นจําเลย เพราะฉะนั้นเนี่ย คุณยิ่งลักษณ์ฟ้อง ว่ากระทรวงการคลังทําไม่ถูก ใช้งานออกสาร ออกมติทางปกครองเนี่ยไม่ถูก แล้วจะปรับตั้ง 35,000 ศาลก็เลยบอกว่าเท่าที่ตรวจดูแล้วเนี่ยบางบางอันก็ถูก บางอันก็ไม่ถูก แต่สรุปแล้วว่าปรับได้ไม่เกิน 10,028 ล้านเนี่ย
"แต่ว่าหมายความว่าจะปรับได้อย่างนั้นเนี่ยก็ต้องไปตกลงกันว่ากระทรวงการคลังได้รับการชดเชยมาจากคนอื่นแค่ไหนยังไง ขาดเหลือเท่าไหร่ แล้วข้าวขายได้ยังไง เบ็ดเสร็จแล้วเสียหายจริงหรือเปล่า ถ้าเสียหายจริงไม่ถึงหมื่น ก็คือปรับไม่ถึงหมื่นก็ตามนั้น อันนี้คือกติกา นะครับ กติกาที่ออกมาอย่างนี้แต่หมายความว่าคุณยิ่งลักษณ์ก็ยังมีสิทธิเสนอใหม่ได้ภายใน 90 วัน" นายทักษิณกล่าว
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ได้มีการพูดคุยกับนางสาวยิ่งลักษณ์อยู่บ้าง ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนจะได้กลับบ้านเมื่อไหร่ คงต้องรอให้บ้านเมืองสงบลงก่อน เพราะทุกวันนี้มีคนพยายามปั่นพายุให้เกิดขึ้น เมื่อไหร่ที่พายุสงบลง นางสาวยิ่งลักษณ์ก็อาจจะได้กลับมา ตอนนี้มีคนพยายามปั่นกระแสต่างๆเยอะ แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะตนเองไม่รู้ร้อนรู้หนาว เพราะแก่แล้ว ห่วงแต่คนที่กำลังปั่นเรื่อง อาจจะเครียดจนเส้นเลือดในสมองแตก ก็เป็นได้
"คุยบ้างครับ คุยบ้าง ก็ต้องสู้ไปต้องสู้ไปเรื่องคดีคนละส่วนกัน อันนี้มันเป็นเรื่องของแพ่งไม่ได้เกี่ยวกับอาญา นะครับ
"ก็รอให้เหตุการณ์ทุกอย่างมันสงบนะครับ วันนี้ก็มีคนปั่นพายุอีก รอเดี๋ยวพายุมันก็หมด ไม่รู้เหมือนกันเป่าอยู่เนี่ย แต่เดี๋ยวๆ ก็จบ ไม่มีอะไร ไม่เป็นไรฮะ นี่บังเอิญผมเป็นคนที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว เพราะมันแก่แล้ว แต่ผมห่วงคนปั่นอ่ะ ผมก็ไม่รู้ร้อนรู้หนาวสักที เดี๋ยวกลัวจะเครียดเส้นโลหิตสมองแตก ติดเตียงกันอีก ผมเป็นห่วง ขี้เกียจไปเยี่ยม" นายทักษิณ กล่าว
ส่วนเรื่องที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่าการขึ้นเวทีบรรยายพิเศษในวันนี้เพราะต้องการเจอกับลูกน้องหรือผู้ร่วมงานเก่าเก่า ทำไมไม่ไปเปิดร้านกาแฟเพื่อ พูดคุยกัน จะจัดประชุมแบบนี้ทำไมนั้น นายทักษิณ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า หากอยากจะเจอกันไม่จำเป็นต้องไปที่ร้านกาแฟ เปิดบ้านนัดเจอกันก็ได้ดื่มไวน์กันเพราะที่บ้านไวน์อร่อย
"นี่ไม่ต้องไปแซะผมหรอก เขาก็อยากมาคุยกับผม มาได้นะ ผมเลี้ยงไวน์ ไวน์บ้านผมอร่อยนะ จะได้ไม่ต้องเครียด เดี๋ยวไปอยู่ ยืนเด่ไม่ได้คุยกันเครียด เดี๋ยวติดเตียง ผมเป็นห่วงเขา"
ผู้สื่อข่าวถามว่า เห็นข่าวที่พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐลื่นล้มแล้วหรือยัง นายทักษิณกล่าวว่า เห็นแล้วรู้สึกสงสาร