“ชูศักดิ์” ชี้ วงเงินค่าเสียหายจำนำข้าว “ยิ่งลักษณ์” ต้องคำนวณอีกรอบ เหตุข้อเท็จจริงเปลี่ยน หลังศาลปกครองสูงสุด เพิกถอนคำสั่ง ก.คลัง เดิม เป็นหน้าที่ คกก.ชุดใหม่ ตั้งขึ้นภายใน 60 วัน
วันนี้ (27 พ.ค.) นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลปกครองสูงสุด เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง ให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าเสียหายในคดีจำนำข้าวจีทูจี เพียง 10,028 ล้านบาท และกระทรวงการคลังต้องมีคำสั่งให้ชดใช้ ว่า หมายความว่า คดีนี้ เป็นคดีที่นางสาวยิ่งลักษณ์ และคณะเป็นโจทก์ฟ้องเพื่อขอให้เพิกถอนคำบังคับกระทรวงซึ่งศาลได้ระบุว่าคำสั่งของกระทรวงการคลัง ที่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าเสียหาย 3.5 หมื่นล้านบาท ไม่ชอบ จึงให้เพิกถอนคำสั่งในส่วนที่เกิน 10,028 ล้านบาท ซึ่งหมายความว่า เป็นการเริ่มต้นใหม่ ยกเลิกคำสั่งเดิม เพื่อดำเนินการใหม่ และต้องมีคณะกรรมการเข้าไปดูแลความเสึยหาย คำสั่งฉบับเก่าผ่านมาหลายปีแล้ว ศาลตัดสินตั้งแต่ปี 66 ฉะนั้น เป็นเรื่องที่ทนายความต้องไปดูว่าคณะกรรมการบังคับคดีของกระทรวงการคลังในเวลานั้น เขาคิดค่าเสียหายอย่างไร และมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว ซึ่งตนเองไม่ทราบรายละเอียด
ส่วนวงเงินค่าเสียหาย คณะกรรมการที่จัดตั้งขึ้นใหม่ต้องคำนวณค่าเสียหายหรือไม่นั้น นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ต้องคิด เพราะมีข้อเท็จจริงที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น การขายข้าว สำนวน และคำบังคับคดีในขณะนั้น เป็นอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องรายละเอียด และทรัพย์สินของนางสาวยิ่งลักษณ์ ที่มีการอายัดไปแล้วนั้น จะต้องมีการคำนวณใหม่ด้วยหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ก็ต้องดู ว่าถึงปัจจุบันมีความเสียหายเท่าไหร่ และรัฐได้เงินไปแล้วเท่าไหร่ ต้องไปดูทั้งหมดส่วนตัวไม่รู้รายละเอียด
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังจะต้องทำคำสั่งใหม่ภายในกี่วันนั้นนายชูศักดิ์ กล่าวว่า คำพิพากษาในข้อ 3 ระบุว่า ให้ดำเนินการภายใน 60 วัน ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลังที่จะต้องไปดู
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ชี้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีและประธาน กขช.ต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดจากการทุจริตในขั้นตอนการระบายข้าวจีทูจี เป็นจำนวนเงิน 10,028,861,880 บาท หรือกึ่งหนึ่งของความเสียหายในที่เกิดขึ้นในขั้นตอนนี้