xs
xsm
sm
md
lg

ศาลปกครองแจงไม่ได้สั่ง “ยิ่งลักษณ์” จ่ายหมื่นล้าน แต่เป็นการเพิกถอนคำสั่งกระทรวงคลังบางส่วนที่ให้จ่ายเกิน 10,029 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศาลปกครองแจงข้อกฎหมายคดี “ยิ่งลักษณ์” ฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง ให้ชดใช้ค่าสินไหมโครงการจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้าน ชี้ ศาลปกครองไม่ได้สั่งให้ “ยิ่งลักษณ์” จ่าย แต่เป็นการเพิกถอนคำสั่งกระทรวงคลังส่วนที่ให้จ่ายเกิน 10,029 ล้าน เผย พิจารณาคดีตั้งแต่ 12 ก.ย. 2566 จึงมีชื่อตุลาการบางคนที่พ้นราชการไปแล้วอยู่ในคำพิพากษา

วันนี้ (26 พ.ค.) สำนักงานศาลปกครองชี้แจงข้อกฎหมายในการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีหมายเลขแดง ที่ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ นายอนุสรณ์ อมรฉัตร ฟ้องนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 9 คน ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ให้ชดใช้ค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้าน ว่า 1. คดีในส่วนของนางสาวยิ่งลักษณ์ มีมูลเหตุมาจากกรณีที่มีคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 1351/2559 ให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงิน 35,717,273,028.23 บาท อันเป็นคำสั่งทางปกครองที่ให้ชำระเงิน ซึ่งหากไม่ชำระ กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีอำนาจใช้มาตรการบังคับทางปกครอง โดยยึดหรืออายัดทรัพย์สินและขายทอดตลาดเพื่อชำระเงินตามคำสั่งได้ โดยไม่จำต้องฟ้องคดีต่อศาล ทั้งนี้ ตามมาตรา 12 พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 และมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ที่ใช้บังคับอยู่เดิม และมาตรา 63/7 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าวที่แก้ไขใหม่ เมื่อเห็นว่าคำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายและฟ้องคดีต่อศาลปกครอง โดยมีคำขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว คดีในส่วนนี้ จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐออกคำสั่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่ศาลปกครองมีอำนาจเพียงพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวทั้งหมดหรือบางส่วน

ทั้งนี้ ตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 72 วรรคหนึ่ง (1) พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง 2542 โดยศาลไม่มีอำนาจพิพากษาให้คู่กรณีฝ่ายผู้ฟ้องคดีรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ซึ่งคดีนี้ ศาลปกครองสูงสุด เห็นว่า คำสั่งพิพาทไม่ชอบด้วยกฎหมายบางส่วน จึงมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งพิพาทเฉพาะส่วนที่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเกินกว่าจำนวน 10,028,861,880.83 บาท โดยศาลปกครองสูงสุดไม่ได้มีคำพิพากษาและออกคำบังคับให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 9 แต่อย่างใด

2. คดีนี้ศาลปกครองสูงสุดนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2566 โดยตุลาการศาลปกครองสูงสุดที่นั่งพิจารณาได้ลงลายมือชื่อในร่างคำพิพากษาครบทั้ง 5 คนเรียบร้อยแล้ว ต่อมาประธานศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งให้นำคดีเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุด ซึ่งในการประชุมใหญ่นั้น จะประกอบด้วย ตุลาการศาลปกครองสูงสุดทุกคนที่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในขณะนั้น ตุลาการศาลปกครองสูงสุดที่พ้นจากราชการไปแล้ว จึงไม่อาจเข้าร่วมประชุมใหญ่ได้

ทั้งนี้ คำวินิจฉัยของที่ประชุมใหญ่ จะเป็นไปตามเสียงข้างมากของที่ประชุม ต่อมาเมื่อมีการจัดทำคำพิพากษาตามมติของที่ประชุมใหญ่แล้ว ตุลาการในองค์คณะ 2 คน ที่พ้นจากราชการไปแล้ว จึงไม่อาจลงลายมือชื่อในคำพิพากษาได้ ซึ่งประธานศาลปกครองสูงสุดได้มีบันทึกกรณีตุลาการศาลปกครองสูงสุดมีเหตุจำเป็นไม่อาจลงลายมือชื่อได้ไว้ในคำพิพากษาแล้ว ทั้งนี้ การดำเนินกระบวนพิจารณาและจัดทำคำพิพากษาดังกล่าวเป็นไปตามมาตรา 68 และมาตรา 69 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ส่วนการทำความเห็นแย้งนั้น ตุลาการศาลปกครองสูงสุดทุกคนในที่ประชุมใหญ่มีสิทธิทำความเห็นแย้งได้ตามมาตรา 67 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยปรากฏความเห็นแย้งและรายชื่อของตุลาการที่มีความเห็นแย้งอยู่ในคำพิพากษาแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น