โฆษกเพื่อไทย แถลง สงสารเห็นใจ “ยิ่งลักษณ์” ถูกยึดอำนาจแล้วโดนคดีจำนำข้าว อ้างพอมีช่องทางสู้คดี หลักฐานใหม่ ขายข้าว 18.9 ล้านตัน เมื่อปีที่แล้ว ยังไม่ได้นำเข้าสู่การพิจารณา เตรียมยื่นศาลปกครองขอให้มีคำชี้ขาดใหม่ ภายใน 90 วัน ส่วนศาลจะรับหรือไม่ก็แล้วแต่จะเมตตา
วันนี้ (25 พ.ค.) ที่พรรคเพื่อไทย นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวท่าทีของพรรค กรณีศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดจากการทุจริตในขั้นตอนการระบายข้าวจีทูจีในโครงการรับจำนำข้าว เป็นจำนวนเงิน 10,029 ล้านบาท ว่า พรรคเพื่อไทยมีความห่วงใยและสงสาร น.ส.ยิ่งลักษณ์ เนื่องจากคดีจำนำข้าวนั้นเป็นคดีที่เกิดขึ้นในช่วงของการปฏิวัติรัฐประหาร และเป็นหนึ่งในเหตุผลของการยึดอำนาจ เวลาผ่านไป 10 กว่าปี เชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีทีมกฎหมายมีทนายที่ร่วมต่อสู้คดี แต่เมื่อคดีถึงที่สุด พรรคเพื่อไทยก็ต้องยอมรับในคำตัดสิน และอยากจะใช้ช่องทางกฎหมายเท่าที่เหลืออยู่ต่อสู้ในคดีนี้
นายดนุพร กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยได้ไปพูดคุยกับฝ่ายกฎหมาย ผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรค ก็พบว่า คดีนี้ยังมีช่องทางพอต่อสู้ได้อยู่ เนื่องจากว่าเมื่อเดือนกรกฎาฯ ของปีที่แล้ว มีการขายข้าว 18.9 ล้านตัน ซึ่งน่าจะเป็นหลักฐานใหม่ที่จะนําไปสู่การขอให้ศาลปกครองพิจารณาพิพากษาคดี หรือมีคําสั่งชี้ขาดใหม่ได้ภายใน 90 วัน ตามมาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542
“ขอเรียนว่าอย่างนี้ครับว่าหลักฐานใหม่นี้คือการขายข้าว 18.9 ล้านตันเมื่อปีที่แล้วนะครับ ยังไม่ได้นําเข้าสู่การพิจารณาพิพากษาในคดีนี้ เนื่องจากว่าเป็นพยานหลักฐานที่เกิดขึ้นหรือมีภายหลังการสิ้นสุดการแสวงหาข้อเท็จจริงแล้ว เพราะฉะนั้นทางพรรคเองเรามองว่านี่เป็นหลักฐานใหม่ ที่ยังไม่เคยเข้าสู่กระบวนการพิจารณา ดังนั้น เราจะใช้ช่องทางทางกฎหมายตามมาตรา 75 แห่ง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 เป็นช่องทางที่จะต่อสู้ต่อไป” นายดนุพร กล่าว
นายดนุพร กล่าวย้ำว่า คดีนี้เกิดขึ้นในช่วงที่มีการปฏิวัติยึดอํานาจ ผู้นําในการปฏิวัติ ขณะนั้นได้ประกาศใช้มาตรา 44 หลายฉบับซึ่งเกี่ยวข้องกับคดีการจํานําข้าว แต่เราก็ ต้องต่อสู้กันไปโดยใช้หลักฐานใหม่นี้ตามช่องทางกฎหมาย
ส่วนกรณีที่เฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทยได้โพสต์แต่เรื่องของอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ หลังจากที่มีคําพิพากษาคดี นายดนุพร ชี้แจงว่า วนโยบายจํานําข้าวเป็นนโยบายหลักที่พรรคเพื่อไทยใช้ในการหาเสียงเมื่อปี 2554 พวกเราชนะการเลือกตั้งส่วนหนึ่งมาจาก นโยบายนี้ และนโยบายการจํานําข้าวนั้นได้แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎร โดยนายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในขณะนั้นว่านี่คือนโยบายหลักที่จะทําให้พี่น้องเกษตรกรชาวนาสามารถลืมตาอ้าปากได้ ดังนั้นเป็นเหตุจําเป็นที่พรรคเพื่อไทยจะต้องลงชี้แจง พูดถึงข้อเท็จจริงในเรื่องของคดีนี้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีนักกฎหมายมองว่าเรื่องนี้ไม่สามารถทําได้ เหมือนกับว่า มีการนําของจากบริษัทหนึ่งไปขายแล้วก็จะนําของที่เหลือไปขายเพื่อเอากําไรกลับมา ตรงเนี้ยไม่สามารถทําได้ นายดนุพรตอบว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของศาล เพียงแต่ว่าเราก็มีช่องทางทางกฎหมายที่เหลืออยู่ โดยใช้มาตรา 75 ในการที่จะยื่นว่า นี่เป็นหลักฐานใหม่ที่ยังไม่เคยเข้าสู่กระบวนการมาพิจารณาของศาล ดังนั้นเราก็จะรวบรวมหลักฐานให้หนาแน่นที่สุด แล้วก็ยื่นไป ส่วนศาลจะมีคําวินิจฉัยอย่างไร จะรับหรือไม่รับ ก็เป็นเรื่องของศาลที่เราจะต้องขอความเมตตาจากศาลต่อไป