วันนี้ (23 พ.ค.) นายเอกภาพ พลซื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงกรณีที่ สส.พรรคประชาชน กล่าวว่า การจัดสรรนมโรงเรียนล่าช้า ทำให้นักเรียนไม่ได้ดื่มนมทั่วประเทศนั้น ก่อนอื่นตนต้องขอขอบคุณสำหรับความเป็นห่วงเด็ก ๆ นักเรียนทั่วประเทศของท่าน สส.แต่ขอชี้แจงว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีการเสนอปรับโครงสร้างระบบบบริหารจัดการนม เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ คือ ให้นักเรียนทั้งประเทศได้ดื่มนม โดยที่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมสามารถผลิตขายน้ำนมโคที่มีคุณภาพได้และมีความยั่งยืนในอาชีพ เพื่อสร้างศักยภาพ ความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์โคนม รัฐวิสาหกิจและสถาบันการศึกษาในการดำเนินกิจการผลิตนมในลำดับแรก ซึ่งจะเกิดความมั่นคงทางอาหารของประเทศ โดยที่ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมได้รับการจัดสรรสิทธิและพื้นที่การจำหน่ายอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม
นายเอกภาพ กล่าวต่อว่า มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 ได้มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรฯได้เสนอไปในการสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์โคนม รัฐวิสาหกิจ และ สถาบันการศึกมา เข้ามาดำเนินกิจการผลิตนมในลำดับแรก และส่วนที่เหลือก็จะเป็นของผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์นมที่เข้าร่วมโครงการ ได้รับการจัดสรรสิทธิและพื้นที่จำหน่ายอย่างเหมาะสมเช่นกัน โดยมีการแบ่งพื้นที่การบริหารจัดการโครงการอาหารนมเพื่อเด็กและเยาวชน ระดับกลุ่มพื้นที่ใหม่ จากเดิมแบ่ง 5 เขตพื้นที่ เป็น 7 เขตพื้นที่ เพื่อลดระยะทางในการขนส่งนม
“การเปลี่ยนแปลงหน่วยงานรับผิดชอบ วัตถุประสงค์ โครงสร้างและแนวทางบริหารจัดการ ตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กระบวนการดำเนินงานโครงการล่าช้าไปบ้าง แต่กระทรวงเกษตรฯ ได้พยายามเร่งรัดการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และขอยืนยันว่า นมโรงเรียนไม่ได้หายไปไหน และภายในต้นสัปดาห์หน้าเด็กและเยาวชนทั่วประเทศจะได้ทานนมโรงเรียนอย่างแน่นอน“นายเอกภาพ กล่าว