xs
xsm
sm
md
lg

"สนธิญา" ยื่นกกต.เพิ่มสอบ “พีระพันธุ์” ถือหุ้น 4 บริษัทฯ-แก้ใบบริคณห์สนธิ จี้นายกฯสั่งพณ.สอบ 1 ชม.รู้ผล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สนธิญา” ยื่นเอกสารเพิ่มเติมให้ กกต. สอบ “พีระพันธุ์” พบชื่อถือหุ้น 4 บริษัทฯ-แก้ไขใบบริคณห์สนธิ แนะนายกฯสั่งกระทรวงพาณิชย์ สอบ ไม่เกิน 1 ชม.รู้ผล หากไม่ได้รับคำตอบเตรียมเข้าสู่ชั้นอัยการสูงสุด นายกฯโดยด้วย

วันนี้ (23พ.ค.) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยื่นหนังสือต่อ กกต. เพิ่มเติม เกี่ยวกับการแก้ไขผู้ถือหุ้น และกรรมการบริหาร ใน 4 บริษัท ที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ถือหุ้นอยู่ โดยก่อนยื่นหนังสือ นายสนธิญา กล่าวว่า ตนได้ยื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบ นายพีระพันธุ์ มาแล้ว 3 หน่วยงาน ทั้ง กกต. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.), และศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล ที่นายธีรพันธ์เข้าไปถือหุ้น และเป็นกรรมการผู้จัดการ ทั้ง 4 บริษัทจึงยื่นเรื่องดังกล่าวให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตรวจสอบว่านายพีระพันธุ์ มีการถือหุ้นอยู่ในบริษัทดังกล่าว ว่าเป็นกรรมการบริหาร ทั้ง 4 บริษัท จริงหรือไม่อย่างไร

นายสนธิญา กล่าวอีกว่า ตนได้รับเอกสารเพิ่มอีก 3 ฉบับ ซึ่งเป็นเอกสารของกระทรวงพาณิชย์ที่มีการอัพเดทบุคคล ทั้งหุ้นส่วน หรือ กรรมการผู้จัดการบริษัท ทั้ง 4 บริษัท ถูกถอดถอดชื่อออกไป ในวันที่ 21พ.ค.68 ที่ผ่านมา เวลา 13.52น. จึงเป็นเหตุให้มายื่นกกต.ถึงการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และพ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งและจริยธรรมร้ายแรง

"ขอให้ นายพีระพันธุ์ ออกมาชี้แจงว่า มีการแก้ใบบริคณห์สนธิ เกี่ยวกับผู้ถือหุ้นและผู้บริหาร รวมถึงกรรมการบริหาร ทั้ง 4 บริษัท 3-4 วันที่ผ่านมา ว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ เพราะ นายกรัฐมนตรี, รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี เมื่อเข้าไปมีส่วนร่วมกับการถือหุ้นต่างๆ จะมีผลด้านกระบวนการกฎหมาย ซึ่งผมต้องการบทสรุปที่ชัดเจน "

ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัจจุบันแม้จะยังมีการยื่นขอให้ตรวจสอบ แต่ก็ยังพบชื่อนายพีระพันธุ์ มองเรื่องดังกล่าวอย่างไร นายสนธิญา กล่าวว่า ตนขอกราบวิงวอนเรียกร้องให้ นายพีระพันธุ์ ออกมาชี้แจง กรณีถือหุ้น 4 บริษัท ว่าจริงหรือไม่ ซึ่งจะทำให้ประชาชนรับทราบ หากไม่จริงแสดงว่าเอกสารที่ตนได้มาเป็นเท็จ นอกจากนี้ ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนไปยื่นร้อง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รอบที่ 2 ขอให้ตรวจสอบ เรื่องการถือหุ้นของ นายพีระพันธ์ุ ซึ่งเจ้าหน้าที่รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล บอกว่า ได้ส่งให้กับนายกรัฐมนตรีไปแล้ว กว่า 10 วัน แต่นายกฯยังไม่ตอบ ดังนั้น ตนจึงไปยื่นอีกครั้ง และขอให้เพิ่มด้วยว่า "มีการแก้ไขนิติกรรมใดๆก็ตาม เกี่ยวกับ 4 บริษัทดังกล่าวหรือไม่" ยืนยันว่า การไปร้องที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ยังไม่มีความคืบหน้ามาถึงตน ตั้งแต่วันที่ 6พ.ค.68 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ การตรวจสอบหุ้นส่วนหรือการถือหุ้น ของตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรี เพียงสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ตรวจสอบภายในไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็เป็นอันแล้วเสร็จ ว่า บุคคลใดมีชื่อและบุคคลใดไม่มีชื่อ แต่ผ่านมาแล้ว 16 วัน ตนจึงต้องยื่นฉบับที่ 2 ภายในสัปดาห์หน้าถ้าตนยังไม่ได้คำตอบ ตนจำเป็นต้องนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ชั้นอัยการสูงสุด ทั้งของรองนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ขณะเดียวกัน ตนไม่ต้องการทำถึงขั้นนั้น เพราะกรณีการถือหุ้นหรือไม่ถือหุ้น เฉพาะนายกรัฐมนตรีสามารถสั่งตรวจสอบได้อยู่แล้ว

นายสนธิญา กล่าวว่า กรณีที่นายพีระพันธ์ุ เดินทางไปประเทศลาวนั้น ตนได้ยื่นจริยธรรมและคุณธรรมไปที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หลังจากนี้ยังนิ่งเฉย ตนจะไล่ตั้งแต่การจับที่ปรึกษา พีระพันธุ์ ในทำเนียบรัฐบาล ขณะที่วันนี้ พรรคประชาชนก็ออกมาแถลงข่าวว่า นายพีระพันธุ์ ไม่ได้พูดความจริงกรณีการไปพูดคุยเกี่ยวกับการซื้อไฟฟ้าที่ประเทศลาว โดยให้หน่วยงานราชการไปตรวจสอบ ซึ่งพรรคประชาชนไปถามกฤษฎีกา ว่า นายพีระพันธ์ุ ได้ไปหารือเรื่องไฟฟ้าหรือไม่ ซึ่งทางกฤษฎีกาตอบว่า นายพีระพันธ์ุ ไม่ได้ไปหารือเกี่ยวกับเรื่องการซื้อไฟฟ้า ฉะนั้น ตนจะผนวกเรื่องต่างๆเข้าด้วยกัน เพื่อยื่นหนังสือให้เป็นจริยธรรมร้ายแรงเข้าไปอีกรอบ เพราะการบริหารราชการของนายพีระพันธ์ุ และนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี เป็นบุคคลสาธารณะที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม รับผิดชอบต่อประชาชน และรับผิดชอบต่อความกินดีอยู่ดี รวมถึงรับผิดชอบความจริง-เท็จ ตามระบบราชการ ย้ำว่า ต้องมีคุณธรรมและจริยธรรมด้วย

นายสนธิญา กล่าวด้วยว่า ตนไม่ได้อะไร มีแต่เสีย มีแต่ถูกด่า ว่าตนไปรับสิ่งต่างๆ ยืนยันว่า ตนทำทุกอย่างหากสิ่งนั้นเป็นประโยชน์กับประชาชนและคนทั้งประเทศ


กำลังโหลดความคิดเห็น