xs
xsm
sm
md
lg

“ธนกร” หนุนรัฐบาลผันงบ 1.57 แสนล้านอัดฉีดลงทุน มั่นใจต่อยอดสร้างรายได้ประชาชนเพิ่ม ฝากฝ่ายค้านถกงบฯ 69 อย่าเล่นเกม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ธนกร” หนุนรัฐบาลผันงบ 1.57 แสนล้านอัดฉีดลงทุนบริหารน้ำ-คมนาคม-ปลุกท่องเที่ยว-ช่วยส่งออก มั่นใจ ต่อยอด ศก.สร้างรายได้ ปชช.เพิ่ม ฝากฝ่ายค้านพิจารณางบ 69 สร้างสรรค์ ยึดประโยชน์ชาติ อย่าเน้นเล่นเกมการเมือง

วันที่ 21 พ.ค. 2568 นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชี รายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) กล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรจะเปิดสมัยประชุมวิสามัญในวันที่ 28-30 พฤษภาคม 2568 นี้ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 จำนวนเงินไม่เกิน 3,780,600 ล้านบาท เชื่อว่า สภาจะมีการพิจารณางบประมาณอย่างรัดกุมรอบคอบ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า โปร่งใส เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ โดยทราบว่านายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคแล้ว ซึ่งมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อจะพิจารณาโหวตผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2569 ให้สามารถขับเคลื่อนบริหารประเทศเกิดความต่อเนื่อง ทั้งนี้ตนขอฝากไปยังพรรครวมฝ่ายค้านทุกพรรค ขอให้ร่วมกันพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2569 โดยยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง ใช้เวลาในการอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ อย่ามุ่งเน้นเล่นเกมการเมืองหรือสร้างวาทกรรมโจมตีรัฐบาล

นอกจากนี้ นายธนกร ยังกล่าวว่า ตนขอสนับสนุนรัฐบาลที่การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 พ.ค.2568 ที่ผ่านมาได้มีมติเห็นชอบแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้กรอบวงเงิน 1.57 แสนล้านบาท มาลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำ และคมนาคม การท่องเที่ยว การลดผลกระทบส่งออก และเพิ่มผลิตภาพ เศรษฐกิจชุมชนและอื่นๆ แทนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 3 ทั้งนี้เป็นการกระจายเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ เพื่อรักษาการจ้างงาน กระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ โดยใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง

“ที่ผ่านมาได้เสนอแนะให้ทางรัฐบาลเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยเฉพาะเรื่องเม็ดเงินการลงทุนด้านการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ฟื้นฟูการท่องเที่ยวและช่วยเหลือผู้ประกอบการภาคส่งออกและ SME มาโดยตลอด ครั้งนี้ก็ขอสนับสนุนรัฐบาล ที่มีการปรับแผนการใช้งบประมาณ 2568 วงเงิน 1.57 แสนล้านบาท ให้เหมาะสมกับสถานการณ์สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน เพื่อให้การใช้งบเกิดประโยชน์สูงสุด ฟื้นฟูและสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มขึ้น ซึ่งมองว่าโครงสร้างพื้นฐานของประเทศทั้ง 4 ด้านเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องเร่งอัดฉีดงบประมาณการลงทุนลงไปในระบบ หากดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อว่าจะเกิดผลสัมฤทธิ์ตามเป้าหมายได้อย่างแน่นอน“ นายธนกร กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น