xs
xsm
sm
md
lg

ก๊วน สว.ยื่น กกต.ให้สั่ง กก.สอบปมฮั้วหยุดทำหน้าที่-ยกเลิกสำนวนดีเอสไอ ชี้ใช้อำนาจมิชอบ "อลงกต" จ่อฟันคนปิดหมาย อ้างผิด ม.157

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ฉัตรวรรษ” นำทีมยื่นขอความเป็นธรรมต่อ กกต. ขอให้สั่ง กก.สอบปมฮั้วยุติการทำงาน พร้อมให้เพิกถอนสำนวนที่มาจากดีเอสไอ เหตุทำหน้าที่โดยมิชอบ แจ้งข้อหาไม่ชัด ปิดหนังสือเรียกแจงไม่รักษาความลับทางราชการ ไม่เป็นกลาง ไม่รู้ปมถูกแฉ ภท.เรียกเซ็นใบลาออกไว้ใช้ต่อรอง บอกทุกคนรู้ดีว่า สส.กำพืดเป็นอย่างไร ด้าน "อลงกต" เผยเตรียมเล่นงานคนปิดหมายเรียกผิด ม.157 พร้อมโชว์ถาม-ตอบสื่อเป็นภาษาอังกฤษ



วันนี้ (21 พ.ค.) พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) นายอลงกต วรกี สว. และ พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย สว.เป็นตัวแทน สว.ที่ได้รับหนังสือแจ้งข้อกล่าวหากรณีฮั้วเลือก สว.เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมถึง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของคณะกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง คณะที่ 26 ว่า เนื่องจากมองว่าคณกรรมการสืบสวนปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ละเมิดระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างร้ายแรง สร้างความเสียหายและละเมิดสิทธิพื้นฐานของผู้ถูกกล่าวหาคุณต้องมาร้องขอความเป็นธรรม

โดยประเด็นข้อร้องเรียน คือ 1. การละเมิดระเบียบกฎหมายเกี่ยวกับการรักษาความลับทางราชการ โดยการออกหนังสือเชิญไม่ใช่หมายเรียกตาม ป.วิอาญาแจ้งข้อกล่าวหารายละเอียดไม่ชัดเจน ไม่เพียงพอที่จะให้การหรือหาพยานหลักฐานมาแก้ข้อกล่าวหาได้ ขัดต่อหลักความเป็นธรรมที่ควรได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งกำหนดให้ผู้ถูกกล่าวหาต้องรับข้อมูลที่เพียงพอสำหรับการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา 2.วิธีปิดหนังสือเชิญไม่รักษาความลับของทางราชการ โดยไม่ปฏิบัติตามระเบียบตามที่กำหนดว่าต้องบรรจุซอง 2 ชั้น และป้องกันการเปิดเผยข้อมูลลับ แต่การปิดหมายที่พักอาศัยของ สว. 6 คนในเขตกรุงเทพฯ ไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบการรักษาความลับทางราชการสร้างความเสียหายแก่ชื่อเสียงและเกียรติยศของผู้ถูกกล่าวหา แม้ว่าจะจงใจหรือไม่ก็ตามในการแจ้งสื่อมวลชนไปทำข่าว แต่ทางการกระทำดังกล่าวถือเป็นเจตนาพิเศษให้เกิดความเสียหายโดยไม่สุจริต

และ 3. การปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่เป็นกลาง เลือกปฏิบัติทำให้เกิดความเข้าใจได้ว่าสมาชิกวุฒิสภาที่ถูกเรียกและรับทราบข้อกล่าวหาเป็นผู้กระทำความผิด เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าวหลายแขนงรับฟังได้ว่ามี สว.กลุ่ม 8 + 1 หรือ กลุ่ม 21 + 24 ที่ไม่ปรากฏว่ามีการสืบสวนไต่สวนแต่อย่างใด แสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นกลางและอาจมีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง มุ่งเฉพาะกลุ่มดังกล่าว

ทั้งนี้ กกต.เป็นองค์กรอิสระปราศจากการครอบงำความทางการเมือง แต่มีข้อน่าสังเกตว่าคณะกรรมการชุดที่ 26 มีเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ 3 คนร่วมเป็นกรรมการ ซึ่งเป็นหน่วยงานในกำกับดูแลของ รมว.ยุติธรรม ที่อาจเข้าใจได้ว่าการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง และศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งให้ รมว.ยุติธรรม หยุดปฎิบัติหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับดีเอสไอ ดังนั้นจึงสามารถที่จะยืนยันได้ว่าการสืบสวนการได้มาของดีเอสไอ ตั้งแต่การตั้งเป็นคดีสืบสวนที่ 151 / 2567 การสืบสวนการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา ตาม พ.ร.บ. กรมสอบสวนคดีพิเศษ 2547 ไม่ได้ให้อำนาจไว้ ซึ่งตนได้ยื่นศาลได้ธรรมนูญและ ป.ป.ช. ตรวจสอบในการปฎิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการคดีพิเศษ

พล.ต.ต. ฉัตรวรรษ กล่าวว่า จึงขอร้องเรียนประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง 1. ให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนชุดที่ 26 เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ 2.ให้มีการเพิกถอนกระบวนการที่เกิดจากการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบทั้งหมด โดยเฉพาะส่วนข้อมูลและสำนวนการสอบสวนที่รับมาจากดีเอสไอ 3.ให้ผู้ถูกกล่าวหาให้มีโอกาสได้ตรวจสอบและเข้าถึงพยานหลักฐานทั้งหมดที่ใช้ตั้งข้อกล่าวหา เพื่อป้องกันสิทธิ์และผลประโยชน์ของตนเอง ทั้งนี้ขอให้ กกต. ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบ รอบด้านเพื่อให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ในหลักการปฎิบัติหน้าที่ด้วยความยุติธรรม เสมอภาค ความเป็นกลาง เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือขององค์กรอิสระของคณะกรรมการการเลือกตั้ง

เมื่อถามว่าจะยอมรับการตรวจสอบของคณะกรรมการสืบสวนฯ ชุดที่ 26 หรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า เรายอมรับการตรวจสอบของกกต.ที่เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม เมื่อถามย้ำว่า ถ้าเป็นกรรมการชุดที่ 26 ที่มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอรวมอยู่ด้วยจะยอมรับหรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า ได้กล่าวแล้วว่าถ้าการสอบสวนเป็นของกกต. การตั้งกรรมการชุดที่ 26 ถ้าปราศจากการครอบงำทางการเมือง ตนเคยพูดแล้วว่าการดำเนินการของดีเอสไอตั้งแต่ชั้นสอบสวน มีการเบี่ยงเบนประเด็นการทำงานมายืมมือกรรมการสืบสวนฯ ซึ่งประธานคณะกรรมการสอบสวนฯ ควรเลือกตั้งคนที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอมาร่วมเป็นกรรมการ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พนักงานอัยการ หรือส่วนที่เกี่ยวข้องที่จะให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาได้ เพราะการกล่าวหาที่ครอบคลุม เคลือบแคลง เป็นที่สงสัย ทำให้สว.มาให้ข้อมูลได้ไม่ชัดเจน


เมื่อถามว่า ถ้ายังมีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอร่วมเป็นกรรมการอยู่ จะให้ความร่วมมือในการชี้แจงข้อกล่าวหาหรือไม่ หรือจะดำเนินการอย่างไรต่อ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า เรายืนยันว่าพร้อมให้ความร่วมมือกับกกต. แต่เรามีเหตุเคลือบแคลงสงสัยการได้มาซึ่งพยานหลักฐาน แล้วมากล่าวหาทำให้เราไม่สามารถชี้แจงข้อกล่าวหาได้อย่างชัดเจน แต่จะเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ดีเอสไอออกหรือไม่ ก็เป็นหน้าที่ของประธานกกต.

"ผมให้เป็นข้อสังเกตให้สังคมได้รับทราบ ผมไม่ได้ต่อสู้หรืออะไร กระบวนการถ้าชอบด้วยกฎหมาย มีอำนาจก็ทำไปตามหน้าที่ แต่ถ้าไม่มีอำนาจตามกฎหมาย หรือกฎหมายไม่ให้อำนาจ การกระทำดังกล่าวก็ต้องรับผิดชอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ผู้สื่อข่าวกำลังซักถามผู้แถลงข่าวนั้น ปรากฏว่า นายบุญส่ง ชเลธร นักวิชาการ ซึ่งมายืนรับฟังการแถลงข่าวได้สอบถามว่า คิดว่าการฮั้ว สว.เกิดจากการชี้นำของสื่อใช่หรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า “ผมถือว่าสื่อเป็นกระจกเงาสะท้อนสังคม แต่ไม่ใช่เลนส์ เมื่อก่อนผมเคยคิดว่า โลกนี้กว้างใหญ่มหาศาล แต่ทุกวันนี้ไม่ใช่แล้ว” นายบุญส่งกล่าวอีกว่า “ท่านมาจาก สว. ย่อมรู้ว่ามีการฮั้วหรือไม่ ท่านควรยอมรับความจริง ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองเดี๋ยวนี้โกหกจนเคยตัว อ้างนู่นอ้างนี่ โกหกกันจนลิ้นดำ” พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า “ท่านก็ต้องไปกล่าวโทษผู้มีอำนาจ และผมไม่ได้ลิ้นดำ”

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้พยายามแจ้งนายบุญส่งว่าขอให้ผู้สื่อข่าวได้ทำหน้าที่ก่อน พร้อมถามต่อว่า ตอนนี้มีการยื่นให้ถอดถอนสว.ทั้ง 138 คน แล้ว พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า ที่บ้านเมืองไม่ปกติเพราะการเมือง ส่วนที่มีการมองว่า สว.มีการฝักไฝ่พรรคการเมือง และวันนี้จะมีการยื่นยุบพรรค พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า “ผมไม่เคยปรากฏ หน้าผากผมเขียนไหมว่าชื่อพรรคไหน ดังนั้น ผมได้เป็น สว.จากการทำงานในราชการมา ด้วยความรู้ความสามารถ”

ด้าน พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย สมาชิกวุฒิสภา กล่าวว่า ตอนนี้สังคมตราหน้าว่าพวกเราฮั้ว ก่อนจะย้อนถามว่าฮั้วคืออะไร พร้อมขอให้อย่าพูดคำนี้เพราะพวกเรามีศักดิ์ มีศรี ส่วนตัวรับราชการมาจนเกษียณได้รับคำกล่าวหานี้ก็รู้สึกเสียใจเหมือนกัน เพราะกว่าที่จะผ่านการคัดเลือกในแต่ละรอบ กฎหมายระบุว่าสามารถแนะนำตัวได้เพื่อให้รู้จักกัน แล้วการรู้จักกันเยอะๆ เพื่อให้มีการเลือกกันเป็นความผิดด้วยหรือ

ขณะเดียวกัน ยังตั้งคำถามถึงการส่งหมายเชิญให้มารับทราบข้อกล่าวหากันอย่างอึกทึกครึกโครม เหมือน สว. มีความผิดแล้ว จนสังคมตั้งคำถามว่า สว. มีความผิดอะไร

ด้าน นายอลงกต วรกี สมาชิกวุฒิสภา ได้พูดเป็นภาษาไทยถึงการส่งหมายเชิญ โดยย้ำว่าไม่ใช่หมาย แต่เป็นหนังสือแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งตามระเบียบงานสารบัญและชั้นความลับทางราชการ หนังสือฉบับนี้ต้องการมีประทับตราคำว่าลับทั้งด้านบนและด้านล่างของเอกสาร และต้องมีใบปิดด้านหน้า หากมีการส่งไปรษณีย์ ต้องมีการปิดซองทึบ แต่ถ้าส่งไปรษณีย์ไม่ได้ถึงจะต้องปิดหมายที่หน้าบ้านพัก และต้องปิดซองทึบด้วย แต่สิ่งที่เจ้าหน้าที่ทำกลับไปติดเป็นซองใสถือว่าผิดกระบวนการการรักษาชั้นความลับและการปฏิบัติงานสารบัญ

นอกจากนี้การติดด้วยซองใสทำให้ผู้อื่นเห็นข้อความทำให้สว.ถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม ซึ่งถือว่ามีความผิดตาม ม.157 ซึ่งตนจะดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องที่สั่งการ และเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบติการที่นำหมายไปติด

ทั้งนี้ หลังนายอลงกตให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้นแล้ว ได้ถามผู้สื่อข่าวว่ามีอะไรจะถามหรือไม่ ผู้สื่อข่าวจึงถามกลับว่าวันนี้พูดภาษาไทยได้แล้ว นายอลงกต ได้เดินกลับมาที่ไมค์พร้อมพูดว่า No Comment , Thank you very much จากนั้นนายอลงกต ได้เดินออกไปจากวงสัมภาษณ์ ก่อนหันกลับมาพูดกับผู้สื่อข่าวเป็นภาษาอังกฤษว่า It's very important and very deep details. It's personal. ซึ่งแปลว่า มันเป็นเรื่องสำคัญมาก มีรายละเอียดเชิงลึก และเป็นเรื่องส่วนบุคคล.

 หลังการยื่นคำร้อง​ พล.ต.ต.ฉัตวรรษ ยังกล่าวถึงกรณีที่ถูกกล่าวหาว่า​ สว.ฝักใฝ่พรรคการเมือง​ ว่า​ ไม่เห็นมีอะไรบอกเลยว่า​ ตนเองฝักใฝ่พรรคการเมือง​ เข้ามาในสภามีอำนาจแค่ไหนก็ทำตามที่กฎหมายกำหนด ส่วนที่ถูกกล่าวหาว่าไม่เป็นกลาง​ "เป็นการคิดเอาเอง" มันอยู่ที่ผู้ปฏิบัติ ถ้าผู้ปฏิบัติมีใจบริสุทธิ์ ความเป็นกลางมันย่อมเกิดขึ้น แต่ถ้าจิตใจไม่บริสุทธิ์ถูกครอบงำจะด้วยอะไรก็แล้วแต่ ก็ทำให้การกระทำไม่บริสุทธิ์

ส่วนที่มีข่าว สว.หลายคนเดินทางไปที่โรงแรมพูลแมน พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ยอมรับว่า​ บางคนมีตังค์ไปกินข้าว ด้านนายอลงกต จึงถามกลับสื่อมวลชนว่า What is Pullman?, Like a pool ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับว่า “โรงแรมพูลแมน” นายอลงกต กล่าวว่า Where is hotel Pullman ? ผู้สื่อข่าวจึงตอบกลับไปว่า “ซอยรางน้ำ” นายอลงกต จึงตอบว่า “Where is Soi Rangnam” ผู้สื่อข่าวจึงถามกลับอีกว่าแสดงว่าไม่เคยไปใช่หรือไม่ นายอลงกตตอบว่า "I know only Rattanakosin Hotel"

ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อถึงกรณี​ กุสุมาลวตี ศิริโกมุทเปิดเผยว่า​ มีการให้ สว.เซ็นใบลาออกเป็นประกันไว้ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า ไม่รู้ พวกท่านรู้ดีว่ากำพืดของคนเคยเป็นสส.เป็นอย่างไร นักข่าวรู้ดี ตนเองเป็น สว.เป็นอาชีพสุจริต ช่วยเหลือประชาชนมาเยอะ ใครจะกล่าวหาอย่างไรก็ว่าไป แต่ถ้ามีเอ่ยชื่อตนเองค่อยว่ากัน


กำลังโหลดความคิดเห็น