"ลวรณ-นันทวัน" หากรักษาแผลที่สีข้างหายแล้ว วานมาตอบลูกหนี้กยศ. ที!! ** เปิดชื่อนักการเมืองดัง-รมต. โดนคดีฮั้ว สว.ล็อตสอง

ข่าวปนคน คนปนข่าว


++ "ลวรณ-นันทวัน" หากรักษาแผลที่สีข้างหายแล้ว วานมาตอบลูกหนี้กยศ. ที!!

จากที่ "ลวรณ แสงสนิท" ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธาน ควงคู่ "นันทวัน วงศ์ขจรกิตติ" ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. แถลงข่าวเรื่อง "ไขข้อข้องใจกับ "กยศ." เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากถูกกระแสลูกหนี้เตรียมลุกฮือ"สู้กลับ" กดดันทั้งเรื่องที่ กยศ.ไม่ทำตามกฎหมายใหม่ มิหนำซ้ำยังลุแก่อำนาจ ร่อนจดหมายถึงนายจ้างให้หักเงิน 3,000 บาทบังคับใช้หนี้!

ปลัดกระทรวงคลังจะรู้ตัวหรือไม่ว่า ใครได้ฟังและจับสาระสำคัญในการแถลงวันนั้น หัวข้อบอกว่า "ไขข้อข้องใจ" แต่ไปๆมาๆ ยิ่งข้องใจหนักกว่าเดิม

ไม่เชื่อ "ลวรณ" ก็ลองไปไถฟีดดู comment ในสื่อโซเชียลของหลากหลายสำนักดู ก็จะเห็นด้วยตาตัวเอง

ความเห็นเป็นในทางเดียวกัน ทั้งประธาน กยศ. และผู้จัดการกองทุน ซึ่งทราบมาว่าเพิ่งไปทำบุญที่วัดไร่ขิง ก่อนหน้าที่"ทิดแย้ม" จะเอวังไม่กี่วัน พูดจาเอาสีข้างเข้าถู ไม่ได้ตอบคำถามที่ลูกหนี้ ข้องใจกันเลย


หาก "ลวรณ" รักษาอาการสีข้างถลอกพอทุเลาแล้ว ก็วานมาตอบคำถามเหล่านี้หน่อย

สรุปว่า มีประชาชนที่ได้ประโยชน์จาก พ.ร.บ.ที่แก้ไขใหม่ ที่หนี้ลดลงจากเดิม 3.8 ล้านคน

กลุ่มลูกหนี้เหล่านี้ คือผู้ที่เดือดร้อนจากการที่ กยศ. ไม่สามารถ "recal" ยอดหนี้ตามกม.ใหม่ ให้เรียบร้อยทันทีที่ พ.ร.บ. ที่แก้ไขใหม่ มีผลบังคับใช้ เมื่อ 20 มี.ค.66

การทำงานที่ "ต้องทำ" ย้ำว่า กยศ. ต้องทำ แต่ทำช้ากว่าที่กฎหมายกำหนด เป็นการสร้างต้นทุนให้กับผู้กู้ใช่หรือไม่ใช่!

สองปีที่ผ่านมา มีผู้กู้ไม่รู้จำนวนเท่าไหร่ คาดว่ามากมายมหาศาลหมดหนี้ตั้งแต่ กม.มีผลบังคับใช้ แต่ กยศ. หักเงินเดือนเกินไปเป็นแสนๆ บาท


กยศ.ต้องชี้แจงให้ชัดเจนว่า จะคืนเงินที่เก็บเกินไปเมื่อไร? และจำเป็นต้องจ่ายดอกเบี้ยชดเชยให้ผู้กู้ด้วยอีกเท่าไหร่!?

แม้ กม.จะมีผลลดดอกเบี้ยปรับเหลือ 0.5% ตรงนี้หมายความว่า ลูกหนี้ยังมีภาระที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่ม ในกรณีที่จ่ายช้าให้ กยศ.

ลูกหนี้เขาขอตรงนี้ ไม่ได้ขอฟรี! หรือภาษาบ้านๆ เขาเรียกว่า "ทีใครทีมัน" แฟร์ๆ หน่อย

เพราะฉะนั้นกรณีที่ กยศ.จ่ายคืนช้า เก็บหนี้จากลูกหนี้เกินไป กยศ.ก็จำเป็นที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยชดเชยให้ผู้กู้ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ไม่ใช่ทำเป็นเลยตามเลย

กยศ. จำเป็นต้องมีความรับผิดชอบด้วยเช่นกัน "ลวรณ-นันทวัน" ขอได้โปรดทราบ

ที่แถลงนั่งกันหน้าแป้น ลูกหนี้เขายังไม่ได้ยินว่าจะรับผิดชอบให้ผู้กู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างไร!?

โปรดฟังอีกครั้ง ทั้งกรณีที่เก็บหนี้เกิน ทั้งๆ ที่ข้อเท็จจริงคือลูกหนี้หมดหนี้ไปแล้วตั้งแต่ กม.ใหม่ มีผลบังคับใช้

หรือ กรณีที่ กม.ใหม่จะทำให้ผู้กู้หมดหนี้แล้ว แต่การที่กยศ.ยังคำนวณหนี้ตามกม.ใหม่ไม่ได้ ไม่แล้วเสร็จ และกยศ. ยังเร่งให้ลูกหนี้มาปิดบัญชีบนยอดหนี้เดิม กรณีเช่นนี้ กยศ. ต้องคืนเงินพร้อมดอกเบี้ย มิใช่หรือ!?

กยศ. ต้องชี้แจงว่า มีลูกหนี้กี่รายที่หลังจาก 20 มี.ค. 66 กยศ. เร่งให้ลูกหนี้มาปิดบัญชีบนยอดหนี้เดิม และเก็บหนี้เกินรายละกี่บาท จะชดเชยดอกเบี้ยกันอย่างไร !? และจะมั่นใจได้อย่างไรว่า ทุกอย่างจะดำเนินการอย่างโปร่งใส

ฟังว่ามีการจ่ายเงินรางวัลในกรณีที่ประชาขนต้องหาเงินมาปิดบัญชีให้แก่สำนักงานกฎหมายที่ กยศ. จ้างมาในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา จำนวนกี่ราย เป็นเงินจำนวนเท่าใด !?

“ลวรณ -นันทวัน” กล้าที่จะเปิดเผยตัวเลขนี้ หรือไม่!?

เพราะได้ข่าวว่า ทุกๆบัญชีที่ปิด มีผลประโยชน์ ค่าทนาย รายละ 7,500 บาท บังคับคดีปิดบัญชีได้อีก 10% ของมูลหนี้!

ประธานและผู้จัดการกองทุน กยศ. ภาคภูมิใจในผลประกอบการของบริษัทกฎหมายที่อู้ฟู้ บนคราบน้ำตาของลูกหนี้ ได้อย่างไร!?

ตามกฎหมายที่กำหนดให้ "เจ้าหนี้" จะต้องรับผิดชอบค่าธรรมเนียมบังคับคดีในกรณีที่เจ้าหนี้นำยึด แต่ กยศ.กลับโยนภาระดังกล่าวให้กับประชาชน ให้ลูกหนี้ต้องจ่ายอย่างไม่เป็นธรรม

ถามคำสุดท้าย กยศ.จะเยียวยาแก้ไขปัญหาตรงนี้อย่างไร!?


++ เปิดชื่อนักการเมืองดัง-รมต. โดนคดีฮั้ว สว.ล็อตสอง

สว.ล็อตแรก 55 คนที่ คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง คณะที่ 26 ของสำนักงาน กกต. ที่เป็นคณะกรรมการร่วมกับ ดีเอสไอ และ ปปง. เรียกมารับทราบข้อกล่าวหา และ ชี้แจง ยังไม่ครบคนเลย ก็มีข่าวว่า มีการออกหมายเรียกเพิ่มเติม เป็น ล็อตที่ 2 แล้ว

คราวนี้ น่าสนใจตรงที่มีรายชื่อบุคคลที่ไม่ได้เป็นสว. โดยเป็นคนนอก ซึ่งมีทั้งอดีต สส. นักการเมืองระดับชาติ นักการเมืองท้องถิ่นชื่อดัง รวมไปถึงรัฐมนตรี

เนื่องจากผลการสอบสวนพบว่า คนเหล่านี้ "มีส่วนร่วมด้วย" ช่วยฮั้ว!

เมื่อรวมกับ 55 รายล็อตแรก ข่าวว่าตอนนี้เกินกว่า 140 คนแล้ว

โอกาสนี้ ขอนำรายชื่อนักการเมือง และรมต. คนดัง สัก 10 รายมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ดังนี้


1. “น.ส.วาริน ชิณวงศ์” หรือ นายกน้ำ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช คนล่าสุด ที่ชนะ “กนกพร เดชเดโช” อดีตนายกอบจ.นครศรีธรรมราช และเป็นมารดาของ “ชัยชนะ เดชเดโช” สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ครั้งล่าสุด

2. “นายสุบิน ศักดา” นักการเมืองท้องถิ่น และผู้รับเหมาใน อ.วิภาวดี จ.นครศรีธรรมราช

3. “นายสมเกียรติ เลียงประสิทธิ์” นายกสมาคมประมง จ.สตูล บิดาของ “วรศิษฏ์ เลียงประสิทธิ์” สส.สตูล พรรคภูมิใจไทย

4. “นายสมเจตน์ ลิมปะพันธ์” อดีต สส.สุโขทัย หลายสมัย ปัจจุบันคือที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย (อนุทิน ชาญวีรกูล)

5. “นายวงศกร ชนะกิจ” อดีตผู้สมัคร ส.ส.ภูเก็ต เขต 2 พรรคภูมิใจไทย และเลขานุการประจำ ที่คณะกรรมาธิการการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย สภาผู้แทนราษฎร


6. “นายศุภชัย โพธิ์สุ” หรือ ครูแก้ว อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 อดีต ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย

7. “นายนภินทร ศรีสรรพางค์” รมช.พาณิชย์ ในรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร จากพรรคภูมิใจไทย

8. “นายเตชสิทธิ์ ชูแก้ว” สว.นครศรีธรรมราช เป็น 1 ในรายชื่อ 55 สว. ที่ “ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก” รองเลขาธิการ กกต. ในฐานะประธาน ลงนามออกหมายเรียก ผู้สมัครสว. กลุ่ม 6 ลำดับที่ 1 อดีตวิศวกรผันตัวเองกลับมาอยู่ในบ้านเกิด สร้างเครือข่ายมังคุดแปลงใหญ่ ของอ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช

9. “นายสมศักดิ์ จันทร์แก้ว” สว.จาก จ.นครศรีธรรมราช ในกลุ่ม 5 เคยทำหน้าที่ กรรมการสมาคมโรงสีข้าวภาคใต้ เป็นผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการข้าวลุ่มน้ำปากพนัง มีเครือข่ายการเมือง เครือข่ายวงการข้าวไทย


10. นายณัฐกิตต์ หนูรอด สว. อดีตปลัดอบจ.พัทลุง เเละ อดีตผู้สมัคร สส.นครศรีธรรมราช เขต 4 พรรคภูมิใจไทย

ว่ากันว่า ในจำนวนนี้ มีบางคนได้รับหมาย หรือ หนังสือแจ้งให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา ที่ส่งมา ถึงกับเหงื่อตก แทบไฟธาตุแตก รีบติดต่อไปยังผู้หลักผู้ใหญ่ในรัฐบาล ขอความเมตตาช่วยเหลือด้วย กลัวว่าจะถูกดำเนินคดี เนื่องจากตัวเองมีอาการป่วย ต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง พร้อมหารือว่า จะมีแนวทางแก้ปัญหาทางคดีอย่างไรต่อไป

คดีฮั้วเลือกสว. กำลังงวดเข้ามาเรื่อยๆ แถมมี “เส้นตาย” ไทม์ไลน์กำหนดไว้อยู่แล้วว่า ในชั้นสืบสวนสอบสวนนี้ ต้องสรุปเรื่องส่งใหญ่ กกต.ใหญ่ ก่อนวันที่ 9 ก.ค.68

เพราะมีระเบียบกำหนดไว้ว่า ทางสำนักงานกกต.ต้องส่งเรื่องให้ กกต.ใหญ่ ภายในระยะเวลา1 ปี นับแต่วันประกาศผลการเลือก สว.

การเลือกสว. ประกาศผลไปเมื่อ วันที่10 ก.ค.67 ดังนั้น ต้องส่งก่อน วันที่ 9 ก.ค.68 เท่ากับว่าตอนนี้ยังมีเวลาอยู่ประมาณ 1 เดือน 20 วัน เรื่องต้องถึงมือ กกต.ใหญ่

การเลือกสว. ครั้งที่ผ่านมานี้ ที่ใครๆ ก็เชื่อว่ามีการฮั้ว จะจบลงอย่างไร ต้องติดตาม!