ข่าวปนคน คนปนข่าว
++ หลัง“ทวี สอดส่อง”ถูกแบน ศึกแดง VS น้ำเงิน ยังไปต่อ "คดีฮั้วสว." อยู่ที่หลักฐานและความจริง!
กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติสั่ง “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” หยุดปฏิบัติหน้าที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เฉพาะในฐานะผู้กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ และรองประธานกรรมการคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ 2547 ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย คอการเมืองทั้งหลายกำลังจับตามองอย่างไม่อาจกระพริบตาได้ เพราะนี่อาจจะเป็นจุดเปลี่ยน “คดีฮั้วสว.” ที่กำลังดำเนินมาอย่างเข้มข้น หรือไม่?
จุดเริ่มก่อนที่ “ทวี สอดส่อง”จะถูกแบนคุม DSI ศาลรัฐธรรมนูญ มีประชุมคำร้องที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้อง ขอให้ศาลฯ วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ผู้ถูกร้องที่1 และ “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” รมว.ยุติธรรม ผู้ถูกร้องที่ 2 สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา160 (4) และ (5) หรือไม่
กรณีสมาชิกวุฒิสภา เข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานวุฒิสภา (ผู้ร้อง) โดยกล่าวอ้างว่า การที่ผู้ถูกร้องทั้งสอง มีมติให้การกระทำความผิดทางอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษ ตามพ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) เป็นการแทรกแซง หรือครอบงำหน้าที่ และอำนาจของ กกต. โดยใช้กรมสอบสวมคดีพิเศษ เป็นเครื่องมือแทรกแซงกระบวนการตรวจสอบการเลือกสมาชิกวุฒิสภา
อันเป็นการกลั่นแกล้ง กดดัน ข่มขู่ และครอบงำ สมาชิกวุฒิสภา ซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ขัดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจและฝ่าฝืนหลักนิติธรรม จึงถือได้ว่า ผู้ถูกร้องทั้งสองไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีพฤติกรรมเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรธน.มาตรา 160 (4) และ (5) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีของผู้ถูกร้องทั้งสอง สิ้นสุดลง เฉพาะตัวตามรธน. หรือไม่
ผลการพิจารณา ศาลรธน. พิจารณาโดยอภิปรายแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณา ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็น และจัดส่งสำเนาเอกสารหลักฐาน ตามประเด็นที่ศาลฯกำหนด ยื่นต่อศาลฯ ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของศาลฯ ต่อไป
สำหรับกรณีปรากฏข้อเท็จจริงตามคำร้องเพิ่มเติมของผู้ร้อง ฉบับลงวันที่ 14 พ.ค.68 พร้อมเอกสารประกอบ ขอให้ศาลฯ มีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องทั้งสองหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลฯ จะมีคำวินิจฉัยถึงที่สุด
ศาลฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นว่า “ภูมิธรรม” ผู้ถูกร้องที่ 1 ดำรงตำแหน่งรองนายกฯ และรมว.กลาโหม ยังไม่ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้อง ที่จะสั่งให้ผู้ถูกร้องที่ 1 หยุดปฏิบัติหน้าที่
ส่วนผู้ถูกร้องที่ 2 “พ.ต.อ.ทวี” ดำรงตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม มีหน้าที่และอำนาจในการสั่งและปฏิบัติราชการในฐานะผู้บังคับบัญชาข้าราชการกระทรวงยุติธรรม อันรวมไปถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตามคำร้องเพิ่มเติมและเอกสารประกอบ ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่า ผู้ถูกร้องที่ 2 มีกรณีตามที่ถูกร้อง
จึงสั่งให้ผู้ถูกร้องที่ 2 หยุดปฏิบัติหน้าที่ รมว.ยุติธรรม เฉพาะในฐานะผู้กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ และรองประธานกรรมการคดีพิเศษ ตามพ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ 2547 ตามรธน. มาตรา 82 วรรคสอง ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.68 จนกว่าศาลฯ จะมีคำวินิจฉัย
คดีฮั้วสว. ถูกมองว่าเป็นศึกการเมืองระหว่าง “สีแดง”กับ “สีน้ำเงิน” เพราะ บังเอิญ “พ.ต.อ.ทวี” มีสัมพันธ์อันดีกับ “ทักษิณ ชินวัตร” จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกมองว่าเป็นฝ่ายมุมแดง ไล่บดขยี้มุมน้ำเงิน ที่ใครๆ ก็รู้ว่าเชื่อมโยงอยู่กับ สว.กลุ่มใหญ่ ที่พาเหรดได้รับเลือกตั้งเข้ามาวุฒิสภา
คอการเมืองมองว่าหลัง "พ.ต.อ.ทวี" ไม่ได้คุมดีเอสไอ เป็นความเพลี่ยงพล้ำของ แดงต่อน้ำเงิน แต่ถ้าจะว่าไปแล้ว เรื่องนี้ก็ต้องแยกแยะตามข้อเท็จจริง และข้อกล่าวหามิใช่หรือ!?
ข้างฝ่าย “พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง” ในฐานะ รมว.ยุติธรรม คุม ดีเอสไอ ย่อมถือเป็นไฟต์บังคับ ที่ต้องดำเนินคดีกับสว.ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีพฤติการณ์ฉาวโฉ่ “ฮั้ว” แบบเย้ยฟ้าท้าดิน ทิ้งร่องรอยกันไว้อย่างโจ๋งครึ่ม!
เชื่อว่าเมื่อ “ทวี” ถูกสั่งแบน จากนี้ดีเอสไอ ก็ทำหน้าที่ในส่วนของตัวเองต่อไป และคาดว่า "ภูมิธรรม" ที่เป็นยาสามัญประจำบ้านจันทร์ส่องหล้า จะมาดูแทน
คำถามระหว่างไม่มี "ทวี" กับมี แตกต่างกันหรือไม่!? ซึ่งเจ้าตัวก็พูดว่า เคารพต่อคำสั่งศาลฯ มองว่าเป็นผลบวก ทำให้ทุกฝ่ายสบายใจ
ส่วน สว.กลุ่มที่เต้นผางๆ เพราะเดือดเนื้อร้อนใจ จากความเคลื่อนไหวของ “พ.ต.อ.ทวี-ดีเอสไอ” ที่ผ่านมาประกาศสงครามผ่านสื่อนั้น หลังพ.ต.อ.ทวี ถูกศาลรธน.ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ คุมดีเอสไอ “พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร” สว.ในฐานะผู้ยื่นคำร้องต่อศาลฯ ให้สัมภาษณ์อย่างสะใจว่า “เขาคงเห็นว่า การออกมาแหกปากให้สังคมเกลียดชังสว. มันไม่ชอบ ถ้ามีของจริง ไม่ต้องไปแหกปากหรอก เดี๋ยวเจอคิดบัญชีแน่”
สรุปว่า ยกนี้ สว.ที่ปวดหัวตัวร้อนกับคดีฮั้วสว. ใช้ช่องทางตามรธน. ร้องต่อศาลฯ ดังกล่าว มีผลเป็นคำสั่งหยุด พ.ต.ท.ทวี ไม่ให้คุมดีเอสไอได้ แต่ในแง่ศึก “แดงVSน้ำเงิน” ยังไปต่อ เช่นเดียวกันกับ “คดีฮั้วสว.” ที่ขึ้นอยู่กับหลักฐาน และข้อเท็จจริงมากกว่าตัวบุคคลที่ทำคดี
นี่เป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูกันให้สุดซอยว่า สุดท้ายจะเป็นอย่างไร
++ ฝนมา งูเห่าร่าเริง รับการอภิปรายงบ69 ระวัง “หนู-ตุ๋ย” ผนึกกำลังคว่ำ!!
การเปิดสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2569 กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 28-30 พ.ค.นี้
เรื่องรายละเอียดของงบประมาณ ว่ากระทรวงไหน หน่วยงานใด จะได้งบไปเท่าไรนั้นคนสนใจน้อย ส่วนใหญ่จะรอดูว่า การโหวตงบ จะผ่านฉลุย ราบรื่นหรือไม่ จะมีพรรคร่วมออกฤทธิ์ โหวตสวนหรือไม่
เพราะมี “ข่าววิเคราะห์” และ “ข่าวปล่อย” ออกมาว่าพรรคภูมิใจไทย จะโหวตสวน คว่ำร่าง พ.ร.บ.งบปี 69 บีบให้ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ลาออก หรือยุบสภา กลับไปเลือกตั้งกันใหม่
เป็นข่าวที่ออกมาตอกย้ำว่า ความระหองระแหงภายในพรรคร่วมรัฐบาล ระหว่างพรรคเพื่อไทย กับภูมิใจไทย ยังคุกรุ่น พร้อมจะปะทุขึ้นมาได้ตลอดเวลา
สอดรับกับ “ข่าวจริง” ที่ตอนนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ “ดีเอสไอ” ซึ่งเป็นมือไม้ของฝั่งเพื่อไทย กำลังรุกไล่ “สว.สีน้ำเงิน” ที่เป็นคนในเครือข่ายของพรรคภูมิใจไทย ในคดีฮั้วเลือกสว. ฟอกเงิน อั้งยี่ซ่องโจร อย่างเข้มข้น เอาจริงเอาจัง ซึ่งถูกตีความว่า เป็นเกมตอบโต้ เพื่อทำลายขุมกำลังของพรรคภูมิใจไทย ที่ประกาศกร้าว“ไม่เอากาสิโน”
ขณะที่แกนนำพรรคเพื่อไทย ก็ออกมาว่ายืนยันว่า พรรคร่วมรัฐบาลยังมีเอกภาพ เรื่องของสว. กับเรื่องงบประมาณ เป็นคนละส่วน ไม่เกี่ยวกัน... ไม่เชื่อว่าจะมีขบวนการทำให้ ร่าง พ.ร.บ.งบ 69 มีปัญหา เพราะจะมีผลต่อการพัฒนาประเทศ
แม้แต่ “นายกฯอิงค์” ยังออกมาให้สัมภาษณ์สื่อ แบบฟังคำถามไป หัวเราะไป ว่าสื่อโยงเก่ง จับเรื่องนั้นมาโยงเรื่องนี้ จับแพะชนแกะ ทั้งที่ไม่เกี่ยวกันเลย และมั่นใจว่า งบ69 ผ่านแน่
ท่าทีเช่นนี้ เหมือนเป็นการเยาะเย้ยว่า ต่อให้พรรคภูมิใจไทย “โหวตสวน” เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลในส่วนที่เหลือ รวมแล้วก็ยังเกินกึ่งหนึ่งของสส.ที่มีอยู่ในสภาตอนนี้ แม้จะ“ปริ่มน้ำ” เกินมาไม่มากก็ตาม มีการเช็กตัวเลขเรียบร้อยแล้ว
สส.นครศรีธรรมราช ของพรรคภูมิใจไทย ที่โดนใบแดง ต้องเลือกตั้งซ่อม ก็รักษาเก้าอี้ไว้ไม่ได้ ต้องตกเป็นของผู้สมัครจากพรรคกล้าธรรม ขณะที่ “เอกราช ช่างเหลา” สส.ขอนแก่น พรรคภูมิใจไทย ก็ย้ายไปเข้าพรรคกล้าธรรมแล้วเช่นกัน ... ต่อให้ 4 เสียง กลุ่มผู้อาวุโส ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่เอารัฐบาลนี้จะรวมโหวตสวน เสียงก็ไม่พอต่อการคว่ำ ร่าง พ.ร.บ.งบ69 อยู่ดี
อีกทั้งตอนนี้ทางฝั่งรัฐบาลก็มีแผนสำรองไว้แล้ว คือการรับเลี้ยง “งูเห่า” แม้ตัวยังมาไม่ได้ เอาแค่เสียงมาร่วมโหวตงบฯ ก่อนก็พอ
เมื่อถูกเย้ยหยัน “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ตอนนี้อยู่ระหว่างพักฟื้นหลังการผ่าตัดตา ที่ โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ก็เล่นเกมจิตวิทยา โต้กลับทันที
โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เป็นภาพ “เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ หอบแจกันดอกไม้เข้าเยี่ยม และภาพนั่งคุยกันอย่างออกรส พร้อมข้อความว่า ...
กราบขอบพระคุณท่านพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ที่กรุณามาเยี่ยมไข้ในวันนี้ แถมยังมีเวลานั่งคุยเสวนา หารือถึงเรื่องราวต่างๆ หลายชั่วโมง จนคุณพยาบาลมาจับแยก...
สองหัวหน้าพรรคการเมือง คุยกันหลายชั่วโมง คงไม่ได้คุยเรื่องอาการหลังผ่าตัดตาอย่างเดียว เพราะต่างมีเรื่องหนักอก รกใจด้วยกันทั้งคู่ แถมเป็นเรื่องคอขาดบาดตายในทางการเมืองเสียด้วย
“เสี่ยหนู” อนุทิน นอกจากโดนรุกไล่เรื่อง สว.สีน้ำเงินแล้ว ยังมีเรื่องสนามกอล์ฟ ที่เขาใหญ่ เรื่องจะถูกยึดกระทรวงมหาดไทยคืน ซึ่งมีข่าวออกมาเป็นระยะ ว่า “ทักษิณ”เอาแน่ เพียงแต่เมื่อไรเท่านั้น
ส่วน“เสี่ยตุ๋ย” พีระพันธุ์ ก็กำลังโดนแซะออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี ถูกไล่บี้ทั้งเรื่องแจกถุงยังชีพผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ และเรื่องคุณสมบัติการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ส่อขัดรัฐธรรมนูญ เพราะยังมีชื่อเป็นกรรมการในบริษัทเอกชน
สองคนที่มี “ศัตรูร่วม” คุยกันหลายชั่วโมง จะไม่มีเรื่องแผนตอบโต้กลับบ้างหรือ?!
ภาพ ข้อความ และช่วงเวลา ที่ “อนุทิน” สื่อออกมานั้น เหมือนจะบอกว่า ถ้า 60 กว่าเสียงของภูมิใจไทย ยังคว่ำงบ69 ไม่ได้ ถ้ารวมเสียงของรวมไทยสร้างชาติเข้าไปอีก 36 เสียงล่ะ จะเป็นยังไง...ลองดูไหมล่ะ
ปรากฏว่า วันรุ่งขึ้น “นายกฯอิ๊งค์” จากที่ไม่เคยดูดำดูดี ว่ารองนายกรัฐมนตรี ของรัฐบาลตนเองไปผ่าตัดตา ก็รีบให้คนส่ง “อาหาร” ไปเยี่ยมไข้
แล้ว “อนุทิน” ก็โพสต์ภาพ ยืนถือถุงกระดาษ พร้อมข้อความว่า... ท่านนายกฯแพทองธาร กรุณาส่งชุดอาหารกลางวันมาเยี่ยมอาการป่วย ขอกราบขอบพระคุณเจ้านายแสนใจดีคร้าบ
เป็นอันว่าละครตบจูบก็ผ่านไปอีกฉาก แต่อย่ามั่นใจนะว่างบ69 จะไม่ถูกคว่ำ เพราะมันเป็นคนละเรื่อง อย่าเอามาโยงกัน