เปิดคลิปเสียง “กฤษฎิ์” คุย "เท้ง" ระบายความอึดอัดใจ ถูกแบ่งพวก โดนดิสเครดิตตลอด แถมยังชวนคนอื่นลง สส.แทนตัวเอง จึงหมดใจกับ ปชน.ขอจบด้วยการให้พรรคขับออก แต่ "เท้ง" เสนอให้อยู่กับพรรคจนครบเทอม เพราะถ้าขับออก พรรคถูกโจมตีเป็นพวกล้มเจ้าแน่ ไม่งั้นก็ให้ลาออก แล้วลงเลือกตั้งใหม่ ให้ ปชช.ตัดสิน
เมื่อวันที่ (13 พ.ค.2568) ผู้สื่อรายงานว่าจากกรณีที่ น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี เขต 6 พรรคประชาชน แถลงประกาศแยกทางกับพรรคประชาชนโดยให้เหตุผลถึงทัศนคติที่เข้ากับพรรคไม่ได้ รวมถึงการที่ได้อภิปรายขอบคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงมีพระบรมราโชบายสร้างอ่างเก็บน้ำบนเกาะสีชัง
ล่าสุดมีการเผยแพร่บทสนทนาจากคลิปเสียงที่เป็นการพูดคุยกันระหว่าง น.ส.กฤษฎิ์ กับ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน โดยเป็นการระบายความรู้สึกของ น.ส.กฤษฎิ์ ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมเปิดเผยว่าพรรคมีการชวนคนอื่นลงสมัคร สส.แทนตัวเอง
ในคลิปเสียงดังกล่าว น.ส.กฤษฎิ์ ระบุถึงประเด็นการเอาคนมาลงสมัครแทนว่า เราก็ฟังหูไว้หู พอจะออกก็มีเรื่องเข้ามาตลอด แต่เรื่องก็นานมาแล้วแต่เหมือนเป็นการดิสเครดิตมาเรื่อยๆ เราก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง ทำไมเราตั้งใจทำงานแต่โดนตลอด จนถึงวินาทีสุดท้าย แต่ต้องเผาสติกเกอร์ทิ้ง 5 หมื่นแผ่น ที่ตั้งใจหาเสียงเลือกตั้งเต็มที่ สุดท้ายก็ไม่เลือกกู ตั้งใจทำเพื่อพรรคทุกอย่างทุ่มทุนทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็เป็นแบบนี้
น.ส.กฤษฎิ์ ยังเปิดเผยถึงเหตุผลที่อยากไปร่วมงาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา เขต 1 ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรมว่า พี่ไปขอร้องให้เขา ช่วย 2 ครั้ง สมัยที่เขาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ครั้งแรกให้ช่วยทำอ่างเก็บน้ำ ครั้งที่ 2 ให้เขามาดูปัญหาให้ชาวประมงให้พี่ พี่บอกปุ๊บเขาทำให้ปั๊บ พี่ทำงานต้องขอความช่วยเหลือกับรัฐมนตรีหลายคนในการทำงานในพื้นที่ พี่ก็ดูว่า คนไหนช่วยเรา
ซึ่งนายณัฐพงษ์ สอบถามว่า จุดแตกหักคืออะไร หรือมันสะสมมาเรื่อยๆ โดย น.ส.กฤษฎิ์ ตอบว่า มันสะสมมาตั้งแต่แรกก่อนหน้ายุบพรรคอีก เรื่องของจังหวัดเป็นตั้งแต่ยุคแรกๆ ซึ่งพี่พูดมาตลอดแต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข ไม่ได้รับยุติธรรม พี่ก็หมั่นไส้ บางคนเป็นหนอนเป็นงูเห่า รับเงินจากต่างพรรคมาแล้วเอาเรื่องของพรรคไปขาย แต่ยังหน้าลอยตาทำงานอย่างมีความสุข แต่พี่ทำงานให้พรรคทุกอย่าง แต่โดนบูลลี่ทุกอย่างชัดเจนว่าความยุติธรรมไม่มี
”ตอนนี้พี่จะทำให้จบสมัย แต่สมัยหน้าก็เป็นเรื่องของพรรคอื่นแล้วว่าเขาจะรับพี่ไหม แต่บอกเลยว่าคนอย่างพี่ไม่ได้ซื้อได้ด้วยเงินใจล้วนๆ แต่พี่หมดใจให้กับพรรคเราแล้ว อย่างสุรเชษฐ์ล่อพี่มาตลอดทำเหมือนเด็ก ไปนินทาลับหลังว่า วางตัวไม่ดีดูซิมันคบกับกรรมาธิการคนอื่น เด็กก็ไม่กล้าคุยกับเรา เรารู้ได้เพราะโตแล้ว จนสุดท้ายก็ได้ยินจากปากของคนใน กมธ.คมนาคมว่า เป็นแบบนั้นจริง เขาว่าบอกพี่วางตัวไม่ดี ถามหน่อยกูวางตัวไม่ดียังไง เรานำเสนอนักวิชาการระดับประเทศนั่ง กมธ.แลนด์บริดจ์ สุรเชษฐ์บอกว่าใครก็ไม่รู้ ใช่พวกเราหรือเปล่าก็ไม่รู้ อ่าวแล้วกูไม่ใช่พวกมึงหรอกูเป็นคนเสนอ เพราะรู้ว่าให้นักวิชาการนั่งจะได้ประโยชน์กว่า สุดท้ายสุรเชษฐ์ก็ไม่เอา เอาใครมานั่งก็ไม่รู้ จนสุดท้ายมึงก็ยืนยันว่า กูไม่ใช่พวกด้วยการกระทำของมึง“
นายณัฐพงษ์ จึงกล่าวว่า ตอนนี้เข้าใจปัญหาที่พี่เจอแล้ว แต่พยายามเข้าใจโจทย์ เพื่อหาทางออกทั้ง 2 ฝ่าย ถ้าพี่อยากเป็นสส.ให้จบสมัยมี 2 ทางคือ อยู่กับพรรคโดยที่สร้างบรรยากาศที่ไม่อึดอัด หรือถ้าอยากย้ายพรรคก็คือพรรคต้องขับออก หรือไม่ย้าย แต่ย้ายที่นั่งไปอยู่กับเขาทำงานด้วยกันต่อ
ซึ่ง น.ส.กฤษฎิ์ ตอบโต้ว่า ถ้าทำแบบนั้นพี่ก็เป็นงูเห่าดิ พี่จะทำอย่างนั้นทำไม ในหนังสือชัดเจนว่าต้องการให้ขับออก ซึ่งเป็นทางออกที่ดีที่สุด และไม่ทำให้พรรคเสียหาย แต่ถ้าไม่ขับออกต้องมีเรื่องราวตามมา ซึ่งพี่ไม่อยากทำอย่างนั้นอยู่แล้ว
นายณัฐพงษ์ จึงกล่าวว่า ถ้าขับออกก็มีเรื่องที่ต้องคุยกันต่อ เช่นการแถลง ผมออกแบบว่าอาจมีตัวแทนพรรคเป็นคนไปแถลงด้วยแล้วบอกว่า ทำงานร่วมกันด้วยไม่ได้ แต่ตามวินัยพรรคการที่จะขับออกต้องทำผิดวินัย เพราะฉะนั้นเรื่องที่ทำผิดวินัยคือเรื่องอะไร ผมยืนยันว่าสิ่งที่พี่หารือในสภาที่เป็นประเด็นก็ไม่เคยเอาเข้าวินัยพรรค ถ้าพี่ไม่มีประเด็นเรื่องการหารือในสภาจะง่ายต่อพรรคเยอะ ตอนนี้สื่อจับจ้อง สังคมออนไลน์จับจ้อง หรือกระทั้งฝ่ายตรงข้าม อยากจะเล่นว่าอ๋อไอ้พรรคนี้ไง สส.หารือในสภาเรื่องอยากเข้าเฝ้าเลยถูกขับออก ไม่ตรงกับอุดมการณ์พรรค ไอห่าพรรคล้มเจ้า นี้คือสิ่งที่พรรคจะโดน พี่เข้าใจไหม เพราะฉะนั้นเรื่องขับออกก็ต้องมานั่งคุยกันให้ตกผลึกว่าเป็นข้อหาอะไร ผมก็ยังคิดไม่ออกเรื่องนี้มันยาก ทางออกที่ดีที่สุดคือเราทำงานร่วมกันถ้ามีอะไรที่พี่ไม่สบายใจ เดี๋ยวผมทำตัวเป็นนักเลงช่วยเคลียร์ให้
น.ส.กฤษฎิ์ กล่าวยืนยันว่า พี่ไม่ได้ต้องการแบบนั้น พี่ต้องการออกไปเป็นตัวของตัวเอง พี่ไม่ได้เป็นเด็กที่ต้องคอยให้ใครอุ้มหรือโอบ ซึ่งนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า มีอีกทางหนึ่งไม่รู้จะตอบโจทย์พี่ไหม แต่จะทำให้สังคมเชื่อพี่พูดแล้วโคตรหล่อเลย สำหรับการทำแบบนี้ พรรคอาจจะเสียหายนิดหน่อย คือพี่แถลงไปเลยว่าไม่ถูกจริตกับการทำงานของพรรค แล้วพี่ก็ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ซึ่ง น.ส.กฤษฎิ์ ได้กล่าวว่า พี่ก็หมดสภาพ สส.ซิ
นายณัฐพงษ์ จึงกล่าวว่า ผมถึงบอกไงว่าตอบโจทย์นั้น หนึ่งของพี่รักษาชื่อเสียง หากพี่ไม่ได้คิดถึงสมัยหน้า เพราะเหลือเวลาอีกแค่ครึ่งเทอม
”พี่เลือกแถลงยุติบทบาทกับพรรค สำหรับผมไม่มีทางที่จะจบสวย เพราะสื่อจ้องอยู่แล้ว ต้องแถลงร่วมกันแล้วให้พรรคเป็นผู้นำในการแถลงซึ่งต้องมาคุยกันในเนื้อหาว่าขับออกเพราะอะไร พี่พิจารณาทางออกผมใหม่ดีไหม พี่ลาออกเลือกตั้งใหม่พี่ลงในนามธรรมนัส พรรคก็ส่งคนใหม่ในนามของพรรค ให้ประชาชนตัดสินไม่มีใครด่าพี่ด้วย“
น.ส.กฤษฎิ์ กล่าวยืนยันว่า ยังไงก็ต้องแถลงให้ประชาชนพี่เข้าใจ พี่จะขึ้นข้อความในเพจพรรคก็กลัวจะเสียชื่อเสียงพี่ก็ไม่ทำเลยรอแถลงหลังเลือกตั้งทีเดียว แต่ตอนนี้มาบอกไม่ให้แถลง ไม่มีความยุติธรรมสำหรับพี่เลยใช่ไหม ซึ่งนายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ผมไม่ได้รู้ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นในพรรค ถ้ารู้คงมาคุยกับพี่ก่อนที่มันจะระเบิด