นายกฯ ชื่นชมผู้ประกอบการผลไม้ รับซื้อผลผลิต ช่วยชาวสวน จับตาคลังชงคราฟต์เบียร์เข้า ครม.- โครงการ ODOS พาเยาวชนศึกษาต่อต่างประเทศ
เมื่อเวลา 09.30 น.วันนี้ (13 พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมรถโมบายผลไม้ และพบปะผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ ของกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ บริเวณโถงกลาง ตึกบัญชาการ 1 โดยมีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่นั่งรถวีลแชร์ร่วมในกิจกรรมดังกล่าว พร้อมนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช. เกษตรฯ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์ และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ต้อนรับ โดยนายกฯ ได้ทักทายและสอบถามถึงอาการบาดเจ็บที่เท้าของนางนฤมล ก่อนรับฟังสรุปการบริหารจัดการผลไม้ภาคตะวันออกและภาคใต้ ทั้ง มังคุด มะม่วง เงาะ และทุเรียน พร้อมแนะนำให้หาตลาดใหม่เพิ่ม และทำการแปรรูปสินค้า เพื่อเพิ่มมูลค่า ตามที่ได้เคยเห็นในตลาดต่างประเทศ
จากนั้น นายกฯ ชมบูธของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ นำเสนอ Thai Fruit Festival 2025 พร้อมกับย้ำเรื่องการแปรรูปเพิ่มมูลค่าสินค้าและขอบคุณผู้ประกอบการที่รับซื้อผลไม้
สำหรับการแก้ปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน 9 กลุ่ม 27 ราย รับซื้อผลไม้รวม 103,760 ตัน อาทิ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรม, สมาคมผู้ค้า-ส่งออกผลไม้ไทย และเอกชน อาทิ สหพัฒนพิบูล จำกัด บ.ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด รับซื้อผลไม้รวมปริมาณกว่า 55,500 ตัน ด้านห้างค้าปลีกค้าส่งรายใหญ่ รับซื้อผลไม้กว่า 34,450 ตัน ปั๊มน้ำมัน ตู้เต่าบิน ไปรษณีย์ไทย หน่วยงานรัฐและมูลนิธิต่าง รวม 13,810 ตัน
จากนั้นเวลา 10.00 น.นายกฯ เป็นประธานประชุม ครม.โดยมีวาระเพื่อพิจารณา 17 เรื่อง เพื่อทราบหากไม่มีข้อทักท้วง 9 เรื่องเพื่อทราบ 5 เรื่อง เพื่อทราบข้อมูล 1 เรื่อง โดยสำหรับวาระการประชุมที่น่าสนใจ กระทรวงการคลัง เสนอ ร่างกฎกระทรวงการผลิตสุรา (ฉบับที่..)พ.ศ. ... เพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันทางการค้าของผู้ประกอบอุตสาหกรรมสุราขนาดเล็ก และผู้ประกอบอุตสาหกรรมสุราชนาดกลาง ตามนโยบายการสร้างโอกาสต่อยอดจากอุตสาหกรรม เพื่อส่งเสริม Soft Powerของประเทศ และนโยบายการยกระดับการบริการภาครัฐ และขออนุมัติวิธีการกู้เงินตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ
ด้าน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขอความเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณ สําหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอล FIVB Women's World Championships 2025 และจับตาโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568” วงเงินงบประมาณ 3,500 ล้านบาท ส่งเสริมเที่ยวไทยวันธรรมดา ช่วงโลว์ซีซัน เริ่มเดือนมิถุนายน 2568 ให้ใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน “ทักทาย”
ขณะที่คณะกรรมการอํานวยการโครงการทุนการศึกษาเพื่อขยายโอกาสและพัฒนาประเทศ (ODOS) เสนอแนวทางการดําเนินการโครงการ ODOS สนับสนุนเด็กไทย ศึกษาต่อด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในต่างประเทศ เป้าหมายจำนวน 7,200 ทุน วงเงินราว 4,500 ล้านบาท ระยะเวลาดําเนินโครงการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2568-2576 สำนักนายกรัฐมนตรี เสนอร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตังสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน)
