xs
xsm
sm
md
lg

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา "อุตตม-สนธิรัตน์" บอกลา "ลุงป้อม-พปชร.” ** “สจ.กร่าง” ลูก สส.สงขลา สั่งลูกน้องรุมตื้บ ตร.คาหน่วยเลือกตั้ง แค่ถูกเตือนว่าห้ามถ่ายรูป “ประชาธิปัตย์”รีบออกมาโบ้ย เรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวพรรค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อุตตม สาวนายน- สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ - สิรดนัย พลายด้วง
ข่าวปนคน คนปนข่าว


++ งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา "อุตตม-สนธิรัตน์" บอกลา "ลุงป้อม-พปชร.”

อย่างเงียบๆ แว่วข่าวมาจาก กกต. ว่าสองใน "สี่กุมาร" ในตำนานวงการเมือง "อุตตม สาวนายน" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และอุตสาหกรรม "สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และพลังงาน ได้เคลื่อนไหวติดต่อมาขอพบ เพื่อยื่นเรื่อง "การพ้นสมาชิกจากพรรคการเมือง" ให้มีผลสมบูรณ์ ตามขั้นตอน ระเบียบปฏิบัติตามกฎหมาย

ได้ยินได้ฟังดังนั้น ตามประสาคนอยากรู้ จึงสืบหาความต่อก็พอมีเบาะแสชี้เป้ามา คาดคะเนว่า ทั้ง “อุตตม และ สนธิรัตน์” น่าจะขอลา "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ด้วยประสงค์ยุติบทบาทในพรรค พร้อมกับ "ลาออก" จากสมาชิก พปชร. !

อุตตม สาวนายน
“อุตตม”อดีตหัวหน้าพรรค พปชร. และ สนธิรัตน์ อดีตเลขาธิการพรรคที่ร่วมกันก่อร่างสร้างพรรคพปชร.มา ก่อนทั้งคู่จะแยกตัวไปสร้างพรรคสร้างอนาคตไทย ทำงานการเมืองในแนวทางของตนเองในปี 64 ต่อมาคัมแบ็กหวนกลับมาช่วยงาน "ลุงป้อม" ที่ พปชร. ในช่วงต้นปี 66 เรื่อยมาจนถึงปีนี้

ถึงตรงนี้จะแยกทางกันเดินอีกครา

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราฉันใด วัน เวลา ที่พปชร.คำรบสอง 2 ปีเศษ ของ “อุตตม และ สนธิรัตน์” ก็เป็นอันสิ้นสุดลงฉันนั้น
ฟังว่า เป็นการจากกันด้วยดี ส่วน "สถานีต่อไป" ของคนทั้งคู่ จะเป็นที่ใด ยังถูกปิดไว้เป็นความลับ

มองในมุมของพรรค และลุงป้อม ก็ต้องถือว่า น่าเสียดายที่พปชร.จะต้องขาดมือดีด้านเศรษฐกิจ ซึ่งหาตัวได้ยากยิ่งในยุคปัจจุบัน

เพราะที่ผ่านมา “อุตตมและสนธิรัตน์” คือ ขุนพลทีมเศรษฐกิจคนสำคัญของ "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" มีผลงาน และนโยบายเศรษฐกิจของ “รัฐบาลลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นที่ประจักษ์

ที่สำคัญพรรคของ "ลุงป้อม" ก็เพิ่งจะปรับเปลี่ยนโครงสร้างและภาพลักษณ์ใหม่ในการเคลื่อนไหวทำงานการเมือง

สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์
ว่ากันว่า หากไปถามสมาชิกพรรคพปชร.หลายๆคน คงเสียดายแต่ก็เคารพการตัดสินใจของ “อุตตมและสนธิรัตน์”

ขณะที่หากไปถาม "ลุงป้อม" พล.อ.ประวิตร คงไม่มีใครล่วงรู้ว่าลุงคิดยังไง !?

สำหรับกับ “ลุงป้อม” ไม่ว่าใครจะไปจะมา เข้า-ออก พรรค ลุงไม่เคยหวั่นไหว เพราะคนสำคัญของพรรคในความคิดลุงก็คือตัวลุงเอง

ในวันแถลงข่าว ประกาศรีโนเวตพรรคใหม่ เจ้าตัวยังยืนยันกับลูกพรรค และสาธารณชนว่า จะใช้ใจบันดาลแรง เพื่อขับเคลื่อนพรรคต่อไป จะไม่มีวันวางมือ หรือไม่คิด "ล้างมือในอ่างทองคำ" เด็ดขาด

แววว่า หากสมาชิกพรรคคนไหนหวังดี พูดถึงการวางมือ และขอร้องให้ พล.อ.ประวิตร หลบไปอยู่หลังฉากเหมือนกับสถานะที่ "เนวิน ชิดชอบ" ทำกับภูมิใจไทย หรือ "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ทำกับพรรคประชาชนแล้วละก็ “ลุงป้อม” จะโกรธคนนั้นเป็นฟืนเป็นไฟ ถ้าอยู่ใกล้ก็โดนหยุมหัวแน่นอน !

เรื่องอื่นๆ “ลุงป้อม” อาจจะไม่รู้ๆๆ แต่เรื่องจะให้เดินลงจาก "หัวหน้าพรรค" และให้เลิกเล่นการเมืองแบบออกหน้า ลุงป้อม รู้ว่าโนเวย์!

ส่วนตัวลุงน่าจะยึดถือตัวเองเป็นชายชาติทหาร ฆ่าได้แต่หยามไม่ได้!

ดังนั้น ตราบใดที่มี พปชร. ก็จะต้องมีลุงฟอร์เอฟเวอร์ นะจ๊ะ

สิรดนัย พลายด้วง
++ “สจ.กร่าง” ลูก สส.สงขลา สั่งลูกน้องรุมตื้บ ตร.คาหน่วยเลือกตั้ง แค่ถูกเตือนว่าห้ามถ่ายรูป “ประชาธิปัตย์”รีบออกมาโบ้ย เรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวพรรค

ที่ผ่านในการเลือกตั้งแต่ละครั้ง มักจะมีรายงานข่าวเกี่ยวกับผู้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เล็กๆ น้อยๆ ด้วยเจตนา หรือความรู้เท่ามีถึงการณ์ก็ตาม อย่างเช่น การฉีกบัตรเลือกตั้ง

แต่การเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา มีการ “รุมกระทืบตำรวจ” ที่มาดูแลความเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้ง

เหตุเกิดที่ หน่วยเลือกตั้งที่ 7หมู่ 2 ต.พะวง อ.เมืองฯ จ.สงขลา ซึ่ง “ด.ต.นิสาธิต คงเทพ” สังกัด ตชด.43 มาปฏิบัติหน้าที่เจ้าพนักงานรักษาความสงบเรียบร้อยหน่วยเลือกตั้ง

ระหว่างนั้น ก็มี “สจ.กอล์ฟ” สจ.คนดังของสงขลา มาใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วย ในช่วงที่จะหย่อนบัตรลงหีบ ก็ได้เรียกลูกน้องให้เข้าไปถ่ายรูปตนเองในหน่วยเลือกตั้ง ซึ่งตามระเบียบแล้วไม่สามารถทำได้ เพราะผิดกฎหมายเลือกตั้ง

“ด.ต.นิสาธิต” จึงเข้าไปตักเตือน ด้วยถ้อยคำสุภาพว่า ถ่ายไม่ได้นะครับ

สมยศ พลายด้วง
เท่านั้นเอง “สจ.กอล์ฟ” ถึงกับเดือด เลือดขึ้นหน้า ตะคอกถามกลับไปว่า “มึงรู้ไหม ว่ากูเป็นใคร” จากนั้นก็เอะอะโวยวาย ด่าทอเจ้าหน้าที่อยู่พักหนึ่ง ก่อนขับรถออกไป

คล้อยหลังไม่นาน ก็มีชายฉกรรจ์ 5-6 คน เข้ามาที่หน่วยเลือกตั้ง รุมทำร้าย “ด.ต.นิสาธิต” อย่างอุกอาจ เหิมเกริม ทั้งที่ “ดต.นิสาธิต” อยู่ในชุดตำรวจและกำลังปฏิบัติหน้าที่ ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่มาใช้สิทธิ อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย แถมประกาศศักดาว่า...ลูกพี่กูใหญ่ ใครอย่ามาซ่าส์..

อย่างนี้มันมาเฟียชัดๆ !!

เมื่อเป็นเรื่องเป็นราว เป็นข่าวขึ้นมา ว่าตำรวจถูกรุมทำร้ายขณะปฏิบัติหน้าที่ “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ถึงกับควันออกหู สั่งชุดปฏิบัติการพิเศษ ลุยล้างมาเฟียสงขลา อย่าให้เหลือ

เบื้องต้นได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชา เยี่ยมให้กำลังใจกับตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ ให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลาลงไป กำกับการปฏิบัติเรื่องนี้ด้วยตนเอง เร่งรัดการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน และดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด พร้อมให้จัดชุดปฏิบัติการพิเศษ ปฏิบัติการกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ทำตัวอยู่เหนือกฎหมาย และต้องจับกุมมาดำเนินคดีให้หมด ทั้งให้สอบสวนขยายผล ว่า ผู้กระทำผิดมีความเกี่ยวพันกับการกระทำผิดอื่นอีกหรือไม่ และให้ดำเนินคดีทุกความผิดอย่างเข้มข้น จะปล่อยให้ใครทำตัวเป็นกลุ่มผู้มีอำนาจเหนือกฎหมายไม่ได้ ”

หลังมีคำสั่งเข้มจาก “บิ๊กต่าย” เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ก็เร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาได้ 5 คน ส่วน “สจ.กอล์ฟ” กับลูกสมุนอีกคน ยังกบดานเงียบ ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้น (12 พ.ค.) ศาลจังหวัดสงขลา ได้ออกหมายจับ นายสิรดนัย พลายด้วง หรือ “สจ.กอล์ฟ” พร้อมพวกรวม 7 คน คราวนี้ถึงเพิ่งรู้ตัวว่า อยู่เฉยไม่ได้แล้ว

“สมยศ พลายด้วง” หรือ “โกถึก” สส.สงขลา เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ จึงพา“สจ.กอล์ฟ” สิรดนัย พลายด้วง ซึ่งเป็นลูกชายของตนเอง เข้ามอบตัว ที่สภ.เมืองสงขลา

ที่แท้นอกจากเป็นสจ. แล้วยังเป็นลูก สส.นี่เอง ถึงได้กร่างนัก!!

“สจ.กอล์ฟ” และลูกสมุน ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยใช้อาวุธ , ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน ซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุที่จะกระทำ หรือได้กระทำตามหน้าที่ ตามหมายจับของศาลจังหวัดสงขลา

เมื่อ “บิ๊กต่าย” ผบ.ตร. สั่งขยายผลว่ามีการทำความผิดอื่นอีกหรือไม่ ทาง “ผบช.ไซเบอร์” พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ก็เริ่มตรวจสอบตามเบาะแส ที่ได้มาว่า “ก๊วน สจ.กร่าง” เอี่ยวทำเว็บพนัน หรือไม่ เพราะพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย หากมีพยานหลักฐาน ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

ด้านพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเห็นว่าลูก สส. ของพรรคมีพฤติกรรมมาเฟีย ป่าเถื่อน กล้าทำร้ายแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ กับเรื่องเพียงแค่ถูกเตือนว่า ห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้ง ก็ให้โฆษกพรรครีบออกมาโบ้ยว่า เป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่เกี่ยวกับพรรค อย่าพยายามจับมาผูกโยง

แต่ก็ไม่วายทิ้งท้ายว่า ...ขอให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไปอย่างโปร่งใส และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย...

นี่แหละภาพสะท้อนของ ประชาธิปัตย์ในยุค “เฉลิมชัย-เดชอิศม์” ที่ปล่อยปละละเลย ไม่เข้มงวดในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ของเครือข่าย สมาชิก จนกระทั่งมีเรื่องอื้อฉาวออกมาประจานตัวเอง แล้วพรรคก็ออกมาใช้วิธีปัดสวะให้พ้นตัว


กำลังโหลดความคิดเห็น