หัวหน้าพรรคประชาชน แถลงผลเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่พรรคส่งลงแข่ง เทศบาลนคร ได้ 0 จาก 15 เทศบาลเมืองได้ 3 จาก 27 และเทศบาลตำบลได้ 7 จาก 55 ขอบคุณทุกคะแนนเสียง ลั่นหากยุบสภาจริง พร้อมทุกนาทีในการเลือกตั้ง
วันที่ 11 พฤษภาคม 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชน แถลงข่าวการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่พรรคส่งลงแข่ง มีความคืบหน้าผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการในเบื้องต้น ว่า เทศบาลนครยังรอลุ้นอยู่ 3 ที่ คือ เทศบาลนครเชียงราย เทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ และเทศบาลนครนนทบุรี ซึ่งยังมีผลคะแนนที่ใกล้เคียงกับคู่แข่ง ซึ่งยังนับไม่เสร็จสิ้น ส่วนเทศบาลเมืองได้มา 3 แห่ง โดยอยู่ใน จ.นนทบุรี 2 แห่ง และ จ.สมุทรปราการ 1 แห่ง และเทศบาลตำบลได้มา 7 แห่ง เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าพรรคประชาชนชนะการเลือกตั้ง แต่ยังไม่ขอลงรายละเอียด เราพร้อมจะเอานโยบายหลายๆ อย่างที่ได้ดำเนินการใน อบจ.ลำพูน ไปดำเนินการในพื้นที่เหล่านี้
นายณัฐพงษ์ กล่าวขอบคุณประชาชนที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง พร้อมย้ำว่า ไม่ว่าจะเทศบาลนครเชียงใหม่ เทศบาลนครนครปฐม ทีมงานหาเสียงอย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งเทศบาลนครนครปฐม มีคะแนนห่างเป็นหลักร้อยคะแนน
ผู้สื่อข่าวถามถึงปัจจัยที่ทำให้แพ้หรือชนะ นายณัฐพงษ์ ตอบว่า แต่ละพื้นที่แตกต่างกัน บางพื้นที่ห่างกันแค่หลักร้อย แต่สิ่งที่ต้องทำต่อ คือ รณรงค์แข็งขัน โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ภาพรวมค่อนข้างพอใจ หลายเวทีที่ชนะเราต้องทำงานอย่างหนัก อย่างเต็มที่ ให้สมกับความไว้วางใจของประชาชน สำหรับพื้นที่ที่ไม่ชนะ ยังวิเคราะห์ไม่ได้มากเพราะผลยังไม่เป็นทางการ แต่เชื่อว่าคะแนนที่ชาวเชียงใหม่มอบให้ เติบโตขึ้นอย่างเป็นลำดับ ส่วนพื้นที่ที่คะแนนทิ้งห่างไม่มาก จะรอฟังจากทีมในพื้นที่อีกครั้ง ถ้ามีมูลเหตุที่ไม่โปร่งใสก็จะใช้สิทธิเต็มที่ แต่ตอนนี้ยังนับคะแนนไม่เสร็จ ขอรอสัก 1-2 วันก่อน
เมื่อถามอีกว่า คาดหวังพื้นที่ใดเป็นพิเศษ หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า “ทุกสนามที่เราส่ง เรามีความหวังที่อยากจะชนะการเลือกตั้ง และเชื่อว่า การรณรงค์อย่างแข็งขัน การนำเสนอนโยบาย การส่งผู้สมัครที่ดีที่สุดให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชน คือปัจจัยที่จะนำไปสู่ชัยชนะของการเลือกตั้งได้ ส่วนผลการเลือกตั้งที่ออกมา สนามไหนแพ้หรือชนะ เราคงไม่สามารถไปตอบได้ว่าเป็นเพราะปัจจัยใดปัจจัยหนึ่ง สุดท้ายก็อยู่ที่การตัดสินใจของพ่อแม่พี่น้องประชาชนที่ออกไปเลือกตั้งในวันนี้”
ทางด้านประเด็นคำถามที่หลายพื้นที่บ้านใหญ่ชนะนั้น นายณัฐพงษ์ มองว่า ผลเลือกตั้งสะท้อนเสียงประชาชน อาจจะอยู่ที่นโยบาย ตัวผู้สมัคร องค์ประกอบคู่แข่ง รวมถึงระบบเลือกตั้งที่ทำให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งสะดวกที่สุดด้วย
ในประเด็นคำถามถึงกระแสข่าวที่อาจจะมีการยุบสภา จากการโหวตคว่ำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 นายณัฐพงษ์ มองว่า เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทยที่ต้องควบคุมเสียงพรรคร่วม ถ้างบประมาณที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ ไม่ผ่านสภา ก็อาจจะต้องยุบสภา แต่ยืนยันพรรคประชาชนพร้อมทุกๆ นาทีที่จะต้องลงสนามเลือกตั้งใหญ่ ถ้ามีเหตุเกิดขึ้นจริง
อย่างไรก็ตาม ในช่วงท้ายเมื่อถามว่าถ้าพรรคร่วมรัฐบาลเกิดมีปัญหา และมีการขอพรรคประชาชนไปร่วม นายณัฐพงษ์ ขอยืนยันชัดเจนอีกครั้งว่า พรรคประชาชนไม่มีทางร่วมรัฐบาลนี้อย่างแน่นอน ยืนยันอย่างตรงไปตรงมา
