นายกเบี้ยวพา “ลูกพีช-แม่น้ำอ้อย” ประกาศชัยชนะ ครองเทศบาลธัญบุรียกทีม ขอบคุณชาวสธัญบุรีที่ยังไว้วางใจ แม้เกิดกรณีดราม่าของลูกชาย พร้อมปฏิเสธ ตนไม่ใช่บ้านใหญ่ แต่เป็นบ้านที่อบอุ่น ยอมรับชาวธัญบุรีกินหญ้า แต่เป็นหญ้าหวาน และจะกินตลอดไป โวยโดนบุคคลที่สามกีดกันลูกพีชไม่ให้เยียวยาสองตายาย
วันนี้(11 พ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือนายกเบี้ยว อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี พร้อมด้วยนางยุพเยาว์ หลีนวรัตน์ ภรรยา ซึ่งเป็นผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี และนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ หรือพีช ลูกชาย ซึ่งเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล(สท.)ตำบลธัญบุรี ทีมธัญบุรีก้าวหน้า ได้แถลงข่าวประกาศชัยชนะ หลังผลนับคะแนนไม่เป็นทางการปรากฏว่านางยุพเยาว์มีคะแนนนำคู่แข่งค่อนข้างห่าง เช่นเดียวกับทีมธัญบุรีก้าวหน้า ซึ่งทำให้ลูกพีชได้เป็นว่าที่ สท.ตำบลธัญบุรีด้วย
นายกฤษฎา ได้กล่าวขอบคุณชาวตำบลธัญบุรีที่ยังให้ความไว้วางใจครอบครัวหลีนวรัตน์ได้มารับใช้เหมือนเดิม และขอขอบคุณทุกคะแนนเสียง ซึ่งทั้ง 74 หน่วยน่าจะชนะประมาณ 1 พันกว่าคะแนน เดิมก็ไม่ได้ตั้งใจเพราะว่ามีกรณีอุบัติเหตุของลูกพีช ก็ไม่มั่นใจว่าพี่น้องชาวธัญบุรีจะยังให้ความไว้วางใจอยู่หรือไม่ แต่เที่ยวนี้เราก็ถือว่าขอขอบคุณพ่อแม่พี่น้องชาวธัญบุรี ที่ให้ความไว้วางใจทำให้เราได้รับชัยชนะ และซาบซึ้งในน้ำใจของพี่น้องที่เราได้ดูแลกันมา
นายกฤษฎา ได้ปฏิเสธว่าตนไม่ใช่บ้านใหญ่ แต่เป็นบ้านที่อบอุ่น จากแรงเชียร์แรงใจของพี่น้อง เขตเทศบาลตำบลธัญบุรีเราอยู่กันแบบนี้ เหมือนพี่เหมือนน้อง พ่อแม่พี่น้องเดือดร้อนเราช่วยเหลือกัน เราอยู่กันอย่างอบอุ่น “อย่าไปเชื่อบุคคลที่สาม มากล่าวหาว่าผมเป็นบ้านใหญ่ ผมไม่อยากเป็นหรอกครับ ผมอยากเป็นบ้านที่อบอุ่น คอยดูแลทุกข์สุขของพี่น้องของเราตลอดไป”
เมื่อถามว่า มีคนบอกว่าคนธัญบุรีกินหญ้า นายกฤษฎากล่าวว่า คนธัญบุรีกินหญ้าหวาน
“กินหญ้าหวานครับ ถ้ากินหญ้าขม ผมคงไม่ได้รับชัยชนะ พ่อแม่พี่น้องชาวธัญบุรีทานหญ้าหวาน แล้วก็จะทานตลอดไป เราไม่ทิ้งกัน นะครับ” นายกฤษฎากล่าว พร้อมกับเสียงเฮของกลุ่มผู้สนับสนุน
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีการยิงกระสุนนั้น นายกฤษฎากล่าวว่า คงเป็นกระสุนหนังสติ๊กยิงนก “แต่ยิงพลาดเป้าไปหน่อย เลยแพ้ผม”
สำหรับเรื่องการเยียวยาสองตายายที่ถูกลูกพีชขับรถบีเอ็มดับเบิลยูชนรถกระบะนั้น นายกฤษฎากล่าวว่า เราพยายามทำทุกอย่างแล้ว ไปเยี่ยมก็แล้ว เอาเงินเยียวยาไปจ่ายก็แล้ว แต่กูถูกกีดกันจากบุคคลที่สาม กันทุกอย่าง พีชเอาเงินไปจ่ายทางโรงพยาบาลก็ไม่รับ พีชจะไปขอเยี่ยมก็ให้เขียนจดหมายน้อย ไม่ใช่พีชเขียนเอง แต่ทางคนป่วยบอกผ่านเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลให้พีชเขียนจดหมายน้อยไว้ แล้วก็บอกว่าญาติจ่ายเงินไปแล้ว จริงๆ ญาติไม่ได้จ่าย แต่เป็นบุคคลที่สามจ่าย เมื่อบุคคลที่สามจ่ายเงินแล้วแต่ทางน้องพีชเห็นว่าคุณลุงคุณป้ายังมีความจำเป็นต้องใช้จ่าย ก็เลยจะเอาเงินวางไว้ แต่ทางโรงพยาบาลก็ไม่รับ เราทำทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ไม่ได้มีเจตนาจะไม่เยียวยา เราสงสารคุณลุงคุณป้าด้วยซ้ำ เจตนาของเรา เราคุณกันในครอบครัวว่าต้องดูแลคุณคุณป้า แต่เหตุการณ์มันเป็นแบบนี้ มีบุคคลที่สามยังไงก็ไม่จบ ถ้าจบก็คงจบไปแล้ว
“ส่วนผู้หลักผู้ใหญ่ก็ไม่เคยเข้ามาช่วยเลย และผมก็ไม่คิดที่จะให้ท่านมาช่วยเหลือ ขณะนี้น้องพีชเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ถ้าน้องพีชผิดก็ชดใช้กรรมไปเถอะครับ อยู่ที่กระบวนการยุติธรรม เราไม่มีเส้นไม่มีสาย เราไม่แทรกแซง เราเป็นลูกผู้ชาย พร้อมรับผิดทุกกรณี” นายกฤษฎา กล่าว