xs
xsm
sm
md
lg

กกต.แถลงเปิดทุกหน่วยเลือกตั้งเทศบาล เรียบร้อย สั่งลงพื้นที่สอบซื้อเสียงกาฬสินธุ์ ย้ำ 10 ข้อห้ามใช้สิทธิ์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กกต.แถลงเปิดทุกหน่วย เลือกตั้งเทศบาล เรียบร้อย สั่งชุดไต่สวนลงพื้นที่สอบปมซื้อเสียงกาฬสินธุ์หัวละ 3,000 บาท เตือน 10 ข้อห้ามใช้สิทธิ์ ฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำทั้งปรับ ตัดสิทธิ์การเมือง

วันนี้ (11 พ.ค.) พ.ต.ท.ระพีพงษ์ จิรพัฒนาลักษณ์ รองเลขาธิการกกต. แถลงถึงการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ประเด็น “สถานการณ์การเปิดหน่วยเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีทั่วประเทศ ซึ่งจากการตรวจสอบสถานการณ์เกี่ยวกับการเปิดหน่วยลงคะแนน 76 จังหวัดจำนวน 34,818 หน่วย จากจำนวนเทศบาลที่มีการเลือกตั้ง 2,463 แห่งทั่วประเทศ ยกเว้นกรุงเทพมหานคร ได้รับรายงานจาก กกต. จังหวัดว่าการเปิดเหตุเลือกตั้งทั่วประเทศดำเนินการเปิดหีบได้ตั้งแต่เวลา 08:00 น. เรียบร้อยครบทุกแห่ง แม้ว่าบางแห่งจะมีพายุฝนฟ้าคะนองตั้งแต่เมื่อวาน แต่วันนี้สามารถเปิดหน่วยให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งใช้สิทธิ์ลงคะแนนได้ตามปกติ
นอกจากการเลือกตั้งเทศบาลในทุกจังหวัดแล้วบางจังหวัดนอกเขตเทศบาลมีการเลือกตั้งซ่อม สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลหลายพื้นที่ซึ่งไม่ได้ซ้ำซ้อนกัน

ส่วนการเลือกตั้งเทศบาลครั้งนี้มีหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น 34,818 หน่วย ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งสิ้น 29,936,705 คน ซึ่งจะเห็นได้เป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประเทศ สะท้อนว่าเลือกตั้งเทศบาลเป็นเขตชุมชนขนาดใหญ่ ซึ่งในการเลือกตั้ง อบต. ครั้งต่อไปกว่า 5,000 แห่งผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งก็จำนวนใกล้เคียงกัน

ส่วนข้อควรระวังของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในวันเลือกตั้ง 1. ห้ามผู้ไม่มีสิทธิเลือกตั้งพยายามออกเสียงลงคะแนน ฝ่าฝืนมีโทษ จำคุก 1-10 ปี หรือปรับ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี 2.ห้ามใช้บัตรอื่นแทนบัตรเลือกตั้งที่ได้รับจากกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง ฝ่าฝืนจำคุก 1-10 ปี หรือปรับ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี 3. ห้ามนำบัตรเลือกตั้งออกจากที่เลือกตั้ง ฝ่าฝืนมีโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี 4. ห้ามทำเครื่องหมายอื่นบนบัตรเลือกตั้งนอกจากเครื่องหมายที่ลงคะแนน ฝ่าฝืนมีโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี 5. ห้ามใช้โทรศัพท์หรืออุปกรณ์ใดถ่ายภาพในคูหาเลือกตั้งโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 6.ห้ามนำบัตรเลือกตั้งใส่ในหีบบัตรเลือกตั้งโดยไม่มีอำนาจ หรือปลอมรายชื่อ / เพิ่มจำนวนบัตร ฝ่าฝืนมีโทษ จำคุก 1-10 ปี หรือปรับ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี 7. ห้ามแสดงบัตรที่ลงคะแนนแล้วให้ผู้อื่นทราบว่าเลือกใคร ฝ่าฝืนมีโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 8. ห้ามรับเงินหรือผลประโยชน์เพื่อเลือกหรืองดเลือกผู้สมัครผู้ใด ฝ่าฝืนมีโทษ จำคุก 1-10 ปี หรือปรับ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี

แต่มีข้อยกเว้นว่า หากแจ้งกกต.ก่อนถูกจับ จะไม่ต้องรับโทษและไม่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งหรือสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 9. ห้ามทำให้บัตรเลือกตั้งชำรุดโดยเจตนา ฝ่าฝืนมีโทษ ปรับไม่เกิน 5,000 บาท (ไม่ถือเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์) และ 10. ห้ามทำบัตรเลือกตั้งชำรุดหรือเสียหาย หรือให้เป็นบัตรเสีย หรือทำบัตรเสียให้ใช้ได้ มีโทษ จำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี

เมื่อถามถึงการซื้อเสียง หัวละ 3,000 บาทที่จังหวัดกาฬสินธุ์ รองเลขาธิการกกต.กล่าวว่า สำนักงานได้รับข้อมูลจากสำนักงานจังหวัดกาฬสินธุ์รายงานเบื้องต้นเข้ามา ปรากฏภาพตามสื่อที่มีการเผยแพร่เรื่องของการแจกเงิน ซึ่งสำนักงานกกต.กาฬสินธุ์ แจ้งว่าได้ส่งชุดสืบสวนไต่สวนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมแล้วว่าเป็นผู้ใดที่นำเงินมาแจกและผู้ใดได้รับไป และให้ชุดสืบสวน ชุดหาข่าวลงพื้นที่เพื่อดำเนินการ หากมีความปรากฏก็ปฏิบัติตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้รองเลขากกต.ยังเชิญชวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเขตเทศบาลทั่วประเทศยกเว้นกรุงเทพมหานครออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งซึ่งถือเป็นการแสดงพลังของประชาชน เพื่อกำหนดการพัฒนาท้องถิ่นของตนเองเป็นหลักฐานสำคัญของประชาธิปไตยที่ยั่งยืน และขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมขับเคลื่อนการเลือกตั้งครั้งนี้ให้สุจริตและเที่ยงธรรม ชอบด้วยกฎหมาย รวมถึงเชิญชวนประชาชนติดตามการรายงานผลคะแนนเลือกตั้งในช่องทางต่างๆ หรือสอบถามสายด่วน 1444


กำลังโหลดความคิดเห็น