“สว.สมชาย” เผยศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามศาลชั้นต้น ไม่อนุญาต “ทักษิณ” ไปกาตาร์ ชี้ไม่มีหลักฐานว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” เชิญพบ และใกล้วันศาลนัดไต่สวนคดีชั้น 14 วันที่ 13 มิ.ย.
จากกรณีที่เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาในคดีการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอเดินทางไปยังประเทศกาตาร์ ตามคำเชิญของเจ้าผู้ครองนครเพื่อไปร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ โดยหวังว่าจะได้พบกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ศาลได้ยกคำร้อง เนื่องจากเห็นว่าเป็นการเชิญส่วนตัว และไม่มีกำหนดการที่ชัดเจนว่าจะได้พบกับนายโดนัล์ ทรัมป์ ซึ่งหลังจากศาลมีคำสั่งดังกล่าว ทนายความของนายทักษิณได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลอุทธรณ์นั้น
ล่าสุด วันนี้(10 พ.ค.) นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก สมชาย แสวงการ ว่า “ข่าวร้ายของสทรซ้ำอีก ศาลอุทรณ์ยืนตามศาลต้น ไม่อนุญาตให้บินออกนอกไปดักพบทรัมป์ที่กาต้าร์ เหตุ 1)ไม่มีหลักฐานว่า ปธน.ทรัมป์เชิญพบ 2)ใกล้วันศาลฎีกาคดีชั้น 14 สั่งโจทก์จำเลยนัดพร้อมไต่สวน 13 มิ.ย. #จบข่าว”
ทั้งนี้ คำสั่งศาลอาญาที่ยกคำร้องของนายทักษิณ เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ระบุว่า ศาลอาญาไต่สวนบุคคลและคำร้องแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง พิเคราะห์ข้อเท็จจริงตามทางไต่สวนแล้วเห็นว่าจำเลยได้รับจดหมายอิเล็กทรอนิกส์จากสำนักบริหารผู้รับเชิญพระราชวังลูเซล ไปร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ อันมีลักษณะเป็นหนังสือเชิญส่วนตัว มิได้เชิญจำเลยในฐานะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนประจำปี 2568 ทั้งไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับกำหนดการที่แน่ชัด เพียงแต่คาดหมายว่าหากประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ มางานเลี้ยงดังกล่าว จำเลยจะมีโอกาสพบปะหารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ และทีมเศรษฐกิจเท่านั้น ประกอบกับช่วงที่ขอเดินทางไปอยู่ใกล้วันนัดพิจารณาคดีที่ศาลฎีกาและคดีนี้อาจกระทบต่อกระบวนพิจารณาของศาลได้ กรณียังไม่มีเหตุผลอันจำเป็นที่หนักแน่นเพียงพอที่จะให้จำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร จึงไม่อนุญาต