xs
xsm
sm
md
lg

“นฤมล” แจ้งข่าวดี กระทรวงเกษตรฯ เจรจาเปิดตลาดส่งออกเนื้อไก่-เป็ดดิบ ไปขายฟิลิปปินส์สำเร็จเป็นครั้งแรก มั่นใจ เพิ่มโอกาสส่งออกให้เกษตรกรไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ (8 พ.ค.) ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหัวหน้าพรรคกล้าธรรม (กธ.) เปิดเผยว่า จากเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้ร่วมหารือกับ H.E. Francisco P. Tiu Laurel, Jr. Secretary of the Department of Agriculture รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของฟิลิปปินส์ ถึงความเป็นไปได้ในการเปิดตลาดสินค้าเกษตร คือ เนื้อสัตว์ปีกดิบ เช่น ไก่ และเป็ดจากไทยไปขายที่ประเทศฟิลิปปินส์

ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า ล่าสุด กรมปศุสัตว์ได้รับแจ้งจากสถานทูตฟิลิปปินส์ ประจำประเทศไทย ว่า หน่วยงาน National Veterinary Quarantine Service Division- BAI ให้การรับรองสถานประกอบการ 2 แห่งในประเทศไทย ได้แก่ EST. 14 บางกอกแรนช์ และ EST. 79 พนัสโพลทรีย์ ให้เป็นผู้ส่งออกเนื้อสัตว์ปีกดิบไปยังประเทศฟิลิปปินส์ โดยได้รับการลงนามเรียบร้อยแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการเผยแพร่ต่อสาธารณะ ในกระบวนการขั้นสุดท้าย หน่วยงาน Bureau of Animal Industry - BAI ขอความกรุณาจากกรมปศุสัตว์ ในการจัดส่งตัวอย่างหนังสือ Health Certificate สำหรับเนื้อสัตว์ปีก เพื่อให้ทาง BAI ได้พิจารณาข้อความรับรองต่างๆ ต่อไป โดยกรมปศุสัตว์จะส่งร่าง H/C ให้ทาง BAI โดยเร็วต่อไป

“นับเป็นข่าวดีของเกษตรกรไทยที่จะสามารถส่งออกเนื้อสัตว์ปีกไปยังฟิลิปปินส์ได้ ซึ่งเป็นไปตามที่เราได้เคยเจรจากับทางฟิลิปปินส์ไว้ วันนี้เกิดผลสัมฤทธิ์แล้ว ฟิลิปปินส์ได้อนุญาตให้ไทยส่งออกสัตว์ปีกดิบได้ เหลือเพียงขั้นตอนของเอกสาร Health certificate แล้วเสร็จก็จะสามารถส่งออกได้ทันที โดยในช่วงแรกทางฟิลิปปินส์ได้รับรองโรงงานส่งออกของไทย 2 โรงงาน คือ โรงงานเป็ด 1 โรง และโรงงานไก่ 1 โรง ซึ่งในอนาคตจะมีขยายรับรองโรงงานอื่นต่อไป ที่ผ่านมา ไทยเคยส่งออกได้แต่ไก่สุก เพิ่งจะสามารถเปิดตลาดไก่ดิบได้เป็นครั้งแรก ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากๆ เพราะตลาดไก่ดิบมีตลาดที่ใหญ่กว่าไก่สุกมาก โดยคาดว่า 2 โรงงานที่ได้รับรองก่อนในครั้งนี้ จะสามารถส่งออกไปฟิลิปปินส์ได้ปริมาณปีละ 5 พันตัน มูลค่า 500 ล้านบาท หากมีโรงงานขึ้นทะเบียนเพิ่มเติมอีกต่อเนื่อง มีโอกาสจะแชร์ตลาดนำเข้าเนื้อสัตว์ปีกดิบของฟิลิปปินส์ได้ถึงประมาณ 25% มูลค่านับหมื่นล้านบาท และที่สำคัญจะเป็นโอกาสเพิ่มขึ้นอีกมากสำหรับเกษตรกรไทย” ศ.ดร.นฤมล กล่าว








กำลังโหลดความคิดเห็น