xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว” แห้ว! ศาลไม่อนุญาตไปกาตาร์ ชี้เป็นเรื่องส่วนตัว อ้างจะเจอ “ทรัมป์” ไม่มีกำหนดการชัดเจน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศาลอาญายกคำร้อง “ทักษิณ” ขอเดินทางออกนอกประเทศ ไปกาตาร์ ตามคำเชิญของเจ้าผู้ครองนคร ชี้ เรื่องส่วนตัว อ้างจะไปเจอ “ทรัมป์” ไม่มีกำหนดการที่ชัดเจน ด้านทนายเผยตั้งใจไปเจอ ปธน.สหรัฐฯ เจรจาเรื่องภาษี เพราะอยากทำเพื่อประเทศชาติ โอด เรามีโอกาสแล้วแต่ไม่ใช้โอกาส

วันนี้ (8 พ.ค.) ตามที่เมื่อเช้าที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตร จำเลยในคดีการกระทำความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร หลังจากนั้น ศาลอาญาได้เปิดบัลลังก์ไต่สวนคำร้องของนายทักษิณ โดยมี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางมาด้วย และศาลจะมีคำสั่งในช่วงบ่าย

มีรายงานว่า ในช่วงบ่าย นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาศาลอาญาด้วย จนเวลา 14.28 น.นายวิษณุ ได้เดินทางออกจากศาลอาญา พร้อมกล่าวสั้นๆ ว่า มาศาลวันนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องนายทักษิณขอเดินทางออกนอกประเทศ แต่มายื่นคำร้องธรรมดาจากนั้นได้เดินทางกลับ

ล่าสุด มีรายงานว่า ศาลอาญาไต่สวนบุคคลและคำร้องแล้ว มีคำสั่งให้ยกคำร้อง โดยพิเคราะห์ข้อเท็จจริงตามทางไต่สวนแล้วเห็นว่า จำเลยได้รับจดหมายอิเล็กทรอนิกส์จากสำนักบริหารผู้รับเชิญ พระราชวังลูเซล ไปร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่ประเทศกาตาร์ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ ประธานาธิบดี โดนัลด์ เจ. ทรัมป์ อันมีลักษณะเป็นหนังสือเชิญส่วนตัว มิได้เชิญจำเลยในฐานะที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนประจำปี 2568 ทั้งไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับกำหนดการที่แน่ชัด เพียงแต่คาดหมายว่า หา ประธานาธิบดี โดนัลด์ เจ. ทรัมป์ มางานเลี้ยงดังกล่าว จำเลยจะมีโอกาสพบปะหารือกับประธานาธิบดี โดนัลด์ เจ.ทรัมป์ และทีมเศรษฐกิจ เท่านั้น ประกอบกับช่วงที่ขอเดินทางไป อยู่ใกล้วันนัดพิจารณาคดีที่ศาลฎีกา และคดีนี้อาจกระทบต่อกระบวนพิจารณาของศาลได้ กรณียังไม่มีเหตุผลอันจำเป็นที่หนักแน่นเพียงพอที่จะให้จำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร จึงไม่อนุญาต

นายวิญญัติ ชาติมนตรี (แฟ้มภาพ)
ทนายโอด เรามีโอกาสแล้วแต่ไม่ใช้โอกาส

ด้านนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของนายทักษิณ กล่าวหลังจากที่ศาลมีคำสั่งไม่อนุมัติให้นายทักษิณเดินทางไปกาตาร์ ว่า ความเป็นมาของการยื่นคำร้องขอไปประเทศกาตาร์เนื่องจากเจ้าผู้ครองนครรัฐกาตาร์ มีหนังสือเชิญมายังนายทักษิณ ในฐานะที่เป็นประธานที่ปรึกษาของประธานอาเซียน ซึ่งวันนี้นายทักษิณก็ได้ให้การต่อศาลว่า การขอไปต่างประเทศครั้งนี้ไม่ได้เป็นการไปงานเลี้ยง แต่ไปเพื่อทำคุณประโยชน์ ใช้ประสบการณ์และความรู้ความสามารถเพื่อประเทศชาติสังคมและประชาชน
นายวิญญัติกล่าวว่า เหตุผลที่นายทักษิณขอไป หลายคนก็เห็นอยู่ว่ามาตรการและนโยบายของสหรัฐอเมริกาโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในเรื่องของการจัดเก็บภาษีนำเข้าจากประเทศผู้ค้าและการค้าหลายประเทศ โดยเป็นการเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่ได้รับผลกระทบกันทั่วโลก ประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบ ดังนั้นนายทักษิณที่เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีและมีความเป็นห่วงใยประเทศชาติและเห็นผลประโยชน์ประเทศชาติอันสำคัญ นายทักษิณหวังทำเพื่อชาติบ้านเมือง จึงเป็นเหตุผลในการยื่นขอศาลในวันนี้ แต่อย่างไรก็ดี เมื่อศาลได้ไต่สวนและพิจารณาแล้วเห็นว่าการเชิญลักษณะนี้เป็นการเชิญแบบส่วนตัวและยังไม่มีกำหนดการที่ชัดเจน อาจจะเป็นเพียงการคาดหมายว่าไปแล้วจะได้พบกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ นี่คือสิ่งที่ศาลเห็นเราก็น้อมรับดุลพินิจของศาล

นายวิญญัติกล่าวอีกว่า ที่เห็นว่าระยะเวลาที่เราขอเดินทางออกนอกประเทศในวันที่ 14 พ.ค.ซึ่งใกล้กับกำหนดการพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในเรื่องการบังคับโทษชั้น 14 ซึ่งมีวันนัดพร้อมตรงกับวันที่ 13 มิ.ย. เมื่อศาลอาญาเห็นว่าวันนัดใกล้กันเราก็ยอมรับดุลพินิจ ว่านี่คือเหตุผลที่ศาลเห็นว่าไม่มีเหตุผลเพียงพอ จึงยังไม่อนุญาตให้ออกนอกประเทศ โดยทราบว่างานที่จัดที่กาตาร์ตนเข้าใจว่าเป็นเหตุที่จะได้มีโอกาสพบประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีกำหนดการที่จะเดินทางไปที่กาตาร์ โอกาสการได้พบไม่ใช่โอกาสของนายทักษิณคนเดียวแต่เป็นโอกาสของประเทศชาติ เพราะหลายคนกำลังเฝ้าดูว่า จะมีโอกาสได้เข้าไปคุยหรือไม่ และหลายประเทศก็หวังว่าจะได้มีโอกาสเข้าไปเจรจากับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แล้วไทยไม่อยากจะได้เข้าไปเจรจาหรืออย่างไร

เมื่อถามว่า การที่นายทักษิณไม่ได้ออกไป จะเป็นอุปสรรคในการเจรจาเรื่องเศรษฐกิจและภาษีหรือไม่ นายวิญญัติกล่าวว่า คำถามนี้เป็นคำถามที่ตนอยากจะตั้งคำถามกลับไปอยู่ว่าการส่งออกหรือนำเข้าสินค้าในประเทศจะมีเรื่องภาษีที่เป็นปัญหา เราจำเป็นต้องหาข้อตกลง เพื่อที่จะลดเรื่องอัตราภาษีหรือกำแพงภาษีนี้ให้ได้ อันนี้เป็นแนวทางหนึ่งของการเจรจาทางการค้าที่ถามว่าจะเป็นอุปสรรคหรือไม่ อยากให้สังคมคิดเอาว่าการที่มีบุคคลหนึ่งที่อยากจะทำเพื่อประเทศชาติและบุคคลหลายคนที่อยากจะทำเพื่อประเทศชาติ เราถือว่าเป็นหน้าที่ของพลเมืองประชาชนคนไทยหรือไม่ส่วนเป็นอุปสรรคหรือไม่ตนไม่มีความเห็น แต่เห็นว่าถ้าเรามีโอกาสแล้วเราไม่ใช้โอกาส เราจะเสียโอกาสหรือไม่


กำลังโหลดความคิดเห็น