นายกฯ แวะ ตร.ภาค 1 ร่วมแถลงผลจับยาเสพติดลอตใหญ่ พร้อมชื่นชมให้กำลังใจ หลัง ตำรวจ-ป.ป.ส.ปูพรมปิดล้อมชุมชนทั่วประเทศ ขยายผลจากการจับกุมลอตใหญ่ จ.นครสวรรค์
วันนี้ (7 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.20 น. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 1 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการพักคอยยาเสพติด ในพื้นที่ตอนในและสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดลงสู่พื้นที่ภาคใต้ พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพ (ป.ป.ส.) ร่วมแถลงจับกุมยาเสพติดรายสำคัญซึ่งลำเลียงมาพักคอยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ได้ของกลางยาบ้า 8.7 ล้านเม็ด ไอซ์ 18 กระสอบ น้ำหนักรวม 720 กิโลกรัม
โดย นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ได้รับรายงานจากทางตำรวจและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพ (ป.ป.ส.) ว่า เรามีการจับยาบ้าได้ 8 ล้านเม็ด และมียาไอซ์ด้วย วันนี้แวะมาให้กำลังใจและชื่นชมในผลงานของตำรวจ และ ป.ป.ส. ได้ทำผลงานตามนโยบายของรัฐบาลได้อย่างเข้มข้นและมีการจับผู้ต้องหาได้แล้ว วันนี้จึงแวะมาให้กำลังใจและดูด้วยว่ามีตรงไหนเพิ่มเติม และจะมีโอกาสในการจับเพิ่มหรืออย่างไรต่อไปบ้าง
พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องปราบปรามจากกรุงเทพฯ ผู้กระทำความผิดยาเสพติดผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยสืบสวนติดตามจับกุมยาเสพติดมาโดยตลอดอย่างต่อเนื่องและวันนี้เป็นการปิดล้อมเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยตามชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งเรามีเป้าหมายทั้งหมด 2,440 เป้าหมาย มีเครือข่าย 549 เป้าหมาย ในการเข้าปิดล้อมตรวจค้นสามารถจับกลุ่มผู้ต้องหาและอาวุธปืน ระเบิด พร้อมทั้งยึดทรัพย์ทั้งหมด 226 ล้านบาทเศษ จับกุมยาเสพติดยาบ้าทั้งยาไอซ์ เฮโรอีน เฟตามินเป็นการปฏิบัติการตรวจค้นผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยทั่วราชอาณาจักรและเคสนี้เป็นการติดตามจับกลุ่มขยายผลมาจากเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา นายกฯได้ไปแถลงข่าวจับกลุ่มที่อำเภอพยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ จึงมีการขยายผลติดตามต่อเนื่องมาจนทราบว่าผู้ร่วมกระทำความผิดดังกล่าวอยู่ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นบริเวณบ้านเช่าดังกล่าว รวมถึงการดำเนินการตามมาตรการยึดทรัพย์ผู้ต้องหาที่กระทำความผิดต่อไป