ครม.รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ของรัฐสภา
วันนี้ (วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2568) นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม. มีมติรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ของรัฐสภา ตามที่สำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (สผ.) เสนอ
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 5 (สมัยสามัญประจําปี ครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ เมื่อวันพุธที่ 5 มีนาคม 2568 ที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่..) พ.ศ. .... ซึ่งคณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญ ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรมมนูญ ในเรื่องนี้ไว้บางประการ และที่ประชุมได้ลงมติเห็นชอบด้วยกับข้อสังเกตของร่างพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรมนูญดังกล่าว
ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่..) พ.ศ. .... มีสาระสําคัญในการให้ความคุ้มครองบุคคล ผู้ให้ถ้อยคำ แจ้งข้อมูลหรือเบาะแส ส่งพยานหลักฐานหรือแสดงความคิดเห็น แก่คณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ เกี่ยวกับการกระทําความผิดที่อยู่ในหน้าที่และอํานาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. (ผู้ถูกฟ้องปิดปาก) ตามมาตรา 132 ทั้งทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางวินัยเพิ่มเติมจากที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรมมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 บัญญัติไว้ ซึ่งร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาและอยู่ระหว่างดำเนินการนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย เพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไป โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่..) พ.ศ. .... เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมเหตุผลประกอบบางประการและมีข้อสังเกตเกี่ยวกับความจำเป็นที่ต้องต้องจัดเตรียมความพร้อม ในการกําหนดระเบียบ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการให้ความช่วยเหลือแก่บุคคลผู้ได้รับความคุ้มครอง ให้เป็นไปตามกฎหมายบัญญัติไว้โดยเร็ว
โดยทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะทำการจัดสรรงบประมาณ รวมทั้งฝึกบุคลากร เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว พร้อมให้ความคุ้มครองบุคคลตามมาตรา 132 พร้อมทำหน้าที่กําหนดระเบียบ หลักเกณฑ์ หรือเงื่อนไขการเบิกจ่ายเงินกองทุน แก่บุคคลผู้ได้รับความคุ้มครอง พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นกรณีพิเศษ โดยคํานึงถึงความสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส รวมถึงตอบสนองภารกิจที่กฎหมายบัญญัติ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือบุคคลผู้ได้รับความค้มครองได้อย่างครอบคลุม รวดเร็วและทันท่วงทีเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตของประชาชนในทุกภาคส่วน ตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอานาจักรไทยบัญญัติไว้
ทั้งนี้ มอบหมายให้ สำนักงาน ป.ป.ช. รับข้อสังเกตของคณะกรรมการวิสามัญฯ ของรัฐสภาดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป โดยให้นำเสนอ ครม. เพื่อทราบ และหากไม่มีข้อทักท้วงหรือไม่มีความเห็นเป็นอย่างอื่นให้ถือเป็นมติ ครม. ตามที่เสนอ