xs
xsm
sm
md
lg

ป่วยทิพย์-จริยธรรมแพทย์ ชี้ชะตาทักษิณ!?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทักษิณ ชินวัตร
เมืองไทย 360 องศา



แม้ว่าหลายคนกำลังตั้งตารอว่า การไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการ เมืองในวันที่ 13 มิถุนายน จะออกมาอย่างไร หลังจากที่นัดให้โจทก์และจำเลย ที่เกี่ยวข้องกับกรณี “ไม่ติดคุกจริง” ของนายทักษิณ ชินวัตร ส่งคำชี้แจงมาให้ศาลได้พิจารณาหาข้อเท็จจริงภายใน 30 วัน หลังจากที่ศาลยกคำร้องของนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ เนื่องจากไม่ใช่เป็นคู่กรณี และไม่มีส่วนได้เสียตามกฎหมาย แต่ศาลเห็นว่า

“เมื่อความปรากฏแก่ศาลว่า อาจมีการบังคับตามคำพิพากษาที่ไม่เป็นไปตามหมายจำคุก ศาลย่อมมีอำนาจไต่สวนและมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร”

แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น ในวันที่ 8 พฤษภาคมนี้ ที่ถือว่าเป็นไฮไลต์สำคัญก็คือ การประชุมแพทยสภา ที่จะมีการพิจารณา ผลสอบสวนจริยธรรมแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ และแพทย์จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ของ ศ.เกียรติคุณ นพ.อมร ลีลารัศมี กรรมการแพทยสภา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจ แพทยสภา โดยเขาขอให้รอดูผลการประชุมแพทยสภา วันที่ 8 พฤษภาคมนี้ ขณะนี้ไม่อยากพูดอะไรออกไปก่อน

ส่วนข่าวที่ออกมาว่า ผลสอบของแพทยสภา มีการเสนอให้สั่งพักใบอนุญาตแพทย์ 2 คน และสอบเพิ่มเติมอีก 5 คน รวมเป็น 7 คน นั้น นพ.อมร กล่าวว่าคงไม่ยืนยันอะไรทั้งนั้น ต้องรอฟังผลการประชุมแพทยสภา เรื่องข่าวที่ว่ามีการเสนอให้ลงโทษและสอบสวน หมอ 7 คน ก็เพิ่งทราบข่าววันนี้

“มีคนส่งข่าวมาให้ผมดู แต่ผมตอบอะไรไม่ได้ ขอให้ไปรอติดตามผลการประชุมแพทยสภา วันที่ 8 พ.ค.นี้ ข่าวที่ออกมา ผมก็ไม่รู้ว่าคนที่พูดเขาเอาข้อมูลมาจากไหน ก็บอกแค่นี้แล้วกันว่า ให้รอฟังผลการประชุมแพทยสภา วันที่ 8 พ.ค. ผมไม่ยืนยันและไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น เอาแค่นี้ก่อนแล้วกัน ก็ดูวันที่ 8 พฤษภาคมนี้ ว่าเรื่องนี้จะเข้าที่ประชุมแพทยสภา วันที่ 8 พฤษภาคม นี้ได้ทันหรือไม่ หากเข้าได้ ก็ขอให้รอฟังเนื้อหาที่จะออกมาอีกทีหนึ่งแล้วกัน”

ก่อนหน้านี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กไลฟ์ รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ว่า บ้านเมืองจะถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ โดยให้จับตาดูผลการสอบสวนของแพทยสภา ในวันที่ 8 พฤษภาคมนี้ ซึ่งจะส่งผลถึงการนัดพร้อม หรือไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ในกรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจ

โดยนายจตุพร ระบุว่า ผลสอบสวนจริยธรรมแพทย์ ของคณะอนุกรรมการแพทยสภา ในวันที่ 8 พฤษภาคม นี้ โดยมีรายงานแว่วมาว่า สั่งพักใบอนุญาตแพทย์ รพ.ตำรวจเบื้องต้น 2 คน และสอบเพิ่มเติมอีก 5 คน ทั้งแพทย์ 2 โรงพยาบาล คือ รพ.ตำรวจและราชทัณฑ์ และผลสอบคาดจะออกมาหนักกว่า 2 คนแรก

เดิมทีก่อนหน้านี้ คณะอนุกรรมการสอบสวนของแพทยสภา จะเสนอรายงานผลสอบต่อที่ประชุมแพทยสภา วันที่ 10 เมษายน แต่ได้มีการเลื่อนสรุปออกไป โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากคณะอนุกรรมการฯ ได้รับเอกสารเพิ่มเติมจาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 2 หน่วยงาน คือ 1. เอกสารจากโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งส่งเอกสารมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม และแพทยสภาได้รับเอกสารดังกล่าวในวันที่ 31 มีนาคม และ 2. เอกสารจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งส่งเอกสารมาเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2568 และ แพทยสภา ได้รับเอกสารดังกล่าวในวันที่ 1 เมษายน 2568

อนุกรรมการสอบสวนฯ ของแพทยสภา จึงเห็นว่า เอกสารจากทั้ง 2 หน่วยงาน มีจำนวนมาก ทำให้กระบวนการพิจารณาจากข้อมูลเพิ่มเติมดังกล่าวต้องใช้เวลามากขึ้น จึงไม่สามารถสรุปผลการตัดสินได้ทัน วันที่ 10 เมษายน 2568 จึงต้องเลื่อนออกมา ซึ่งมีรายงานว่า อาจนำเสนอผลสรุปเข้าที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ในวันที่ 8 พฤษภาคมนี้ ขณะเดียวกันกำหนดการสอบสวน ไม่เกินเดือนมิถุนายน

แน่นอนว่า เมื่อมีรายงานข่าวออกมาล่วงหน้าแบบนี้ ว่า มีการพักใบอนุญาตแพทย์ 2 คนในล็อตแรก และตามมาในล็อต 2 อีก 5 คน ทำให้กลายเป็นจุดสนใจ อยากให้ถึงวันที่ 8 พฤษภาคม เร็วๆ ว่า “หวย” จะออกมาตรงแบบนี้หรือไม่ เพราะต้องไม่ลืมว่า กรณี “จริยธรรมแพทย” ถือว่าเป็นจุดชี้ขาดสำคัญ ที่มีต่อความเสี่ยงให้ นายทักษิณ ชินวัตร ต้องกลับเข้าคุกอีกครั้ง เพราะผลการรักษาอาการของเขา ถือเป็น “กุญแจสำคัญที่สุด”ก็ว่าได้ สำหรับใช้เป็นเหตุผลในการออกมารักษาหรือว่าคุมขังนอกเรือนจำ

ดังนั้น ผลการสอบสวนจริยธรรมแพทย์ ของคณะอนุกรรมการแพทยสภาที่แต่งตั้งขึ้นมา ถือว่าสำคัญยิ่งดังกล่าว เพราะหากเป็นไปตามข่าวจริง นั่นก็หมายความว่า แพทย์เหล่านั้น “ปกปิด” อาการ หรือรายงานผลเวชระเบียนไม่ตรงตามข้อเท็จจริง ความหมายที่ตามมาก็คือ นายทักษิณ “ไม่ได้ป่วยจริง” เพราะตามกฎกระทรวง ตามความหมายที่เข้าใจง่ายๆ ก็คือ ต้องมีอาการป่วยเข้าขั้นวิกฤต มีผลกระทบต่อชีวิต รวมไปถึงเรื่องของกฎเกณฑ์อายุมาก มาประกอบ

แต่สำหรับกรณีของ นายทักษิณ รับรองว่าไม่ว่าใครก็ตาม ทั้งฝ่ายที่เชียร์ ชอบ หรือเกลียด รับรองว่าในใจย่อมรู้กันดีว่าเขา “ป่วยเข้าขั้นวิกฤต” จริง หรือเปล่า อีกทั้งไม่ว่าใครก็ตาม ที่รักษาอาการวิกฤตเป็นเวลาต่อเนื่องกันในโรงพยาบาลเป็นเวลา 180 วัน หรือ 6 เดือน ย่อมเป็นคำตอบได้ดีอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมายังไม่อาจพิสูจน์หลักฐานได้ เพราะจะอ้างว่าเป็น “ความลับของคนไข้” ไม่อาจเปิดเผยได้ แต่สำหรับการสอบสวนของแพทยสภา ที่ “หมอสอบหมอ” ย่อมต้องรู้ทันกันอยู่แล้ว ก็น่าจะทำให้สังคมที่จับตามองกันอยู่ จะได้รู้แจ้งกันได้บ้าง อย่างไรก็ดี อีกด้านหนึ่งก็ยังมีอำนาจทางการเมืองเข้าไปแทรกแซงได้เหมือนกัน กรณีของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นสภานายกพิเศษของแพทยสภา อาจใช้อำนาจยับยั้งผลสอบ ก็เป็นไปได้เหมือนกัน แต่ก็จะต้องเจอกับแรงกดดันจากสังคมที่ต้องการรับรู้ความจริงอันมากมายมหาศาลแน่นอน

ดังนั้น ผลสอบของคณะอนุกรรมการแพทยสภา ถือว่ามีความหมายอย่างยิ่ง เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับ “ชะตากรรม” ของ นายทักษิณ ชินวัตร ว่าเขาป่วยขั้นวิกฤตอย่างไร จนต้องใช้เวลารักษาอาการวิกฤตนั้น ต่อเนื่องกันถึง 6 เดือน และเมื่อออกจากโรงพยาบาล มาพักโทษที่บ้านแล้วมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วราวปาฏิหาริย์ และหากออกมา“เป็นลบ” มันย่อมมีผลกระทบเป็นลูกโซ่ตามมามากมายทั้งแพทย์ ข้าราชการที่เกี่ยวข้อง รัฐมนตรี รวมไปถึง นายกรัฐมนตรี และที่สำคัญด่านถัดไป ที่ต้องเจอก่อนก็คือ การไต่สวนของศาล ในวันที่ 13 มิถุนายน แต่วันที่ 8 พฤษภาคมนี้ จะผ่านได้หรือเปล่า ระทึกใจจริงๆ!!


กำลังโหลดความคิดเห็น