ผบ.ทบ.สั่ง กอ.รมน.ภาค 4 ปรับมาตรการเชิงรับ-เชิงรุก ในจังหวัดนราธิวาส หลังเกิดเหตุหญิงชรา-เด็ก 9 ขวบ ถูกยิงดับ 2 เหตุการณ์ ลั่นถึงเวลาแล้วที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันสู้เพื่อปกป้องผู้บริสุทธิ์
พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า จากกรณีการก่อเหตุร้ายต่อประชาชนในพื้นที่ อำเภอจะแนะ และอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส จำนวน 2 เหตุการณ์ ภายในระยะเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตรวม 2 ราย ได้แก่ หญิงชราอายุ 76 ปี และเด็กหญิงวัยเพียง 9 ขวบ รวมถึงมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายราย ว่า พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่เราต้องร่วมกันต่อสู้ โดยอาศัยองค์ประกอบต่างๆ ที่มีอยู่ในระบบ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และกลไกกระบวนการยุติธรรม มาเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน
พล.ต.วินธัย กล่าวอีกว่า ผบ.ทบ.ยังสั่งการให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ดำเนินการอย่างเร่งด่วน ปรับมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ทั้งในเชิงรับและเชิงรุก ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเน้นการสกัดกั้นการก่อเหตุต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ เพิ่มความเข้มงวดของจุดตรวจ และการลาดตระเวนเชิงรุก ควบคู่กับการใช้มาตรการด้านการข่าวในการติดตาม สืบสวน และจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
ทั้งนี้ กองทัพบก ขอความร่วมมือจากประชาชนให้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ปฏิเสธการใช้ความรุนแรงต่อเด็กและประชาชนผู้บริสุทธิ์ และหากพบเห็นบุคคลต้องสงสัย หรือพฤติกรรมผิดปกติในพื้นที่ สามารถแจ้งเบาะแสได้ตลอด 24 ชั่วโมงที่ สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า โทร. 1341 หรือแจ้งต่อหน่วยเฉพาะกิจของเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ใกล้เคียง
“ถึงเวลาแล้ว ที่เราต้องมาร่วมกันต่อสู้ ปกป้อง ประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยอาศัยองค์ประกอบต่างๆ ในระบบที่มีอยู่ ทั้งของภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และกลไกกระบวนการยุติธรรม มาเป็นเครื่องมือแก้ปัญหาร่วมกัน” พล.ต.วินธัย กล่าว