นายกฯ ปาฐกถาพิเศษภารกิจพลิกฟื้นเศรษฐกิจ แจง “มูดีส์ ” ลดระดับความเชื่อถือไทย เป็นเพียงมุมมอง ไม่ใช่การให้คะแนน ชี้ ต้องทำให้หายกังวล-แก้เศรษฐกิจผ่านมรสุมกำแพงภาษีสหรัฐ ขอประชาชนมั่นใจพร้อมจับมืออาเซียนเพิ่มอำนาจต่อรอง ย้ำ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ไม่เท่ากับกาสิโน ลั่น ถูกบิดตีเป็นการเมือง
วันนี้(30 เม.ย.) เมื่อเวลา 17.50 น.โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย ถนนราชดำริ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ น.ส.แพทองธาร ชินวัคร นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ภารกิจพลิกฟื้นเศรษฐกิจ : Mission Thailand” ในงาน TNN DINNER TALK
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภารกิจพลิกฟื้นเศรษฐกิจจริงๆแล้วรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสสื่อสารผ่านช่องทางนี้ จริงๆโลกเราเปลี่ยนแปลงเร็วมาก อย่างวันนี้ตอนที่ตนได้รับเชิญให้มากล่าว ปาฐกถา เราต้องเตรียมหัวข้อจะพูดเศรษฐกิจอย่างไร จนกระทั่งถึงวันนี้ตอนเที่ยงยังมีการปรับในเรื่องของสคริปหรือหัวข้อที่พูด เพราะการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา จึงอยากสื่อสารให้ประชาชนได้มั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้น เศรษฐกิจต่างๆรอบโลกและในประเทศของเรา รัฐบาลได้รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงและรับรู้ ถึงปัญหาอุปสรรคและไม่พลาดที่จะมองในเรื่องของโอกาส แนวทางการแก้ไขปัญหาอุปสรรค การรับมือต่างๆเพราะนั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด เราต้องคอยมอนิเตอร์ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ในรอบโลกของเราและรอบโลกประเทศต่างๆตอบสนองอย่างไร
กับปัญหาที่เกิดขึ้น
แน่นอนอุปสรรคของการทำให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้นมีปัญหามายาวนานในประเทศเราและยังมีเรื่องของภาษีสหรัฐประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ไม่ใช่แค่ประเทศเรา ที่เป็นห่วงเรื่องนี้ แต่ทุกประเทศทั่วโลกเป็นห่วงเรื่องนี้เช่นกัน แต่เรามุ่งเน้น จะทำอย่างไรรับมืออย่างไรใช้ความสัมพันธ์ที่มีอยู่แล้วสร้าง Connection หรือการเจรจาอย่างไรได้บ้าง
นายกฯ กล่าวว่า กรณีมุมมองมูดีส์ ที่ออกมามองภาพประเทศไทย ปรับลดอันดับเครดิตของไทยจากที่มีเสถียรภาพไปสู่มุมมองเชิงลบ ต้องบอกว่าอันนี้ไม่ใช่การให้คะแนน แต่เป็นมุมมอง ถ้าเกิดปัญหาแบบนี้เศรษฐกิจแบบนี้ประเทศไทยจาก stable Negative จากที่มีเสถียรภาพไปสู่มุมมองเชิงลบ คือการเติบโตหรือศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจลดน้อยลงอยู่ใน Negative แต่ไม่ได้แปลว่าประเทศไทยขาดความเชื่อมั่นซึ่งปัจจัยในการวัดของเขาจะมีเรื่องกำแพงภาษีของสหรัฐที่เกิดขึ้น ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นกับทั่วโลกหลายประเทศ ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้มี Outlook ของประเทศต่างๆเช่นกันไม่ว่าจะเป็นกัมพูชา จอร์เจียโรมาเนีย ก็ถูกมองภาพที่เล็กลงเป็น Negative เหมือนเราเช่นกัน ซึ่งปัจจัยตรงนี้ ถ้าใครถูกมองในช่วงเวลานี้ ซึ่งยังไม่มีคำตอบ ก็ทำให้มุมมองนั้นปรับเปลี่ยนเป็น Negative ได้
นี่คือสิ่งหนึ่งแต่แน่นอน รัฐบาลได้เฝ้าดูอย่างใกล้ชิดในมุมที่เป็นห่วงคืออะไร ซึ่งจริงๆแล้วเขาบอกว่า จาก stable เป็น Negative มีสิทธิ์ที่จะทำให้เรตติ้งเป็น Negative ได้เช่นกันฉะนั้นก็ดูว่าข้อกังวลมีอะไรบ้าง สิ่งที่ต้องเตือนจริงๆแล้วเมื่อปี 2008 ประเทศไทยเคยถูกปรับมาแล้วจาก stable ไป Negative แล้วเราก็ปรับมาเป็น stable ใหม่ได้ ซึ่งอันนี้มูดี้จะมองว่าเศรษฐกิจเราอ่อนแอหรือไม่ศักยภาพในการเติบโตมีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเป็นสิ่งที่เขามอง เมื่อมีเรื่องกำแพงภาษีของสหรัฐ ทำให้ปั่นป่วนนโยบายของเรามากน้อยแค่ไหน
อีกอย่างเรื่องภาระหนี้ต่อเนื่องความขัดแย้งทางการเมืองเสถียรภาพทางการเมืองที่เกิดขึ้นทำให้เป็นอุปสรรคต่อการทำให้นโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเป็นไปได้ยากขึ้นหรือไม่ ส่งผลให้นโยบายสำเร็จได้ยากขึ้นหรือไม่ นี่คือสิ่งที่เขามองและรัฐบาลควรทำอย่างไร อย่างแรกเราต้องไม่ทำให้เขากังวลในสิ่งที่เขากังวลนี่คือสิ่งที่ชัดเจน เราจะต้องมีการเตรียมการทางเศรษฐกิจให้ผ่านจากมรสุมของทรัมป์ ลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้น จากกำแพงภาษี และสิ่งหนึ่งที่ต้องทำคือเรื่องของอนาคต มุ่งอนาคต มุ่งการหาเงินเข้าประเทศที่เกิดขึ้นจริงไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมในอนาคตที่เราลงทุนไปแล้ว รับการลงทุนเข้ามาแล้วไม่ว่าจะเป็น Data Center หรือ Google มาลงทุนเม็ดเงินเหล่านี้ที่เข้ามาในประเทศที่เราเคยประกาศไปแล้วเป็นสิ่งสำคัญ จะทำให้เศรษฐกิจเราขับเคลื่อนและเติบโตขึ้นได้
ฉะนั้นเราต้องทำให้มั่นใจว่าการที่ GDP ของเราจะเติบโตขึ้น 3-4% อย่างต่อเนื่องไม่ใช่ปีนี้หายไป ปีหน้าขึ้นความต่อเนื่องการเติบโตต้องทำอย่างเต็มที่และสิ่งที่เราต้องทำต่อคือการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการลงทุนต่างๆเมื่อเราสนับสนุนการลงทุนว่าจะมีการลงทุนใหม่ๆบริษัทต่างชาติก็ต้องมาจดทะเบียนในการตั้งบริษัท ซึ่งจะมีการลงทุนที่เข้ามาโดยเป็นการชักชวนให้นักลงทุนรายอื่นเข้ามาด้วยเช่นกันฉะนั้นสิ่งนี้รัฐบาลกำลังทำอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ปีที่แล้วเป็นต้นมาได้มีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้นในเรื่องของภาครัฐที่เร่งเรื่องการลงทุนนับได้ว่าการลงทุนของเรามากที่สุด 72% มากกว่าเดิมที่ผ่านมาในช่วงระยะเวลา 10 ปี เป็นการลงทุนจากภาครัฐ ซึ่งอนุมัติงบไปแล้วในกระทรวงต่างๆให้นำเงินเหล่านั้นเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดการจ้างงาน ซึ่งเราทำเต็มที่และได้ผลมาก กระทรวงได้รับเงินงบประมาณให้เกิดการจ้างงานเป็นสิ่งที่รัฐบาลทำตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้สิ่งที่รัฐบาลวิจัยการศึกษา การเกษตรทุกอย่างจะต้องลงทุนให้เพิ่มมากขึ้นและข้อสุดท้ายที่ต้องทำคือการพัฒนาคน ที่จะเป็นทรัพยากรสำคัญของประเทศ
สำหรับประเทศไทยทุกท่านอาจจะกังวลในปี 2567 ที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยเติบโตช้า GDP ทั้งปีอยู่ที่ 2.5% จะเห็นว่าไตรมาสสุดท้ายขยับเป็น 3.2% แสดงว่าการเร่งเครื่องเศรษฐกิจของเราเป็นไปอย่างต่อเนื่องและเกิดผล ซึ่งไตรมาสสุดท้ายเห็นแล้วว่าแนวทางจะต้องผลักดันอย่างนั้นต่อเนื่องไป แม้ว่าปีนี้จะมีอุปสรรคผ่านเข้ามาไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแผ่นดินไหวกำแพงภาษี แต่รัฐบาลก็หาทางออกและพยายามที่จะคุยกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐเอกชน ประชาชน คุยทั้งหมดเพื่อหาคำตอบที่เป็นประโยชน์จริงๆและเชื่อเสมอว่าภาครัฐหลายๆส่วนหลายๆมุมเราไม่รู้วิธีทำ แต่เราสามารถสนับสนุนให้เอกชนที่รู้ปัญหารู้แนวทางการลงทุน ทำงานร่วมกับภาครัฐเพื่อส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชนให้มากขึ้น เช่น เรื่องกำแพงภาษีเรามองว่าเอกชนที่ลงทุนในสหรัฐ มีอะไรบ้างและรัฐสามารถช่วยอย่างไรได้บ้าง เราจะต้องสนับสนุนผู้ประกอบการที่ไปลงทุนในต่างประเทศซึ่งที่ผ่านมายังไม่ได้มีนโยบายโดยตรงที่จะสามารถช่วยนักลงทุนคนไทยที่ไปลงทุนในต่างประเทศได้ ซึ่งตรงนี้อย่างมุ่งเน้นให้มากขึ้น ให้ภาคเอกชนเกิดความมั่นใจ และมีความเป็นเสถียรภาพมากขึ้น
นายกฯกล่าวว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจเราทำทั้งระยะสั้นระยะกลางระยะยาว โดยมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งปลดล็อคหนี้ มาตรการระยะสั้นจะเป็นตัวแปรดัน GDP ให้สูงขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกระตุ้นจับจ่ายใช้สอย สร้างโอกาสในการทำมาหากิน สิ่งเหล่านี้เป็นการต่อลมหายใจ ให้ธุรกิจรายเล็ก รายย่อยต่างๆสามารถมีพลังที่จะส่งเสริมธุรกิจของตัวเองต่อไปได้นอกจากมาตรการระยะสั้นรัฐบาลได้เตรียมการและมีโครงการต่างๆเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในระยะกลางและระยะยาวไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศแบบพุ่งเป้า เชื่อมไทยกับโลกเข้าหากันเพื่อให้ไทยและต่างประเทศมีโอกาสเชื่อมถึงกัน ซึ่งจะเป็นการต่อ
ยอดให้กับภาคเกษตรอุตสาหกรรมทุกด้าน รวมถึง การท่องเที่ยวให้กับประเทศไทย ซึ่งเราได้ทำโดยเฉพาะเรื่องรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ การก่อสร้างสนามบินและท่าเรือมีการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงโครงการแลนด์บีชที่จะสามารถเชื่อมต่อประเทศไทยกับต่างประเทศได้ ให้เราเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ รอเงินอรอนักลงทุนได้อีกเยอะ เนื่องจากเป็นการอำนวยความสะดวกแล้วยังเป็นการเพิ่มโอกาสเพิ่มเวย์ต่างๆ ให้ต่างประเทศมาลงทุนในประเทศไทย
รัฐบาลเน้นย้ำเรื่องให้ความสำคัญการลงทุนเรื่องการพัฒนาดิจิทัล เทคโนโลยีพัฒนาระบบการบิน เราอยากจะเป็นฮับการบิน เพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆให้กับนักท่องเที่ยวและนักลงทุน เราพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างต่อเนื่องที่เห็นอยู่ในเรื่องของโอดอสการให้ทุนการศึกษาแต่ทุนการศึกษาเป็นเรื่องระยะยาวในเรื่องของการลงทุน
ได้ศึกษาเรียนรู้จากบริษัทใหญ่ๆเพื่อให้อบรมคนไทยของเราสามารถเรียนทางลัดก้าวกระโดดพัฒนาสกิลของตัวเองให้สามารถทำงานในธุรกิจใหม่ๆได้ เราต้องทำเรื่องการศึกษาให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้นสามารถเตรียมความพร้อมสู่อนาคตได้ อันนี้ต้องทำควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่อง
นายกฯ กล่าวว่า การดึงดูดการลงทุน นักลงทุน การสร้าง Data Center โดยเฉพาะธุรกิจเรื่อง Data Center เป็นจำนวนเงินที่เราลงทุนถึง 243,308 ล้านบาท แสดงให้เห็นถึงความจริงจัง เราพยายามให้ธุรกิจเหล่านี้เข้ามาแล้วเกิดการจ้างงานใหม่ๆ เกิดสเกลใหม่ให้คนไทยของเรา
นอกจากนี้โครงสร้างเหล่านี้จะมีการสนับสนุนการค้าการลงทุนภาคการผลิตของเรา ซึ่งแข็งแรงอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นการเกษตร อาหารหรือการบริการ เป็นสิ่งที่เราเป็นจุดแข็งขณะที่ประเทศจีน เขาทำการเกษตรเช่นกัน เราก็คิดว่าจะแข่งกันอย่างไร จริงๆแล้วพื้นที่การเกษตรในประเทศจีนไม่ได้เพียงพอต่อประชากรต่อประเทศของเขา ซึ่งอย่างไรเราก็สามารถมีตลาดที่จะส่งออกการเกษตรของเราได้ เป็นสิ่งที่จีนจะต้องมีการซื้อขายกับเราอยู่ดี ฉะนั้นการทำวิจัยต่างๆเพื่อพัฒนาสินค้า เป็นสิ่งสำคัญมาก เช่น ทุเรียนดังของเราเดี๋ยวนี้หลายประเทศเริ่มผลิตข้าว ผลิตกันเยอะ อย่างปีนี้หลายประเทศทั้งอินเดียด้วยก็ผลิตข้าวเองและส่งออกด้วยฉะนั้นคู่แข่งจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราไม่พัฒนาสินค้าเกษตรของเราก็จะอยู่ที่เดิมเพื่อนบ้านก็จะวิ่งแซงเราหมดฉะนั้นอันนี้ต้องทำควบคู่กันไปเราทำหลายๆอย่างเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว ทั้งเมืองหลักเมืองรอง เราเป็นประเทศที่สวยงามคนไทยมีเซอร์วิสที่เป็นจุดขายไม่สามารถลอกเลียนแบบกันได้
นี่คือจุดแข็ง เพิ่มเรื่องฟรีวีซ่าให้คนมาอยู่ได้นานมากขึ้นและรัฐบาลยังจับมือกับประเทศในอาเซียน เมื่อไปประเทศต่างๆได้วีซ่าสามารถไปประเทศอื่นได้จับกลุ่มจับก้อนได้อถ้าเทียบเป็นแพ็คเกจหลายประเทศเราจะมีความสะดวกสบายให้ อันนี้เป็นสิ่งที่ทุกประเทศเราจับกลุ่มด้วย ร่วมมือกันอย่างดี จากการไปกัมพูชาล่าสุดเขาอยากทำ 2 ประเทศ หากอยากไปไหว้พระสามารถมาไหว้พระที่ประเทศไทยต่อด้วยกัมพูชาได้เช่นกัน อันนี้เป็นสิ่งที่ได้ตกลงกันและน่าจะทำให้เกิดผลได้เร็วๆนี้ แต่ในเรื่องการท่องเที่ยวถึงจุดหนึ่งก็จะถึงทางตัน ซึ่งจะมี High season และ Low season อยู่ตลอด
ฉะนั้นที่รัฐบาลสนับสนุนเรื่อง Entertainment Complex เราต้องพูดก่อนว่า Entertainment Complex ไม่เท่ากับกาสิโนซึ่งเป็นส่วนไม่ถึง 10% หรือไม่เกิน 10% ของพื้นที่ Entertainment Complex ทั้งหมด คนไม่ฟัง Entertainment comment ได้ยินแต่กาสิโน ไม่แปลกใจ เป็นเรื่องของการบิดทางการเมือง เป็นเส้นทางการเมืองจะตีนโยบายให้เกิดกับประเทศได้อย่างไรบ้าง อันนี้เป็นเกมการเมืองถามว่าเรามาทำการเมืองเชิงสร้างสรรค์ว่าถ้าสร้าง Entertainment Complex จริงประเทศไทยได้อะไรอย่างแรกประเทศไทยไม่ได้เสียอะไรเพราะรัฐไม่ได้ลงทุนเป็นเอกชนและเอกชนต่างชาติเข้ามาลงทุน รัฐบาลเก็บภาษีได้ นี่คือสิ่งแรก
ปัจจุบันตอนนี้เรื่องเงินตนกำชับทุกกระทรวงการใช้จ่ายต้องคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์อันนี้ เอกชนลงทุนหมด ถ้าถามว่าทำไมสร้าง Entertainment ไม่ต้องมีกาสิโนได้ไหม ถ้าเราสร้าง Stadium ขายเท่าไหร่ถึงจะคุ้มทุนในการสร้างขายตั๋วกี่ใบถึงจะพอค่าก่อสร้างทั้งหมดคงขายอีกนาน แต่เรื่องกาสิโนเราสามารถใช้เงินตรงนี้มาหมุนมาใช้ในเรื่องการก่อสร้างเหล่านี้ได้ คิดมากกว่าไปกว่านั้นหากมุมมอง Entertainment compet เจอโรงแรมเทรนใหม่ๆเจอเรื่องของพื้นที่ในการจัดคอนเสิร์ตเป็นสถานที่ Family ลูกตน 2 ขวบถึง 4 ขวบก็พาไปได้เราก็ไม่พาไปชั้นกาสิโนเด็กๆเราพาไปสวนน้ำไปดูคอนเสิร์ตไปทำกิจกรรมต่างๆมากมายที่มีในนั้นซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถ Enjoy ทั้งครอบครัวถ้าเคยไปสิงคโปร์จะเห็นอยู่แล้วมี โรงแรมมากมายที่อยู่ในนั้น
เราสามารถฝันได้ทุกคนไปเมืองนอกและคิดหรือไม่ว่าประเทศเขาตรงนี้ ตรงนั้นมันสวย Museum เขาสวยใน Entertainment Compact ก็มีมิวเซียมที่สามารถโชว์วัฒนธรรมของเราได้เราไปต่างประเทศทำไมของเขาสวยทำไมบ้านเราไม่มีแฮร์รี่พอตเตอร์ไปจัดเต็มทุกอย่างเขาดีมากคอนเสิร์ตมีนักร้องดังไปที่ประเทศนั้นๆเพราะเขามีสเตเดียมมีที่จัดคอนเสิร์ตที่ใหญ่พอสามารถจะคอนเสิร์ตและคุ้มในการจัดคอนเสิร์ตของเขาขายตั๋วได้ราคาแพงและปริมาณมาก อันนี้เป็นสิ่งที่เราฝันได้เลยถ้าเกิดขึ้นมันก็จะสร้างการเกิดรายได้อย่างมากมายให้คนในประเทศไม่ว่าจะเป็นการจ้างงานต่างๆอาชีพใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นการจ้างงานคนตกงานจะน้อยลงอย่างมากที่สำคัญเราจะสามารถฝันได้ว่าที่เราเห็นที่เมืองนอกต่างๆจะเกิดขึ้นในประเทศไทยไม่ว่า จะเป็นการจัดงานคอนเสิร์ตดังๆตอนนี้ญี่ปุ่นทำแล้วที่คนไทยชอบไปไปดู Expo ที่โอซาก้าก่อนนั้นคือก่อนที่เขาสร้างขึ้นมาหลังเบลอเขาจะเคลียร์แล้วทำ Entertainment Complex ซึ่งประกาศออกมาแล้วในปี 2025 แล้วเสร็จในปี 2030 อีก 5 ปีที่ญี่ปุ่นทำเสร็จทำไมไม่ทำแบบเวกัสเฉพาะสิงคโปร์เป็นรูปแบบที่เราดูจากหลายประเทศเรามีบทเรียนมีการศึกษาเป็นอะไรที่สามารถเป็น Family จริงๆ
ทำให้ประเทศไทยของเราไม่ต้องมีโลเคชั่นอีกต่อไปเป็น High Season ตลอดปีคิดสภาพบางโรงแรมบางที่จะขายบังเอิญก่อนเข้ากับเมืองดิฉัน มีโรงแรมใจจริงๆแต่เมื่อไม่มีโลเคชั่นต่างชาติเข้ามาเราเป็น High Season ได้ตลอดทั้งปีที่สำคัญบางคนบอกแล้วการเล่นการพนันจะเป็นการมอมเมาพนันหรือไม่เรามีกฎหมายที่จะรองรับสิ่งเหล่านี้บางคนมองว่ากฎหมายประเทศไทยไม่จริงจังเบาไป ถ้าของเราถ้าใครทำผิดกฎหมาย ซักฟอกเงินต่างๆเรามีการดำเนินคดีของเราและเขาเองก็ถูกดำเนินคดีในประเทศเขาเช่นกันเราเคยไปบางประเทศเรื่องนี้เรื่องนั้นชิวๆจะไปประเทศอื่นกับตัวเพราะเรากลัวกฎหมายของบ้านเขาฉะนั้นเราก็ล็อคไว้สัก 2 ทางทั้งกฎหมายประเทศเราและประเทศเขาก็คงกันได้การที่คนจะเข้าไปเล่นคาสิโนต้องมีหลักทรัพย์ที่สามารถเข้าไปเล่นได้ไม่ใช่ใครก็ได้เดินเข้าไปเล่นหวังแจ็คพอคได้เงิน 30 ล้านกลับมาทำอย่างนั้นไม่ได้เราจะมีประวัติมีการเช็คต่างชาติและคนไทยว่ามีหลักทรัพย์มีสิ่งที่สามารถเข้าไปเล่นแล้วไม่ทำเรื่องผิดกฎหมายอันนี้เป็นสิ่งที่ต้องวางไว้อย่างรอบคอบ
นอกจากนี้เรื่องอุตสาหกรรมยานยนต์จากสนับสนุนให้เราเป็นฮับของอุตสาหกรรมยานยนต์เช่นกัน ตอนนี้ อุตสาหกรรมนี้เผชิญกับความไม่แน่นอน จึงสนับสนุนให้เปลี่ยนเป็น Hybrid หรือรถไฟฟ้า EV หรือเป็นสิ่งที่รัฐบาลสนับสนุนให้เปลี่ยนผ่านต่อไป ทั้งหมดนี้จะเป็นเรื่องการลงทุนภาพรวมเศรษฐกิจที่รัฐบาลมองเห็นและทราบถึงปัญหาอุปสรรคทั้งในประเทศและนอกประเทศที่เกิดขึ้นโดยเรามีการพูดคุยกัน อย่างเรื่องกำแพงภาษีของสหรัฐเป็นสิ่งที่ทุกคนรู้สึกเป็นห่วงเราได้คุยแบบไม่ official เสมอไม่มีการขาดตอนขอยืนยันได้
ถ้าเราทำดี เป็นสิ่งที่คิดทางการเมืองในปัจจุบันมากจะดิลลับหรืออะไรก็ตามสหรัฐมีคนเข้ามาดิลด้วยในเรื่องกำแพงภาษีจากหลายประเทศมากมาย ถามว่าเขาคงไม่สามารถเปิดเผยได้เช่นกันประเทศต่างๆก็ไม่สามารถพูดผ่านไมค์ได้ว่าจะทำ 1 2 3 4 เพราะไม่ใช่การดิล การคุยกันหรือการตกลงกันเป็นสิ่งที่จำเป็นโดยเฉพาะเรื่องสำคัญๆเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากเรามีการเจรจาต่อรองในเรื่องของประเทศเราและจากกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อให้การต่อรองของเราเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นและมีอำนาจในการต่อรองมากยิ่งขึ้นอันนี้คือสิ่งที่รัฐบาล work ทั้ง 2 ทางอย่างเข้มข้นและไม่ได้ปล่อยมือไปไหนขอให้ประชาชนที่ฟังอยู่มั่นใจว่าเรามีคนเก่งๆมีทีมเก่งทั้งภาครัฐและเอกชนไม่ใช่รับทำอยู่คนเดียวร่วมมือคำปรึกษากับภาคเอกชนด้วยเพื่อให้การเจรจาต่อรองเกิดผลมากที่สุด และกระทบน้อยที่สุดกับประเทศของเรา ฉะนั้นเศรษฐกิจที่มั่นคงชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนคือเป้าหมายหลักที่สำคัญของรัฐบาล วันนี้ตนให้ความมั่นใจว่ารัฐบาลทำเรื่องนี้อย่างจริงจังเพราะหาแนวทางต่างๆเพื่อเพิ่มโอกาสให้กับประเทศไทยของเราต่อไปต้องขอบคุณทุกท่านที่มารับฟังรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้พูดให้ฟังในวันนี้ขอให้ทุกท่าน Enjoy กับอาหารและหวังว่าจะได้มีโอกาสพูดคุยกันอีก