”อิ๊งค์“ นั่งหัวโต๊ะถก ครม.สัญจร อุดหนุนสินค้าโอทอป ด้าน 6 รมต.ลาประชุม จับตานครพนม-สกลนคร-มุกดาหาร ชงโครงการ ครม.ไฟเขียวพัฒนาพื้นที่
เมื่อเวลา 10.25 น.วันที่ 29 เม.ย.ที่หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม จ.นครพนม ต.นาราชควาย อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2/2568 (ครม.สัญจร) โดย นายกฯ และ ครม.สวมชุดศรีโคตรบูร ชุดพื้นเมืองจ.นครพนม ตัดเย็บจากผ้าไหมพื้นเรียบย้อมสีธรรมชาติ สีกรมท่า ตกแต่งด้วยผ้าไหมมัดหมี่ “ลายขอก่ายแก้ว” สื่อความหมายถึงความเป็นมงคลความเจริญรุ่งเรือง และความมั่นคง โดยวันนี้นายกฯมีท่าทางและสีหน้าที่สดชื่นขึ้น
โดยก่อนการประชุม นายกฯ เยี่ยมชมนิทรรศการ ชมสินค้าโอทอป จ.นครพนม และจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนต่างๆ อาทิ ลิ้นจี่นครพนม ผลไม้ GI กาละแมครูน้อย กลุ่มจักสานบ้านหนองหนาด พร้อมอุดหนุนกระเป๋าสานใบใหญ่ จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ชุมชนจักสานเส้นกกเหลาพัฒนา กระติ๊บรูปหัวใจ ไม้กวาดจากดอกหญ้าขนตาช้าง และผ้าไหมสามกษัตริย์ เพื่อเป็นกำลังใจ ให้กับผู้ประกอบการ ก่อนถ่ายภาพร่วมกับ ครม. ผู้ว่าราชการจังหวัดกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2 และผู้แทนภาครัฐ
สำหรับการประชุมวันนี้มีรัฐมนตรีลาการประชุม ได้แก่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รมช.พาณิชย์
โดยวาระที่น่าสนใจ ที่ จ.สกลนคร และมุกดาหาร จะเสนอให้ ครม.พิจารณา อาทิ โครงการที่มีความพร้อมและสามารถดำเนินการภายใน 1 ปี เช่น โครงการพัฒนาพื้นที่ริมแม่น้ำโขงในนครพนม, โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว “Geo Park Center at Tha Uthen”, โครงการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มุกดาหาร และ 5 โครงการ ตามข้อเสนอภาคเอกชน วงเงิน 200 ล้านบาท เช่น โครงการมหานครพฤกษเวชเพื่อรองรับการท่องเที่ยวสุขภาพลุ่มน้ำโขง, งานปรับปรุงถนนสายสำคัญ, การยกระดับเทศกาลเรือไฟไทยสู่เวทีโลก
ขณะที่ กระทรวงการคลัง เสนอออกสลากการกุศล กระทรวงพาณิชย์ เสนอ แก้ไขข้อตกลงศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น ด้านกระทรวงการต่างประเทศ ผลักดันความร่วมมือไทย-อินโดนีเซีย กระทรวงคมนาคม เตรียมลงนามร่างบันทึกความร่วมมือระบบรางไทย-ญี่ปุ่น เป็นต้น
