xs
xsm
sm
md
lg

“สุชาติ” นำทีมพาณิชย์ลุยนครพนม ชู FTA หวังดันส่งออก Soft Power ข้าวแปรรูป-ผ้าทอพื้นเมือง โกยเงินเข้าประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สุชาติ” นำทีมพาณิชย์ลุยนครพนม ดูตลาดสินค้าท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ข้าวแปรรูป ผ้าทอพื้นเมือง ไม้มงคล เล็งใช้ FTA ผลักดันส่งออก เป็น Soft Power โกยเงินเข้าประเทศ

เมื่อวันที่ 28 เมษายน 68 ก่อนการประชุม ครม.สัญจร นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำทีมผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ บุกตลาดสินค้าท้องถิ่นนครพนม บริษัท ข้าวคุณแม่ ฟู้ดแอนด์เบเวอร์เรจ จำกัด อำเภอธาตุพนม ผู้ผลิต แปรรูป และส่งออกสินค้าข้าวและผลิตภัณฑ์ และวิสาหกิจชุมชนทอผ้าพื้นเมืองบ้านหนองสังข์ อำเภอนาแก ผู้ผลิตผ้าทอฝ้ายย้อมสีธรรมชาติจากพืชสมุนไพรและไม้มงคลสืบทอดภูมิปัญญาพื้นถิ่น โดยเร่งใช้ประโยชน์ FTA ขยายการส่งออก เตรียมตัวรองรับ FTA ฉบับใหม่ๆ และหาช่องทางการตลาดทั้งในและต่างประเทศ


นายสุชาติ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจสู่ความยั่งยืน และสนับสนุนผู้ประกอบการสินค้าเกษตรแปรรูป และสินค้าท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ตามนโยบายรัฐบาล Soft Power สินค้าไทยสู่ตลาดโลกของนายกรัฐมนตรี (นางสาวแพทองธาร ชินวัตร) และในโอกาสที่เข้าร่วมประชุม ครม.สัญจร ณ จังหวัดนครพนม ตนได้ลงพื้นที่พบหารือกับผู้ประกอบการ บริษัท ข้าวคุณแม่ ฟู้ดแอนด์เบเวอร์เรจ จำกัด อำเภอธาตุพนม ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวอินทรีย์ไปตลาดฮ่องกงและสิงคโปร์ และนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมายกระดับการผลิตข้าวให้มีคุณภาพและมาตรฐาน ทำให้ผลผลิตที่ออกมามีตลาดรองรับและจำหน่ายได้ราคาสูง โดยผู้ประกอบการแจ้งว่า ต้องการขยายการส่งออกไปตลาดสหภาพยุโรป โดยตนจึงได้แจ้งว่า ปัจจุบันไทยได้จัดทำลงนาม FTA ไทย-EFTA เอฟตา หรือ สมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป (European Free Trade Associations : EFTA) ประกอบด้วย 4 ประเทศ คือ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ และอยู่ระหว่างกระบวนการภายในประเทศเพื่อให้ความตกลงมีผลบังคับใช้ ซึ่งเป็นประเทศในยุโรปที่มีกำลังซื้อสูง โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทยที่จะได้ประโยชน์ อาทิ อัญมณีและเครื่องประดับ นาฬิกา และส่วนประกอบ เหล็กและผลิตภัณฑ์ อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป เครื่องใช้สำหรับเดินทาง เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ แผงควบคุมกระแสไฟฟ้า เครื่องสำอาง เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์พลาสติก รวมถึงสินค้าข้าว นอกจากนี้ ไทยยังอยู่ระหว่างการเจรจา FTA ไทย-EU ซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปผลการเจรจาได้ภายในปี 2568 จะที่เป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการเข้าถึงตลาดสหภาพยุโรป 27 ประเทศ สร้างแต้มต่อให้กับผู้ประกอบการไทยสามารถซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ไทยยืนหนึ่งในเวทีการค้าโลก และเป็นเครื่องมือในการแข่งขันทางการค้ากับประเทศอื่นๆ ได้อย่างยั่งยืน


นายสุชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนได้ประชุมกับผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนทอผ้าพื้นเมืองบ้านหนองสังข์แบรนด์ กะเลิงคราฟ อำเภอนาแก ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าผ้าทอและผลิตภัณฑ์ เช่น ผ้าคลุมไหล่ลายขิดย้อมไม้มงคล ผ้าซิ่นมัดหมี่ ซิ่นมัดหมี่ย้อมคราม ผ้าสไบลายขิด ผ้ามุกลายขิด ผ้าฝ้าย ผ้าพื้นหลากสี และผ้าฝ้ายย้อมคราม เป็นต้น โดยผ้าทอที่นี่มีความโดดเด่น มีลวดลายการทอโบราณที่สืบสานและถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นมากว่า 100 ปี เป็นผ้าลายขิดโบราณที่ย้อมด้วยสีธรรมชาติจากพืชสมุนไพรและและไม้มงคล อาทิ ไม้ประดู่ ไม่สัก กันเกรา แก่นขนุน และดอกคำแสด ใช้วัตถุดิบและกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดปัจจุบัน ซึ่งผู้ประกอบการต้องการตลาดจำหน่ายเพิ่มเติม โดยตนจึงได้มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดและหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์ร่วมกันส่งเสริมผู้ประกอบการให้เข้าถึงตลาดออนไลน์และออฟไลน์ทั้งในและต่างประเทศ และควบคู่กับการประชาสัมพันธ์สินค้าของดีในพื้นที่ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง


“กระทรวงพาณิชย์ มุ่งร่วมผลักดันนโยบาย Soft Power ของท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร อย่างเต็มที่ โดยพัฒนาผู้ประกอบการสินค้าท้องถิ่นทั้งเกษตรแปรรูปและสินค้าที่ส่งเสริมอัตลักษณ์ไทยให้เติบโตเป็นผู้ส่งออก โดยผลิตสินค้าที่เชื่อมโยงกับการให้มีการนำนวัตกรรม เทคโนโลยี และงานวิจัยมาต่อยอดในกระบวนการผลิตสินค้า คำนึงเรื่องการและใช้วัตถุดิบธรรมชาติในท้องถิ่น แรงงานฝีมือคนไทยเป็นจุดขาย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เน้นเรื่องความคุ้มค่าและการพัฒนาสู่ความยั่งยืน พร้อมกันนี้ ควบคู่ไปกับการหาตลาดต่างประเทศรองรับ โดยเฉพาะจากประเทศที่เรามีการจัดทำ FTA ไว้ กระทรวง ให้ความสำคัญกับการช่วยผู้ประกอบการเรื่องการขยายช่องทางตลาดเพิ่มเติม ผลักดันการใช้ประโยชน์จาก FTA ที่ไทยจัดทำไว้ และเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการใช้ FTA ฉบับใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อนำสินค้าแบรนด์ไทยเข้าสู่ตลาดใหม่ๆ เช่น สหภาพยุโรป เกาหลีใต้ และแคนาดา เป็นต้น” นายสุชาติ กล่าวทิ้งท้าย






กำลังโหลดความคิดเห็น