“ทักษิณ”เอาไม่อยู่ ไฟใต้ร้อนผิดสังเกต!?

เมืองไทย 360 องศา

สังเกตหรือไม่ว่า ตั้งแต่ที่พรรคเพื่อไทย และตั้งแต่ที่นายทักษิณ ชินวัตร เข้ามามีบทบาททั้งในรัฐบาล และเข้ามาบริหารจัดการปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเต็มตัว กลับกลายเป็นว่าสถานการณ์ความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นทุกวัน แม้ว่าล่าสุด เขาย้ำว่า“เอาอยู่” ก็ตาม

โดยในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุร้ายร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดปัตตานี และจังหวัดยะลา ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บหลายราย เริ่มเมื่อวันที่ 27 เมษายน เวลาประมาณ 22.00 น. มีคนร้ายใช้อาวุธปืน ไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงสมาชิกอส. ชุดคุ้มครองตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นาย

จากนั้น วันที่ 28 เม.ย. 2568 เวลา 00:40 สภ.บันนังสตา จังหวัดยะลาได้รับแจ้งจากอำเภอบันนังสตา เกิดเหตุ คนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงใส่ อส.บันนังสตา อส.ธีรวุฒิ พุทธรัตน์ อายุ 34 ปี ขณะมาซื้อของที่ร้านขายของชำริมถนนสาย 410 ยะลา-บันนังสตา จนเสียชีวิต และจากนั้น ได้เกิดการยิงปะทะ และยิงโจมตีฐาน ชคต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตาฯ และคนร้าย ได้วางเพลิงเผารถยนต์ส่วนตัว ยี่ห้อซูซูกิ สวิฟท์ ของ อส.ธีรวุฒิ เสียหายทั้งหมด รวมทั้งร่างของ อส.ธีรวุฒิ ถูกเผาไหม้ในรถยนต์ด้วย

เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นหน้าร้านขายของชำ ซึ่งอยู่ห่างจากฐานปฏิบัติการของ อส.300 เมตร เบื้องต้น จนท.ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบเหตุการณ์วันที่ 28 เมษายน เวลา 09.30 น. เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 4412 สังกัด ฉก.ตชด.44 ร้อย.ฉก.ตชด.4412 (มว.ฉก.ตชด.4412) ร.ร.บ้านศรีท่าน้ำ ต.ธารโต อ.ธารโต จ.ยะลา เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย

หรือก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายลอบยิงพระสงฆ์ ขณะออกบิณฑบาตร ที่อำเภอสะบ้าย้อยจังหวัดสงขลา ทำให้สามเณรเสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสลดใจให้กับชาวบ้านและคนไทยที่รับรู้เรื่องราว อีกด้านหนึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ ได้กลับมาอีกครั้ง และยังเป็นช่วงที่นายทักษิณ ชินวัตร ได้เข้ามามีบทบาทนำในการแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยเขายังใช้ความสัมพันธ์พิเศษกับ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน โดยเขาได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 เมษายน นายทักษิณ กล่าวถึงความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า จะใช้ความสัมพันธ์ที่มีกับ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในการแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ตอนนี้เรากำลังจัดองคาพยพของเรา เพราะเรารู้ปัญหาเยอะ และคิดว่าคงจะมีการพูดคุยกัน ในเรื่องของความมั่นคง เพื่อให้สามารถเข้าใจตรงกัน และสามารถเดินหน้าได้

“พยายามทำเต็มที่ อย่างน้อยปีนี้ทุกอย่างต้องเบาบาง หรือไม่ก็นำไปสู่จุดที่เป็นสันติภาพ” นายทักษิณ กล่าว

เมื่อถูกถามถึงกรณีที่เกิดเหตุความรุนแรงกับพระ และเณร นายทักษิณ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่อุสตาซคนหนึ่งถูกลอบยิง และเขาเข้าใจว่า เจ้าหน้าที่เป็นคนทำ ซึ่งไม่ใช่เจ้าหน้าที่ เราก็พยายามดูเรื่องนี้ ส่วนอีกกรณีที่หนีไปอยู่รัฐกลันตัน

“ตอนนี้กำลังตามตัว คิดว่าเอาอยู่” นายทักษิณ กล่าว

ขณะที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ได้มอบหมายให้ ผบ.ทบ. ปรับแผนทำงานเชิงรุกมากขึ้น ซึ่งทั้งทหารและ ตำรวจได้ประชุมร่วมกับหน่วยต่างๆ ในพื้นที่แล้ว ไม่มีปัญหาใดๆ สามารถดำเนินการได้อย่างเต็มที่ โดยให้รายงานความคืบหน้า และ รายละเอียดเพิ่มเติมต่างๆ ภายใน 7 วัน ซึ่งไม่ได้กำหนดว่า ภายใน 7 วันนี้ ต้องจบ แต่เพื่อให้รายงานความคืบหน้าเพื่อติดตามสถานการณ์ อย่างใกล้ชิด รวมทั้งเพื่อให้หน่วยในพื้นที่ตื่นตัวในการปฏิบัติมากขึ้น ซึ่งหลังจากนี้ทุกอย่างจะเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

“ยอมรับว่า ปัญหาชายแดนภาคใต้ มีข้อมูลจำนวนมาก และ ไม่ตรงกัน ซึ่งจะต้องมีการคุยกันอีกครั้ง และยอมรับว่า ร้อนใจ”

ถามถึงมติครม. ที่สั่งการให้หาแนวทางยกเลิกการประกาศใช้กฎอัยการศึก ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ นายภูมิธรรม ยืนยันว่า ครม.ยังไม่มีมติให้ยกเลิก แต่เป็นเพียงข้อเสนอของภาคเอกชน ที่เห็นว่า สถานการณ์เป็นปกติแล้ว และ เพื่อให้การทำกิจการค้าขายดีขึ้น จึงมีข้อเสนอนี้ ให้ ครม.พิจารณา และได้หารือไปแล้ว แต่ล่าสุดกลับมีเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นอีก จึงต้องทบทวนข้อเสนอใหม่อีกครั้ง ทำให้การหารือกันที่นัดหมายไว้เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องเลื่อนออกไปก่อน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ แก้ปัญหาในพื้นที่ก่อน

“ไทยต้องการพูดคุยกับผู้นำตัวจริงของกลุ่ม BRN เท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นตัวจริงหรือไม่ แต่พบว่า กลุ่มนี้ ไม่มีอำนาจในการหยุดยั้งสถานการณ์ โดยเฉพาะการกระทำที่รุนแรงได้ เมื่อทำไม่ได้ก็ไม่รู้จะคุยอย่างไร ซึ่งขณะนี้เร่งประสานกับหลายฝ่าย ต้องพิจารณาว่ามีส่วนใดบ้างที่จะทำให้การพูดคุยบรรลุผล”

แม้ว่าทางฝ่ายรัฐบาล และนายทักษิณ ชินวัตร จะหาแนวทางในการแก้ปัญหาชายแดนใต้ ทั้งการประสานความร่วมมือกับฝ่ายมาเลเซีย โดยนายทักษิณ อ้างความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ใกล้ชิด มีการพูดคุยกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดน แต่ทุกอย่างกลับเลวร้ายลงกว่าเดิม และดูเหมือนกับว่า“ไฟใต้” กำลังกลับมาลุกโชนอีกครั้ง ซึ่งหากสังเกตจะเห็นว่ามีเหตุร้ายเกิดขึ้นแทบจะรายวัน และรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ!!