จบไปแล้วสำหรับสนามเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 8 จ.นครศรีธรรมราช และผู้ชนะในศึกครั้งนี้ก็คือ เด็กจากค่ายผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า จากพรรคกล้าธรรม ที่ต้องบอกว่า จุดเริ่มต้นในการลงรับสมัครเลือกตั้งในครั้งนี้ ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ และเจอคู่ต่อสู้จากพรรคภูมิใจไทยที่ดูเหมือนว่า จะเหนือกว่าทุกมุมด้วย จนหลาย ๆ คนมองว่า คนที่จะรักษาเก้าอี้ สส.เขตนี้ไว้ได้อีกครั้ง ก็คงเป็นสามีของอดีต สส.ของภูมิใจไทย
แต่เมื่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เริ่มขยับพร้อมประกาศปักธงแรกที่นี่ ทำเอาบรรดาเซียนการเมืองหลายคนเริ่มไม่มั่นใจเหมือนก่อน เพราะ ร.อ.ธรรมนัส คือสิงห์สนามเลือกตั้งซ่อม หลายต่อหลายครั้งตั้งแต่สมัยยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ผู้กองนัสไม่เคยพลาดเป้า ด้วยบุคลิกจริงจัง ดุดัน และแข็งกร้าว ในเวลางานเราแทบไม่เคยเห็นท่าทีหยอกเย้า หรือคุยเล่นจากผู้กองนัส ต้องรอจนเสร็จภารกิจถึงจะมีเสียงหัวเราะและรอยยิ้มเปื้อนบนใบหน้าบ้าง
สิ่งที่ สส.พรรคกล้าธรรม มีเหนือกว่าพรรคอื่น ๆ ก็คือ การเข้าถึงเจ้านายได้แบบไม่มีพิธีรีตรอง“ผู้กองนัส”ใช้วิธีปกครอง สส.ในพรรคแบบหัวหน้าครอบครัว ใครอยากคุย อยากขอ ก็เดินเข้าไปหา ไม่ต้องรอหน้าห้องเท็จทูล ไม่ต้องผ่านชนชั้นวรรณะ ทำให้“พรรคกล้าธรรม”มีหัวขบวนใหญ่สุดเพียงคนเดียว ไม่มีก๊วน ไม่มีมุ้ง เพราะไม่มีประโยชน์ใด ๆ สุดท้ายแล้วคนที่ชี้ขาดทุกอย่างคือ ร.อ.ธรรมนัส และศึกครั้งนี้ก็เช่นกัน
ส่วนอีกคนหนึ่งที่ถือเป็นกำลังสำคัญในศึกครั้งนี้ก็คือ“ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว”หรือที่คนพื้นที่รู้จักกันดีก็คือ“บอสกฤต”สส.สงขลา จากพรรคกล้าธรรม ที่มีความสนิมสนมกับ“บิ๊กโอ”เป็นพิเศษ ดังนั้น คนนครฯจึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทำไมถึงได้พบเจอ“บอสกฤต”ในพื้นที่ตลอดช่วงการหาเสียงที่ผ่านมา และการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งที่ 4 ติดต่อกันแล้วของ“บอสกฤต”โดยครั้งแรกเจ้าตัวได้ส่งพ่อของตัวเอง”ชินกฤต นาคสั้ว“ไปนั่งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าเสม็ด ถัดมาก็ส่งตัวเองเข้าไปนั่งในสภาฯได้อย่างสง่างาม
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา“บอสกฤต“ประสบความสำเร็จจากการส่งภรรยาสุดที่รัก “มาดามเรย์” กฤตพร คงเคว็จ คว้าเก้าอี้ ส.อบจ.สงขลา เขต อ.สทิงพระ มาครองได้ และเมื่อวานนี้ก็ได้เฮอีกครั้งกับการส่ง“บิ๊กโอ”เข้าไปเป็นผู้แทนฯของชาวนครฯเขต 8 และเป็น สส.คนที่ 25 ของพรรคกล้าธรรม
ด้วยความที่ ”บอสกฤต“เป็นคนนครศรีฯการเลือกตั้งครั้งนี้จึงสามารถช่วยเรื่องฐานเสียงได้มาก บวกกับที่เป็นขวัญใจของคนรุ่นใหม่ในพื้นที่ ไปที่ไหนเสียงกรี๊ดจึงดังไม่แพ้”บิ๊กโอ“ความไม่ถือตัว พูดคุยเป็นกันเอง และใกล้ชิดประชาชน นี่คือสิ่งที่ทำให้”ชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว“สามารถกุมหัวใจของคนที่นี่ได้
และที่ขาดไม่ได้ก็คือพระเอกของงานอย่าง“บิ๊กโอ” ก้องเกียรติ เกตุสมบัติ อดีต สจ.เขต อ.ฉวาง ทุกครั้งที่ลงพื้นที่จะพบเห็นชาวบ้านเข้ามากอด มาหอม ให้กำลังใจกันมาก สอบถามคนพื้นที่ก็ได้ความมาว่า บิ๊กโอ เป็นคนใจนักเลง ถ้ารับปากแล้วทำอย่างที่พูด ไม่ราคาคุย ไม่กร่าง ไม่โชว์พาวเวอร์ ในทางกลับกัน“บิ๊กโอ”อาจจะเป็นคนพูดน้อย ซึ่งมีบุคลิกคล้าย ๆ ”ผู้กองนัส“กล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจ พูดน้อย ทำเยอะ และมีเพื่อนเยอะ
3 ปัจจัยดังกล่าว ส่งผลให้วันนี้พรรคกล้าธรรมมี สส.อย่างเป็นทางการ 25 คนแล้ว แต่ในอนาคตน่าจับตามองพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ จะเป็นศึกห่ำหั่นกันอย่างหนักสำหรับ“พรรคภูมิใจไทย - พรรคกล้าธรรม - พรรคประชาธิปัตย์”รวมถึงต้องเกาะติด“ร.อ.ธรรมนัส”อย่างใกล้ชิด เพราะหากพิจารณาจากขุนพลข้างกายที่มีอยู่ในมือขณะนี้ ดูเหมือนว่า เจ้าตัวจะให้ความสำคัญกับจังหวัดในแถบภาคใต้เป็นพิเศษ
