xs
xsm
sm
md
lg

สานพลังพัฒนาภาคการเกษตรตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง สู่เศรษฐกิจสีเขียว เสริมแกร่งการผลิต-การตลาด สู่เกษตรกรรุ่นใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กปร. -ธ.ก.ส. ผนึกกำลังต่อยอดผลผลิตการเกษตร สู่เศรษฐกิจสีเขียว ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง เดินหน้าขยายผลองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริ ทำสมาร์ทฟาร์มเมอร์ สู่รั้วการผลิตเพื่อสิ่งแวดล้อม สร้างรากฐานความมั่นคงภาคเกษตรของประเทศอย่างยั่งยืน

นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “การเสริมพลังความร่วมมือและเชื่อมโยงเครือข่ายตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) ร่วมกับ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ณ ห้องประชุมสำนักงาน กปร. ว่าความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานด้านการตลาดของเกษตรกรเครือข่ายของโครงการ
อันเนื่องมาจากพระราชดำริทั่วประเทศ เชื่อมโยงเครือข่ายชุมชนอุดมสุข สู่ธุรกิจสีเขียว (BCG) โดยเน้นบูรณาการทรัพยากร ความรู้และเครือข่ายจากทั้งสองหน่วยงาน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ที่ผ่านมา สำนักงาน กปร. และ ธ.ก.ส. ได้ทำงานร่วมกันหลายกิจกรรม เช่น การจัดหาแหล่งน้ำให้แก่ศูนย์เรียนรู้ที่จังหวัดตากและจังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ 25 แห่ง รวมถึงการสร้างบ้านให้แก่ประชาชนที่ประสบภัยดินโคลนถล่ม จังหวัดเชียงราย ซึ่งสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำริให้เข้าไปช่วยเหลือพร้อมพระราชทานบ้าน 1 หลัง


สำหรับการทำ MOU ครั้งนี้ เป็นความร่วมมือแบบต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลืออย่างยั่งยืนให้แก่เกษตรกรในอนาคต นับตั้งแต่การพักชำระหนี้ การส่งเสริมด้านการตลาด การส่งเสริมการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน อย. ที่สำคัญ ธ.ก.ส. มีสาขา 1,000 กว่าแห่งทั่วประเทศ ก็จะสนับสนุนด้านการตลาด ให้แก่ผลิตภัณฑ์จากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และผลิตภัณฑ์ที่ได้รับ มาตรฐาน อย. ซึ่งปีที่ผ่านมามีผลิตภัณฑ์ที่ผ่าน อย. แล้ว 95 รายการ ในปี 2568 คาดว่าน่าจะได้เพิ่มอีก 90 กว่ารายการ ก็จะสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น” นางสุพร ตรีนรินทร์ กล่าว

ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กล่าวว่าครั้งนี้ถือเป็นอีกจุดตั้งต้นที่ดีสำหรับภาคเกษตร เป็นการต่อเนื่องความร่วมมือที่ได้ทำร่วมกันเมื่อปี 2526 ในการสนับสนุนศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง
เดินตามรอยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยมีศูนย์เรียนรู้ที่ ธ.ก.ส. ดูแลอยู่ 497 ศูนย์ ครั้งนี้เป็นการต่อยอดสร้างความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ด้วยการเติมเต็มองค์ความรู้ในการผลิต การพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการตลาด สู่ภาคการเกษตร

“ธ.ก.ส. จะสนับสนุนสมาร์ทฟาร์มเมอร์ (Smart Farmer) ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจกลับไปประกอบอาชีพการเกษตรต่อจากรุ่นพ่อแม่ ด้วยการเติมเต็มองค์ความรู้ และการนำนวัตกรรมการผลิตสมัยใหม่มาใช้ ซึ่งนอกจากจะได้ผลผลิตที่ดีไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมแล้วยังช่วยลดโลกร้อน ลดการปล่อยของเสียสู่บรรยากาศอีกด้วย” นายฉัตรชัยกล่าว


ทั้งนี้ สำนักงาน กปร. และ ธ.ก.ส. จะร่วมกันสนับสนุนด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์และเชื่อมโยงช่องทางการตลาดระหว่างผลิตภัณฑ์ลูกค้า ธ.ก.ส. ผลิตภัณฑ์ศูนย์เรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ และผลิตภัณฑ์โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตลอดจนยกระดับเส้นทางชุมชนท่องเที่ยว ธ.ก.ส. ด้วยการการถ่ายทอดองค์ความรู้ตามแนวพระราชดำริ เชื่อมโยงเครือข่ายชุมชนอุดมสุข ส่งเสริมเกษตรกรรุ่นใหม่และเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพลูกค้าพักชำระหนี้ตามนโยบายของรัฐ ให้เข้าถึงองค์ความรู้ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ รวมถึงการส่งเสริมให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก Carbon Credit สร้างสมดุลเชิงนิเวศ อนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมของชุมชนผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ความร่วมมือครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการเสริมพลังสร้างเครือข่ายการพัฒนาแบบมีส่วนร่วม ที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์
ที่เป็นรูปธรรมทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อันเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น