xs
xsm
sm
md
lg

“เท้ง” แย้ม สมัยหน้าพร้อมจับมือเพื่อไทยตั้งรัฐบาล หากยอมสารภาพว่าทำผิดต่อประชาชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หัวหน้าพรรคประชาชนเผยหลังเลือกตั้งสมัยหน้า มีความเป็นไปได้ที่จะจับมือกับเพื่อไทยตั้งรัฐบาล หากยอมรับให้ชัดเจนว่าได้ทำผิดต่อประชาชน แต่ออกตัวไม่อยากตั้งเงื่อนไขล่วงหน้า เพราะสถานการณ์อาจเปลี่ยน ควรคุยกันช่วงใกล้เลือกตั้ง โบ้ยพรรคอื่นก็ตั้งเงื่อนไขกับ ปชน.เช่นกัน


วันนี้(27 เม.ย.) ที่โรงแรม The Idle Hotel & Residence นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ได้แถลงภายหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 ของพรรคประชาชน พร้อมกับนายศรายุทธิ์ ใจหลัก เลขาธิการพรรค และ นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค

นายณัฐพงษ์ แถลงตอนหนึ่งว่า ตลอด 3 วันที่ผ่านมา เราได้เน้นย้ำต่อองคาพยพต่างๆ ของพรรค ว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้าหากเรามองโจทย์ของประเทศ คงไม่ได้หมายถึงว่าเราต้องการชนะการเลือกตั้งอย่างเดียว แต่ต้องสร้างรัฐบาลที่ดีที่สุดตามที่ได้ประกาศไว้ตั้งแต่วันก่อตั้งพรรค ซึ่งหากดูจากสถานการณ์ทั้งภายในและภายนอกประเทศ มีการทุจริตคอร์รัปชั่น มีรัฐบาลที่บริหารล้มเหลว ทางออกคือต้องมีรัฐบาลที่ดีที่สุดและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน

ทั้งนี้ พรรคเตรียมนำเสนอนโยบายในอนาคต ประกอบด้วย 3 เสา คือการเมือง ปฏิรูประบบราชการ และนโยบายเศรษฐกิจที่เชื่อว่าจะเป็นความหวังให้กับประชาชนได้ ซึ่งเรื่องนี้เคยเป็นจุดแข็งของพรรคเพื่อไทย แต่ก็พิสูจน์แล้วว่าไม่สามารถสร้างทางออกให้กับประชาชนได้จริง ทางพรรคจึงพร้อมที่จะเสนอตัวอาสามาทำงานในจุดนี้


ส่วนที่มีการคาดหมายว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคสีแดงจะจับมือกับพรรคสีส้มนั้น นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ได้พูดไว้ชัดเจนแล้วว่าการจัดตั้งรัฐบาลแบบที่เป็นอยู่ พรรคประชาชนไม่สามารถเข้าร่วมได้ เพราะไม่ได้นำประชาชนมาเป็นศูนย์กลางในสมการการตัดสินใจ และไม่สามารถแก้ไขปัญหาใดๆ ได้เลย ทั้งการปฏิรูปกองทัพ ทลายทุนผูกขาด และอีกหลายเรื่อง ตราบใดที่ประชาชนถูกถอดออกจากสมการการตัดสินใจของผู้มีอำนาจ ปัญหาเชิงโครงสร้างก็ไม่สามารถแก้ไขได้

เมื่อถามย้ำว่าในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคประชาชนจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ ตอบว่า เราสื่อสารมาโดยตลอดว่าถ้าพรรคเพื่อไทยจะสามารถรวมกับพวกเราได้ ก็อาจจะต้องมีเงื่อนไขบางอย่าง ยกตัวอย่างว่า อาจจะต้องมีการสื่อสารว่าการกระทำที่ผ่านมา เขาทำผิดต่อประชาชนจริงๆ และมีการสื่อสารเรื่องนี้อย่างชัดเจน ไม่อยากให้มองว่าเงื่อนไขการจับหรือไม่จับมือกับพรรคใด เป็นเงื่อนไขที่พรรคประชาชนตั้งขึ้นมาเองแต่เพียงฝ่ายเดียวเท่านั้น พรรคการเมืองฝั่งอื่นๆ ก็ตั้งเงื่อนไขกับเราเช่นเดียวกัน

นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่า สิ่งที่พรรคประชาชนให้ความสำคัญในตอนนี้ ก็คือการทำงานทางความคิด หาทางออกให้กับประชาชนเป็นหลัก ส่วนผลออกมาเป็นอย่างไรจะจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่อย่างไร ยืนยันว่าจุดยืนของพรรคประชาชนคือเราเสนอกับพี่น้องประชาชนว่าอย่างไรก่อนเลือกตั้ง หลังเลือกตั้งเราก็จะยืนยันแบบเดิม ไม่กลับไปกลับมา หาเสียงไว้แบบหนึ่งแต่ทำอีกแบบหนึ่ง


เมื่อถามย้ำอีกว่า หมายถึงพรรคประชาชนไม่ได้ปิดประตูตายในการจับมือกับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ ตอบว่า เป้าหมายที่เราต้องการไม่ใช่แค่ชนะการเลือกตั้ง แต่คือการหาทางออกให้กับประเทศ หากวันนี้ตนเองในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชนสื่อสารไปแล้วว่ามีเงื่อนไขใดที่ทำให้จัดตั้งรัฐบาลกับพรรคใดไม่ได้ แต่สถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงตลอด อย่างเรื่องของกำแพงภาษีสหรัฐก็เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เมื่อเงื่อนไขของโลกเปลี่ยน เงื่อนไขที่ตั้งไว้ล่วงหน้าก็อาจถูกตั้งคำถามในอนาคต อาจจะกลายเป็นการปิดประตูให้กับประเทศหรือเปล่า ดังนั้น สิ่งที่เราสื่อสารมาตลอดว่า เราต้องการหาทางออกให้กับประเทศ เงื่อนไขในการจับหรือไม่จับมือกับพรรคใด ควรจะต้องไปหารือในช่วงใกล้ๆ การเลือกตั้ง และอาจจะไม่ยุติธรรมที่จะมาถามพรรคประชาชนฝ่ายเดียว คนที่ตั้งเงื่อนไขกับพวกเราก็อาจจะเป็นพรรคอื่นๆ ด้วย จึงอยากให้ตั้งคำถามกับพวกเขาด้วยเช่นเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 ของพรรคประชาชนในวันนี้ มีกรรมการบริหารพรรค ส.ส. และสมาชิกพรรคร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยมีวาระสำคัญหลายเรื่อง เช่น การดำเนินกิจการของพรรคการเมืองในรอบปี 2567 ,รายงานงบการเงิน และการแก้ข้อบังคับพรรค โดยมีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เป็นประธาน

นายณัฐพงษ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมว่า การประชุมใหญ่สามัญเป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการทุกปี ซึ่งเป็นสิ่งยืนยันได้ว่า ต้องการขับเคลื่อนให้พรรคเป็นสถาบันทางการเมือง เป้าหมายของการพูดคุยเรื่องการบริหารภายในพรรค จะมีการพูดคุยถึงการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งในครั้งหน้า

โดยงานภายในพรรค และเครือข่ายของพรรค ยืนยันเช่นเดิมว่า การทำงานเมือง เพื่อสร้างคงามเปลี่ยนแปลง ผ่านการรณรงค์ทางความคิด เพราะฉะนั้นเรื่องของเครือข่ายของพรรคและทีมงานจังหวัดในการลงไปทำงานในพื้นที่ ให้เข้าถึงประชาชน ก็จะเป็นเนื้อหาสาระหลักที่จะมีการพูดคุยกันในวันนี้ นอกจากนี้ยังมีการวิเคราะห์ถึงการสื่อสารยุทธศาสตร์ทางการเมือง การเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้ง รวมทั้งนโยบายที่จะเสนอต่อประชาชน โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ


ส่วนการเลือกตั้งระดับเทศบาลที่กำลังจะมาถึง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า มีความมั่นใจในหลายสนาม ซึ่งตนได้ลงพื้นที่ไปช่วยหาเสียงในหลายสนาม ก็พบว่า ผู้สมัครของพรรคมีความพร้อมทั้งจากประสบการณ์ในอดีต และนโยบายที่ดีในการเตรียมพัฒนาพื้นที่ เพื่อให้ตอบโจทย์กับปัญหาในพื้นที่ ซึ่งตนเชื่อว่า จะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้จริงจากสนามการเลือกตั้งเทศบาล

เมื่อถามถึงเป้าหมายของการเลือกตั้งเทศบาล นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ไม่อยากบอกเป็นตัวเลข เนื่องจากทุกสนามที่พรรคประชาชนส่งผู้สมัคร มีโอกาสที่จะชนะ แต่สิ่งที่สำคัญคือ ผู้ที่ออกมาใช้สิทธิ์ ซึ่งหน้าที่ของเราในตอนนี้คือ การสื่อสาร การรณรงค์อย่างแข็งขัน ส่วนคนที่จะตัดสินว่าพรรคจะได้นายกเทศบาลที่ใดบ้าง คือ ประชาชน

ทั้งนี้ พรรคประชาชนจะจัดเวทีปราศรัยใหญ่เลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่วันที่ 30 เมษายนนี้ โดยนายณัฐพงษ์ พร้อมกับผู้ช่วยหาเสียงคือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และนายชัยธวัช ตุลาธน คณะกรรมการคณะก้าวหน้า หน้าหอพิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นเชียงใหม่ เวลา 18.30 น. และในวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงจะขึ้นปราศรัยขอคะแนนประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่




กำลังโหลดความคิดเห็น